ชี้คนไทย1ใน3ติดเชื้อหวัด2009

ผู้ป่วยไข้เลือดออกกว่าแสน

 

 ชี้คนไทย1ใน3ติดเชื้อหวัด2009

 

          สำนักระบาดวิทยา คาด หวัด 2009คนไทยติดเชื้อแล้ว 37% หรือ 1 ใน 3 “แพทย์” ชี้ยุงลายพัฒนาบินสูง ดื้อยา แถมปล่อยเชื้ออื้อซ่า ส่งผลไข้เลือดออกระบาดรุนแรง ด้าน ศ.นพ.สุธี คาดปีนี้ผู้ป่วยทะลุ 1 แสนคน ระบุนโยบาย 3 ร. 5 ป.ของ สธ. คงคุมไข้เลือดออกไม่ได้ แนะรัฐหนุนผลิตวัคซีนไข้เลือดออก

         

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ขณะนี้ถือว่ายังไว้วางใจไม่ได้ เพราะจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งหมด เป็นผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ถึง 20% ส่วนการที่ต้องเปิดช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่นั้น ขณะนี้ถือว่ายังไม่จำเป็น เพราะจากการประชุมผู้บริหารทุกสัปดาห์ พบว่า ตัวเลขผู้ป่วย ในจังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงสุดก็พบว่า มีผู้ป่วยเฉลี่ยโรงพยาบาลละ 2-22 คนเท่านั้น สำหรับ รพ.มหาราชนครราชสีมา ที่มีข่าวว่า จำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่มากจนเตียงที่รองรับผู้ป่วยไม่เพียงพอนั้น ขอชี้แจงว่า เป็นภาวะปกติของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และมีผู้มารับบริการจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่อยู่ระหว่างปรับปรุงระบบบริการเพื่อแก้ปัญหาผู้ป่วยแออัดล้นโรงพยาบาล

 

          นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในขณะนี้ว่า คาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อไปแล้วประมาณ 37% หรือ 1 ใน 3 ของประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นอีกประมาณ 65% ยังเสี่ยงที่จะติดเชื้ออยู่ สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 63 รายนั้นพบว่า 70% มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มะเร็ง ไต 20% มีภาวะอ้วน น้ำหนักมาก และอีก 10% ไม่มีอะไรผิดปกติ

 

          ด้าน  ศ.นพ.สุธี  ยกส้าน ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาวัคซีนไข้เลือดออก โครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงปัญหาโรคไข้เลือดออกปีนี้คาดว่าจะมีผู้ป่วยเกิน 1 แสนคน ไม่มีทางที่จะแก้โดยการควบคุมยุงด้วยการใช้วิธี 3 ร. และ 5 ป. คือ การดูแลสถานที่สำคัญเป็นพิเศษ ได้แก่ โรงเรียน โรงเรือน และโรงพยาบาล และการปิดฝาภาชนะกักเก็บน้ำทุกชนิด เปลี่ยนน้ำทุกๆ 7 วัน ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะกักเก็บน้ำ ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมเพื่อไม่ให้เป็นที่เพาะพันธุ์ของยุง และปฏิบัติตนเองจนเป็นนิสัย เพราะยุงลายบินได้ไกล ดังนั้นจะคุมยาก ส่วนการฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุงจะต้องทำอย่างต่อเนื่องไม่ใช่ทำครั้งเดียว

 

          ด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลกไวรัสสัตว์สู่คน กล่าวว่า ในปีนี้ไวรัสไข้เลือดออกมีลักษณะพิเศษเดิมจะมีแหล่งรังโรคเป็นสัตว์แต่เดี๋ยวนี้จะตัดสัตว์ที่เป็นแหล่งรังโรคทิ้งเหลือคนกับยุงลาย ทำให้ไวรัสโตได้เร็วขึ้น แต่ถ้าอากาศแห้งแล้ง ไวรัสก็สามารถหนีไปอยู่ในสัตว์ เช่น หนู ลิงได้ นอกจากนี้แทนที่จะเป็นยุงในบ้านแต่ยุงนอกบ้านก็สามารถแพร่เชื้อได้ และไม่ได้เป็นยุงกลางวันอย่างเดียว ตอนพลบค่ำก็พบได้

  

          ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้เชื้อไวรัสอยู่ได้นานขึ้น เติบโตได้เร็ว คือแทนที่จะเพิ่มจาก 1 ตัวเป็น 10 ตัวใน 1 นาทีแต่อาจจะเพิ่มเป็น 100 ตัวใน 1 นาที นอกจากนี้ยุงดื้อต่อยาฉีดพ่นกันยุง การฉีดพ่นก็ไม่มีความหมาย อีกทั้งยุงบินสูงขึ้น เกาะฝาผนังหรือหลังคาไม่สนใจยากันยุงที่ฉีด การป้องกันไข้เลือดออกจะยากเพราะเป็นเรื่องของยุง ส่วนเรื่องยากันยุง หรือยาฉีดกันยุงก็ต้องเลือกใช้ที่ดีมีคุณภาพ แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้มีการพิสูจน์คุณสมบัติว่าสามารถไล่ยุงได้ในรัศมีเท่าใดหรือเป็นไปตามที่มีการโฆษณาหรือไม่

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

 

update: 16-09-53

อัพเดทเนื้อหาโดย: ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code