ทำนาอินทรีย์ เกษตรที่ดีต่อใจ

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต


ทำนาอินทรีย์ เกษตรที่ดีต่อใจ thaihealth


ปีนี้ "ข้าวสาร" บรรจุแพ็กสุญญากาศอย่างดีเป็นของขวัญที่ดีต่อใจและดีต่อชาวนาไทย หลังจากฤดูเก็บเกี่ยวที่ผ่านมาราคาข้าวตกต่ำ คนไทยช่วยกันซื้อข้าวจากชาวนาไทยทั้งในตลาดออนไลน์และสถานที่ที่เปิดให้ขายข้าวกันคึกคัก


ข้าวที่ขายในท้องตลาดส่วนใหญ่ปลูกด้วยการใช้ปุ๋ยยาเคมีตามที่ทำกันมา แต่มีชาวนาไทยไม่น้อยเปลี่ยนมาทำนาอินทรีย์และบางรายได้ผลลัพธ์ที่สามารถขายได้ราคาที่สูงกว่าท้องตลาด แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องอาศัยความรู้ ความขยันขันแข็ง และมีตลาดรองรับแน่นอน


รูปแบบการทำนาของ ธวัชร กิตติปัญโญชัย ชาว อ.สามพราน จ.นครปฐม ชาวนารุ่นใหม่วัย 45 ปีลิกวิธีการทำนาใหม่ด้วยศาสตร์อินทรีย์ฉบับของเขา จนทำให้มีลูกค้าประจำ คือ รร.สามพรานริเวอร์ไซด์ รับซื้อข้าวจากผืนนาทั้งทั้งหมด ที่มีประมาณกว่า 40 ไร่ หลังจากที่ ธวัชรผ่านโครงการอบรมโครงการ สามพรานโมเดล ภายใต้มูลนิธิสังคมสุขใจ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มุ่งให้เกิดแหล่งผลิตอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม


ทำนาอินทรีย์ เกษตรที่ดีต่อใจ thaihealth


ธวัชร เล่าว่า เริ่มมาทำนาอินทรีย์หลังปี 2554 ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ โดยเลือกทำนาผสมผสานกับสวนส้มโอ ปรับพื้นที่ที่จากเดิมที่เป็นร่องสวนล่มเป็นท้องนา ความรู้จากการเข้าร่วมโครงการสามพรานโมเดลนำมาประยุกต์และส่วนหนึ่งหาความรู้เพิ่ม เช่นการจัดการ กับแมลงจะใช้วิธีหมักสมุนไพร มีส่วนผสมเหล้าขาว บอระเพ็ด ขมิ้นชัน พริกแห้ง น้ำส้มสายชู นำน้ำไปฉีดพ่นในนาข้าว น้ำหมักสมุนไพรจะช่วยเรื่องป้องกันเพลี้ย


นอกจากนี้ยังใช้เชื้อราใช้ไตโคไรม่า โดยซื้อหัวเชื้อมาเพาะกับข้าวเปลือก เริ่มจากใช้วิธีหุงข้าวเปลือกแบบดงข้าว แล้วเหยาะเชื้อไตโคโรม่าลงไปหมักทิ้งไว้ 2 วันเชื้อจะมีสีเขียว นำข้าวมาล้างน้ำ เอาน้ำไปฉีดต้นข้าวทำให้รากข้าวแข็งแรง เมื่อรากแข็งแรงต้นข้าวจะโตและสูง ส่วนข้าวเปลือกก็นำไปใส่โคนต้นอีกที


