‘ต่อเล็บ’ เสี่ยงมะเร็งผิวหนัง!!

ชี้! สารอันตรายจากกล่อง uv ก่อโรค

 

 ‘ต่อเล็บ’ เสี่ยงมะเร็งผิวหนัง!!

          บรรดาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในอังกฤษเตือนหญิงสาวที่รักสวยรักงาม ทำเล็บตามร้านเสริมสวยอาจเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังไม่รู้ตัว

 

          วารสาร archives of dermatology เผยแพร่คำเตือนของบรรดาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในอังกฤษ เตือนหญิงสาวที่รักสวยรักงามด้วยการทำเล็บตามร้านเสริมสวยอาจเสี่ยงได้มะเร็งผิวหนังเป็นของแถม

 

          คำเตือนจากกลุ่มแพทย์มีขึ้นหลังจากมีหญิง 2 คนเกิดมะเร็งขึ้นที่มือหลังจากเปิดรับกล่องอัลตราไวโอเลต (uv nail lamps) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการต่อเล็บ และเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันมากในร้านเสริมสวยหลายพันแห่งทั่วอังกฤษ ทั้งยังสามารถซื้อไว้ใช้ส่วนตัวที่บ้านได้ด้วยเนื่องจากราคาไม่แพง โดยผู้เชี่ยวชาญวิตกกังวลว่าการใช้รังสี uva ที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งถือเป็นแสงอัลตราไวโอเลตชนิดที่เป็นอันตรายมากที่สุดจากกล่อง uv อาจส่งผลทำลายเซลล์ผิวหนังได้

 

          ทั้งนี้ ธุรกิจทำเล็บเติบโตอย่างรวดเร็วในอังกฤษในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่ผู้เชี่ยวชาญในการต่อเล็บจะนำเล็บเทียมต่อกับเล็บจริงของลูกค้าและตกแต่งทาสีให้สวยงาม แต่เวลานี้เริ่มเป็นที่วิตกกังวลเพิ่มขึ้นว่าผู้ที่ไม่ได้รับการฝึกหัดมาอย่างดีอาจทำให้สุขภาพของลูกค้าตกอยู่ในความเสี่ยงได้ อีกทั้งใช้สินค้าราคาถูกและเคมีที่เป็นอันตราย เช่น สาร methyl methacrylate (mma) ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แต่ยังมีใช้อยู่ในอังกฤษ

 

          ด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยเทกซัสในสหรัฐ เรียกร้องให้ตรวจสอบความปลอดภัยของกล่อง uv ที่ใช้สำหรับต่อเล็บเพิ่มเติมต่อไปอีก นอกจากนี้ผู้ควบคุมกฎระเบียบควรสังเกตการณ์หาสัญญาณการเติบโตของเซลล์มะเร็งในมือและเล็บของผู้ใช้บริการต่อเล็บด้วย

 

          ความกังวลและอันตรายในการต่อเล็บมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้เคยมีรายงานพิษภัยจากการเสริมสวยมาอย่างต่อเนื่อง เช่น อันตรายจากความไม่สะอาดของเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำเล็บที่อาจทำให้เล็บเป็นเชื้อรา หรือติดเชื้ออย่างรุนแรงผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม ทำให้ระคายเคืองต่อผิวและหนังศีรษะ อันตรายจากขี้ผึ้งที่ใช้กำจัดขนที่อาจทำผิวลอกหรือไหม้ได้หากไม่ระมัดวังในการตรวจสอบอุณหภูมิ ความเสี่ยงจากผลิตภัณฑ์ลอกผิวหน้าที่เป็นกรด หรือเลเซอร์ที่มีอนุภาพแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดผื่นแดง ผิวลอก ไปจนถึงเม็ดพุพองหรือเริมที่ปาก (หากมีเชื้อไวรัสนี้อยู่แล้ว) หากไปเข้าร้านที่ไม่มีคุณภาพ เป็นต้น

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้

 

 

update 06-05-52

Shares:
QR Code :
QR Code