ชี้เบาหวานโรคร้ายทำลายมนุษยชาติ

กรมอนามัยแนะคนไทยกินตามหลักโภชนาการ

 

          กรมอนามัยร่วมภาคีเครือข่ายโภชนาการ-อาหาร ระดมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ แนะคนไทยเลือกกินตามหลักโภชนาการ เลี่ยงเบาหวาน โรคอ้วน ต้นเหตุโรคหัวใจหลอดเลือด ที่เป็นโรคทำลายล้างมนุษยชาติ รองจากโรคเอดส์

 

          ศ.เกียรติคุณ นพ.เทพ หิมะทองคำ นายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายด้านอาหาร อาทิเช่น สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และกรมอนามัย จัดงานประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 1-3 ต.ค.2551 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยใช้ชื่อการประชุมว่า “ภาคีร่วมใจ โภชนาการเมืองไทยมั่นคง” ซึ่งในปีนี้ ได้กำหนดเรื่องโรคอ้วนและเบาหวาน เป็นประเด็นหลักในการประชุมครั้งนี้

          ศ.เกียรติคุณ นพ.เทพ กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่ามีคนอ้วนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ประสบปัญหานี้เช่นกัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในปี พ.ศ. 2550 มีผู้ป่วยเบาหวาน 246 ล้านคน ได้มีการคำนวณทางสถิติคาดการณ์ว่า ในปี พ.ศ. 2568 จะมีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มเป็น 380 ล้านคน ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มที่รวดเร็ว จนทางสหประชาชาติต้องประกาศให้โรคเบาหวานเป็นโรคที่ทำลายมนุษยชาติ รองจากโรคเอดส์ และได้ประกาศให้ทุกประเทศในโลกร่วมกันต่อเบาหวานและป้องกันโรคอ้วน โดยกินให้ถูกตามหลักโภชนาการ

 

          เมื่อเกิดภาวะโรคอ้วนแล้ว มีคนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะผู้หญิงที่หาวิธีในการลดน้ำหนัก พึ่งสถาบันลดน้ำหนัก กินยาเพื่อควบคุม ซึ่งจากประสบการณ์พบว่า มีจำนวนไม่น้อยที่เกิดภาวะโยโย้เอฟเฟคท์ตามมา และทำให้อ้วนมากกว่าเดิม เพราะโดยปกติคนที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว จะเกิดอาการหิวและกินมากขึ้น เนื่องจากสมองยังปรับตัวไม่ทัน นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าคนที่กินยาลดน้ำหนัก มีจำนวนไม่น้อยที่เกิดปัญหาไทรอยด์เป็นพิษ เนื่องจากยาเหล่านั้นเป็นฮอร์โมน ที่มีการใส่ฮอร์โมนในปริมาณเกินปกติ 5 เท่า เพื่อให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ไม่อยากอาหาร ใจสั่นและเหนื่อยง่าย ดังนั้น หากต้องการลดน้ำหนักควรทำให้ถูกวิธี ด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายตามหลักของกรมอนามัย

 

          ศ.เกียรติคุณ นพ.เทพ กล่าวต่อว่า การประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติครั้งนี้ ยังจะเป็นการเตรียมความพร้อมการจัดประชุมวิชาการโภชนาการนานาชาติ ในเดือนต.ค.ในปี 2552 ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพ และได้มีการเตรียมความพร้อมมาตลอด 4 ปี โดยจะมีผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วโลก 3,000-4,000 คน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์งานโภชนาการทั้งหมด

 

          รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน อดีตคณบดีคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรามองข้ามปัญหาการกิน กินไม่ถูก กินไม่เป็น จึงก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา ซึ่งเราเห็นสหรัฐ เป็นตัวอย่างชัดเจน โดยในปี 2534 ได้มีการประกาศให้ประชากรลดกินอาหารที่มีไขมัน แต่ให้เน้นกินคาร์โบไฮเดรต ทำให้ต่อมาในปี 2543 ทำให้คนอ้วนในประเทศเพิ่มมากขึ้น จากร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 65 ของประชากร หรือประชากร 2 ใน 3 จะเป็นโรคอ้วน ดังนั้น เราจึงควรเรียนรู้โดยให้มีการบริโภคอาหารอย่างพอเหมาะ กินอย่างหลากหลายและสมดุล

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

update : 08-09-51