ธวัชรถ่ายทอดความรู้ว่า รอบแรกของการทำนาเจอปัญหาเรื่องวัชพืชเพราะการทำนาหว่าน จะไม่สามารถคุมหญ้าได้ข้าวกับหญ้าจะขึ้นพร้อมกัน บางครั้งหญ้าสูงกว่า เบียดข้าวจนเล็กแกร็นได้ผลผลิตน้อย จึงไปเรียนวิชาการทำนาโยน เพราะต้นกล้านาโยนจะเติบโตแล้ว 9-12 วันจึงโยนได้ดังนั้นจะมีความแข็งแรงเหนือกว่าหญ้าเพราะต้นพันธุ์โตกว่า เมื่อโยนไปแล้วปล่อยน้ำเข้านา แล้วใช้แหนแดงคลุม แหนแดงจะช่วยปิดแสงไม่ให้หญ้าเติบโตได้ ขณะเดียวกันแหนแดงเริ่มจากสีเขียวกลายเป็นสีแดง หลังจากนั้นจะเปลี่ยนสภาพเป็นปุ๋ยไนโตรเจนชั้นดีให้กับต้นข้าว ซึ่งแหนแดงตักตามร่องสวนมาใส่นา ประมาณ 7 วันจะแตกสปอร์เต็มนา


ทำนาอินทรีย์ เกษตรที่ดีต่อใจ thaihealth


หัวใจสำคัญของการทำเกษตรอินทรีย์เท่าที่ชาวนาวัย 45 ปีได้เรียนรู้คือขั้นตอนการเตรียมดิน ต้องหมักดินกับปุ๋ยคอกให้ได้ที่ถ้าดินดี เช่นเดียวกันการทำนาแบบใส่ใจจะได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาได้เรียนรู้ว่าผักบุ้งเป็นปัญหาที่สำคัญในระหว่างการเก็บเกี่ยวเมื่อใช้รถเกี่ยวข้าว ยางของผักบุ้งจะไปติดในปล่องข้าวทำให้เมล็ดข้าวจำนวนมากไปค้าง ผลผลิตลดลงเช่นกัน ตอนนี้กำลังทดลองใช้เกลือผสมน้ำกำจัดผักบุ้งที่อยู่บนคันนา ให้ความเค็มฆ่าวัชพืช


"ได้ความรู้การทำ เกษตรอินทรีย์ที่ได้มาตรฐานเช่นการทำแนวกันชน เข้าอบรมทำน้ำหมักสมุนไพรใช้เอง ผลผลิตข้าวที่ได้ออกมาต่างกันไม่มากได้ข้าวเพิ่มมาแค่ 50โล แม้ราคาข้าวเปลือกจะขายกันที่ กก.ละ 7-9 บาทแต่ที่เห็นชัดคือต้นทุนหายไป" ชาวนารุ่นใหม่บอกเล่า


ทำนาอินทรีย์ เกษตรที่ดีต่อใจ thaihealth


ปัจจุบันข้าวอินทรีย์ภายใต้แบรนด์ "น้ำ ฟ้า" ของธวัชร รร.สามพรานริเวอร์ไซด์รับซื้อในราคาเกวียนละ 18,000 บาท โดยมีมาตรฐานเกษตรอินทรีย์นานาชาติหรือ IFOAM เมื่อปี 2557 การันตี นอกจากนี้ผลิตข้าวไรซ์เบอรี่ในราคา กก.ละ 80-100 บาทวางจำหน่ายที่ตลาดดอนหวาย และตลาดสุขใจ ซึ่งเป็นตลาดนัดสินค้าอินทรีย์ มีผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ที่เกษตรกรมาขายด้วยตัวเองได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด ในพื้นที่ของรร.สามพรานริเวอร์ไซด์เปิดขายวันเสาร์และอาทิตย์


ปีใหม่สำหรับคนที่อยากไปหาตลาดที่รวมอาหารดีต่อสุขภาพ ลองแวะตลาดสุขใจ หรือขับรถไปตามพื้นที่ร่องสวนของ อ.สามพราน สังเกตง่ายสวนไหนที่มีหญ้าคลุมดินแต่ต้นไม้ยังงอกงาม คือเกษตรอินทรีย์ เกษตรเกื้อกูลตามวิถีคนไทย …น้ำใจไทยช่วยชาวนาซื้อข้าวต่อไปจะขยับมาช่วยซื้อสินค้าอินทรีย์เกษตรที่ผลิตอาหารดีต่อสุขภาพ สนใจขอความรู้ทำนาอินทรีย์จากคุณธวัชร 09-2251-6514 หรือ 08-4670-0930

Shares:
QR Code :
QR Code