ทำไมสงกรานต์ต้องปลอดเหล้า

ปีใหม่ของประเทศไหนๆ ใครๆ เขาก็เฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข แต่ประเทศไทยเรา กลับกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความเศร้า เฝ้ารอการนับศพ รอดูสถิติอุบัติเหตุและความสูญเสีย ตลอด 7 วันอันตราย ทั้งที่ควรจะเป็น 7 วันแห่งความสุขใจ ที่ได้อยู่กับบ้านและครอบครัว

ทำไมสงกรานต์ต้องปลอดเหล้า

ปัจจุบันการเล่นสงกรานต์ เข้าข่าย “สาดเลือด แทนการสาดน้ำ” ความสุขและความสนุกสนาน งดงามแบบประเพณีไทย กลายเป็นความโศกเศร้าของผู้ปกครอง ตลอดจนครอบครัวผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต เป็นที่น่าเวทนาสำหรับผู้พบเห็น ในวันปีใหม่ไทย ยิ่งไปกว่านั้น ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยอีกด้วย

ซึ่งพฤติกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ที่อันตราย มาจากหลากหลายสาเหตุ เช่น กลุ่มผู้เล่นน้ำสงกรานต์ตามจุดต่าง ๆ มีการปิดถนน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ภาพเหตุการณ์น่าสลดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในวันขึ้นปีใหม่ไทย ยังมีให้พบเห็นในกลุ่มผู้เล่นสาดน้ำสงกรานต์ ที่เล่นด้วยความรุนแรง เล่นลักษณะอนาจาร ล่วงละเมิดทางเพศ และดื่มสุราขณะเล่นน้ำ จนเกิดการกระทบกระทั่งกัน ระหว่างผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย

นอกจากเหนือจากการขับรถด้วยความเร็ว ขาดสติประมาท ขาดวินัยจราจร และการพักผ่อนไม่เพียงพอหลับในแล้ว น้ำเมา (เหล้าและเบียร์) ถือเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ผู้คนต้องบาดเจ็บล้มตาย ยิ่งกว่าการทำสงครามในอิรักหรืออัฟกานิสถาน เพราะเพียงสัปดาห์เดียว มีคนต้องตายไปนับร้อยนับพันคน

ส่วนคนที่เมาแล้ว ก็นำมาซึ่งความสูญเสีย ความรุนแรง พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำอนาจารลวนลามหญิงสาว รวมทั้ง เหตุทะเลาะวิวาทยกพวกตีกันแทงกัน ซึ่งนับวันจะมีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น แต่ก็แปลก ที่เทศกาลนี้ กลับไม่มีการควบคุมการดื่มขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันอย่างจริงจังเท่าไหร่นัก ฤาว่าเป็นช่วงนี้ ถือช่วงเวลาแห่งการทำกำไร ที่มากที่สุดของบรรดาพ่อค้าธุรกิจน้ำเมา ที่เอาความตายของลูกหลาน มาแลกกับยอดขายที่เป็นกอบเป็นกำ และทิ้งภาระด้านสังคมไว้ให้คนไทยแก้ไขกันเอง…

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่คนไทยทั้งหลาย จะตระหนักถึงพิษภัยของน้ำเมาอย่างจริงจัง เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ เป็นเทศกาลแห่งความสุขของคนไทยอย่างแท้จริง

ที่มา: เครือข่ายความร่วมมือแก้ไขปัญหาแอลกอฮอล์ บุหรี่ และอุบัติเหตุ จังหวัดเชียงใหม่

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