ชู 5 มาตรการแก้ นศ. ขายตัว
ย้ำ! ทุกฝ่ายร่วมมือ แก้ปัญหาระยะยาว
รมช.ศธ. ชู 5 มาตรการ แก้ปัญหานักเรียนนักศึกษาขายบริการทางเพศ รับปัญหาใหญ่ ต้องร่วมกันแก้หลายกระทรวง
(27มี.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา โดยมี น.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธาน ทำหน้าที่ประธาน โดยที่ประชุมได้ พิจารณากระทู้ถามด่วน เรื่อง การแก้ไขปัญหานักเรียนนักศึกษาขายบริการทางเพศ โดยนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ถามต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายให้ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นผู้ตอบกระทู้แทน
นายตวง กล่าวว่า สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมวัตถุนิยมและบริโภคนิยม มีค่านิยมและทัศนคติที่ ฟุ่มเฟือยหลงใหลในวัตถุนิยม ประกอบกับการได้รับข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและการเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเยาวชน นักเรียน นักศึกษา จนก่อให้เกิดปัญหาการขายบริการทางเพศ หรือการถูกล่อลวง ติดการพนัน หรือพฤติกรรมการเลียนแบบ
จากการสำรวจพบว่านักเรียน นักศึกษา กว่าร้อยละ 60 เคยเข้าเว็บไซต์ขายบริการทางเพศ ดังนั้นหากปล่อยให้ปัญหานี้ลุกลามต่อไป จะทำให้กลายเป็นปัญหาสังคมที่ยากจะแก้ไขเยียวยา รัฐบาลมีนโยบายและแนวทางในการแก้ไขปัญหานักเรียน นักศึกษาขายบริการทางเพศอย่างไรทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
“รัฐบาลอย่าทำเรื่องนี้เป็นเพียงไฟไหม้ฟาง ควรทำให้สังคมตระหนักที่จะต้องแก้ปัญหาร่วมกัน อีกทั้งควรตั้งหน่วยงานกลาง ขึ้นมาประสานงานระหว่างกระทรวงต่างๆ เพื่อช่วยควบคุมดูแล และทำให้การแก้ไขปัญหาเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น” นายตวงกล่าว
นายชัยวุฒิ ชี้แจงว่า รัฐบาลตระหนักดีว่าเป็นปัญหาใหญ่ ที่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงไอซีที และที่สำคัญ คือ ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองผู้ปกครอง
อย่างไรก็ตามเมื่อทราบข้อมูลมีเยาวชนเคยเข้าเว็บไซต์ร้อยละ 60 นั้น ก็ตกใจอย่างมาก และตระหนักดีว่าเป็นเรื่องที่อันตราย ดังนั้นตนในฐานะผู้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ จึงได้กำหนดนโยบายทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว คือ
1. กระทรวงศึกษาธิการได้ขอความร่วมมือไปทุกส่วน ทั้ง สพฐ. อาชีวะ อุดมศึกษา เพื่อช่วยสอดส่องดูแล และให้คำแนะนำกับเยาวชนให้ไม่หลงผิดกับวัตถุนิยม
2. ส่งเสริมกิจกรรมด้านจริยธรรม
3. ส่งเสริมสุขภาพจิตใจ เช่น การสนับสนุนให้เล่นกีฬา ฝึกสมาธิ
4. การสร้างเครือข่ายนักเรียนเพื่อเฝ้าดูและตรวจสอบกันเอง
5. การดูแลด้านสวัสดิการให้ดีขึ้น ทั้งเรื่องการเรียนฟรี ที่อยู่อาศัย เนื่องจากนักเรียนอ้างว่าปัญหาเศรษฐกิจเป็นต้นตอของปัญหา
นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงอื่นก็มีมาตรการควบคู่กันไปด้วย เช่น การดำเนินคดีกับเว็บไซต์ที่สุ่มเสี่ยง ดังนั้นตนจึงเชื่อว่าในระยะยาวน่าจะแก้ไขเรื่องนี้ได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
update 27-03-52