ทัพนักวิ่งปลุกพลังต้านภัยบุหรี่เพื่อแม่
ที่มา : เว็บไซต์ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
อีกตัวช่วยหนึ่งของการเลิกบุหรี่คือ การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง แกว่งแขน หรือวิธีการใดก็ตามจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและยังคลายเครียดจากการเลิกบุหรี่ด้วย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และโรงเรียนเซนต์ปีเตอร์ พร้อมด้วยสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทยและภาคีเครือข่ายจัดงาน "เดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี ตรีมิตรมินิมาราธอน ครั้งที่ 7" ภายใต้แนวคิด "12 สิงหานี้ เลิกบุหรี่….เพื่อแม่" โดยมีนักวิ่งกว่า 5,000 คน มาร่วมแสดงพลังต่อต้านบุหรี่ และผู้ตั้งใจเลิกสูบบุหรี่มาร่วมลงชื่อด้วย
ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวถึงการเชื่อมประสานระหว่าง สสส.และงานเดินวิ่งฯ ครั้งนี้ว่า ในปีนี้ สสส.อยากชวนทุกคนมาเลิกบุหรี่เพื่อแม่ และเป็นปีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา อยากให้คนไทยได้ร่วมกันทำสิ่งดีๆ เพื่อพระองค์ท่าน ปัจจุบันคนไทยสูบบุหรี่อยู่ที่ประมาณ 12 ล้านคน กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน
"เราตั้งเป้าหมายจำนวนคนเลิกบุหรี่ 3 ล้านคนใน 3 ปี มีภาคีหลักคือ กระทรวงสาธารณสุข และหมออนามัยทั่วประเทศกว่า 40,000 คน อีกทั้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่า 1 ล้านคน โดย อสม. 1 คนชวนคนเลิกบุหรี่ให้ได้ 1 คนต่อ 1 ปี มีแนวโน้มสามารถทำได้และจะได้จำนวนคนเลิกบุหรี่ปีละ 1 ล้านคน ต้องทำต่อเนื่อง 3 ปี นอกจากนี้จะนำคนที่ประสบความสำเร็จในการเลิกบุหรี่มาชวนและให้กำลังใจคนที่อยากเลิกบุหรี่ต่อไป" ดร.นพ.บัณฑิต กล่าว
ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับโครง การนี้มาก และ ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่า การกระทรวงสาธารณสุข ประกาศให้โครงการนี้เป็น 1 ใน 16 โครงการเร่งด่วน ระยะ 18 เดือนของกระทรวงฯ ส่งเสริมให้ร่วมกันลงมือทำกิจกรรมทั่วประเทศตลอดทั้งปี
ด้าน อ.ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิแผนกิจกรรมทางกาย สสส. กล่าวถึงการวิ่งที่เป็นเครื่องมือช่วยให้คนไม่หันไปสูบบุหรี่ว่า การออกกำลังกายเป็นเครื่องมือที่ดี ทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และคนที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แสดงว่าเป็นคนรักตัวเองและมีวินัย คนลักษณะนี้เป็นคนมุ่งอนาคต เพราะฉะนั้นเขาจะคุมตัวเองได้ แน่นอนว่าเขาจะปฏิเสธสิ่งเสพติดทุกชนิด รวมถึงบุหรี่ด้วย ถ้าควบคุมตัวเองให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อยู่ในสังคมที่ดี ก็รับรองว่าไร้ควันบุหรี่แน่นอน
"สสส.ถือว่าวันแม่เป็นโอกาสดีที่เราจะทำเรื่องดีงาม เป็นการปฏิบัติบูชาถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถ้าใครสูบบุหรี่อยู่แล้วเลิกบุหรี่ได้ ถือว่าเป็นการบูชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถ้าคนในบ้านหรือคนรอบข้างเรายังสูบบุหรี่อยู่ก็พยายามชักชวนให้เขาเลิก ถือว่าเป็นกุศลยิ่ง" อ.ณรงค์ กล่าว
สำหรับ ธวิช สระทองคำ อายุ 53 ปี ผู้ที่เคยติดแอลกอฮอล์อย่างหนักจนเป็นอัมพฤกษ์ ปัจจุบันหันหลังจากแอลกอฮอล์ทุกชนิดเปลี่ยนมาวิ่ง เล่าว่าเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ติดเหล้าและเบียร์อย่างหนักจนเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อเข้าโรงพยาบาลรับการรักษาจึงตัดสินใจเลิกแอลกอ ฮอล์อย่างเด็ดขาด
"ยังโชคดีที่ไม่ติดบุหรี่ด้วย คุณหมอบอกว่า ถ้าสูบบุหรี่ด้วย ตับจะยิ่งแย่ไปกว่านี้ เมื่อตัดสินใจเลิกแล้ว ผมจึงหันมาวิ่งเพื่อบำบัดตัวเอง โดยเริ่มจากการเดินและวิ่งสลับกัน ร่างกายทุกวันนี้ดีขึ้นมาก เมื่อเลิกสิ่งมึนเมาได้แล้วโลกของผมน่าอยู่ขึ้นมาก" ธวิชเผยความในใจ
ด้าน ภัทราวรรณ สันติบวรวงศ์ เยาวชนวัย 14 ปี ร่วมวิ่งในระยะ 10 กม. บอกว่า เคยเห็นคนรอบข้างสูบบุหรี่ คิดว่าการสูบบุหรี่ไม่เท่และยังเป็นการทำร้ายตัวเองด้วย นอกจากนี้ยังได้ชวนผู้สูบบุหรี่ทุกคนหันมาเริ่มต้นรักสุขภาพ โดยใช้การวิ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการรักษาสุขภาพ
อีกครอบครัวรักสุขภาพ บัวแก้ว หอมจันทร์ อายุ 39 ปี พาสมาชิกในครอบครัวออกมาวิ่งในระยะทาง 3 กม. แสดงความคิดเห็นต่อการวิ่งรณรงค์เผยแพร่แนวคิด "12 สิงหานี้ เลิกบุหรี่….เพื่อแม่" ว่า ปีนี้ สสส.ได้เข้ามาร่วมจัดกิจกรรมโดยเชิญชวนให้คนเลิกบุหรี่เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะบุหรี่ไม่ใช่เรื่องที่ดี ทำลายสุขภาพ อยากให้หันมาออกกำลังกาย เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยบำบัดได้ ถ้าตั้งใจเลิกบุหรี่ในวันแม่ปีนี้ นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุด
สำหรับผู้ที่ตั้งใจเลิกบุหรี่สามารถลงชื่อได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือคลินิกหมออนามัยใกล้บ้าน เพื่อรับคำปรึกษาและขั้นตอนการเลิกบุหรี่อย่างยั่งยืน.