ชีวิตนี้ขอห่าง “เหล้า” คำสารภาพจากลูกที่ก้าวสู่การเป็นพ่อ

         พ่อ คือ ผู้ให้ ในแบบที่ …ไม่สามารถหาสิ่งอื่นใดมาเทียบได้อีก ทั้งยังเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกๆ ในหลายๆ ด้าน… แต่เมื่อใดที่พ่อแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกมา “ลูก” ก็ไม่ควรที่จะนำมาปฏิบัติตามเช่นเดียวกัน

         เฉกเช่นเดียวกับ เดชธนพล สิงหนาม หรือครูอ้วน อายุ 50 ปี ที่มีบ้านเดิมอยู่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นบุคคลที่ “เกลียดเหล้า” เป็นที่สุด เนื่องจากได้เห็นพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ของพ่ออันเป็นที่รัก ทั้งทะเลาะวิวาทกับคนอื่นๆ และคนในครอบครัวก็พลอยถูกหางเลขความเกรี้ยวกราดจากน้ำเมาไปด้วยทุกครั้งที่ท่านดื่มเหล้า จนส่งผลให้ครอบครัวไม่อบอุ่นเลย

            “ตั้งแต่จำความได้ ผมก็เห็นพ่อดื่มเหล้าอย่างหนักทุกวัน ตอนยังไม่ดื่มพ่อเป็นคนมีจิตใจดี รักครอบครัว แต่พอเหล้าเข้าปากแล้ว กลายเป็นคนละคน ทั้งคนในละแวกบ้านใกล้เรือนเคียงก็ดื่มกันแทบทุกบ้าน จึงไม่เป็นเรื่องแปลกสำหรับผมที่จะเห็นคนเมาแทบทุกวัน”

            ครูอ้วน บอกต่อว่า พ่อจะดื่มเหล้าทั้งที่บ้านและออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนนอกบ้านบ่อยครั้ง ซึ่งเท่าที่เคยเห็นพ่อจะดื่มน้อยที่สุดก็ประมาณ ½ ขวดต่อวัน และทุกครั้งเมื่อได้เวลากลับเข้าบ้าน ความรู้สึกของทุกคนในบ้านจะเกิดความระส่ำระสาย เพราะทุกคนรู้ดีว่าเมื่อพ่อดื่มจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง…

            “เมื่อพ่อกลับมาพวกเราทุกคนจำเป็นต้องหลบกันไปคนละทิศคนละทาง บ้างก็ต้องไปหลบที่ใต้ถุนบ้าน หลบใต้บันได หลบที่พงหญ้าข้างบ้านบ้าง เพราะทุกครั้งที่พ่อดื่มมักจะทะเลาะวิวาททำร้ายคนในบ้าน รวมถึงทำร้ายร่างกายแม่ด้วย เราจำเป็นต้องแยกแม่ออกมาจากบริเวณนั้นอย่างเร็วที่สุด… นับเป็นภาพที่ไม่ค่อยน่าดูนัก หากเปรียบเทียบกับครอบครัวอื่นๆ และเหตุการณ์ที่แบบนี้ก็จะเกิดขึ้นซ้ำๆ แทบทุกวัน”

            ซึ่งนั้นทำให้ลูกๆ ทุกคน รวมถึงครูอ้วนเองได้แต่แอบน้อยใจอยู่บ่อยครั้ง และเกิดคำถามขึ้นมาเสมอว่าทำไมบ้านเราถึงไม่มีความสุขแบบบ้านอื่นที่รักใคร่กลมเกลียวกัน

            “และเหตุการณ์ที่ตนเองจำได้ไม่ลืม และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตนตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเหล้า คือ เห็นพ่อดื่มเหล้าอย่างหนัก และทะเลาะกับแม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก จนต้องหนีออกไปนอนนอกบ้าน แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาเพราะคิดว่าเราจะไปไหนไม่ได้ ทิ้งครอบครัวไปไม่ได้ และสงสารแม่ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการทำร้ายร่างกาย ซึ่งตอนทำบัตรประชาชนครั้งแรกของตนเองนั้น เคยขอให้พ่อเลิกดื่มเหล้าเพื่อเราได้ไหม แต่บิดากลับอารมณ์เสียใส่แรงมาก จนตนเองเสียใจทุกครั้ง”

            จนมาถึงวันที่พ่อของครูอ้วนต้องจบชีวิตลงด้วย “เหล้า” จากเส้นเลือดในสมองแตก เนื่องจากได้หยุดดื่มกะทันหันจนร่างกายรับสภาพไม่ไหว เมื่อสูญเสียพ่อไปประกอบกับความไม่อบอุ่น ความแตกแยกในครอบครัว รวมถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่เกิดจาก “เหล้า” ทำให้ครูอ้วนปฏิญาณไว้กับตนเองว่า จะไม่เตะต้องเหล้าเป็นอันขาดเพราะไม่อยากเป็นเหมือนพ่อ และด้วยบทบาทของการก้าวเข้าสู่ความเป็นพ่อคนแล้วในวันนี้ ก็ไม่อยากให้ลูกต้องรู้สึกเหมือนที่ตนเคยรู้สึกซ้ำรอยอีก…

            “ปัจจุบันผมพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ครอบครัวของผมมีความสุขมาก เราทุกคนรักใคร่กลมเกลียวกัน เข้าอกเข้าใจกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งความรู้สึกเช่นนี้ผมไม่เคยได้รับเลยเมื่อสมัยยังเด็กหรือตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่และเมื่อเป็นพ่อคน ผมก็จะสอนลูกไม่ไห้ดื่มเหล้าด้วยการกระทำ เพราะการที่เราจะสอนใคร ว่าไม่อยากให้ทำโน่น ทำนี่เพราะมันไม่ดี เราก็จำเป็นต้องทำให้เป็นแบบอย่างได้เช่นกัน และนั่นผมถือว่าเป็นการสอนที่ดี”

            ครูอ้วนไม่ได้เพียงเป็นตัวอย่างที่ดีให้ครอบครัวเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงคนรอบข้าง อย่างเพื่อน ลูกศิษย์ เพื่อนบ้านและคนที่รู้จักอีกด้วย

            “การจะห้ามไม่ให้คนดื่มเหล้าเลยคงถือเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ หากเราเป็นตัวอย่างที่ดี และใช้วิธีพูด เกลี้ยกล่อมให้คนรอบข้างงดดื่มในบางวัน เช่น วันพระ นั่นก็น่าจะถือเป็นจุดเริ่มต้นงดเหล้าที่ดี ผมคิดว่าผมได้เติมเต็มให้กับครอบครัวอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดมันก็จะล้นไปถึงคนรอบข้างเอง”

            ไม่เพียงแต่การเป็นตัวอย่างที่ดีที่ไม่ดื่มเหล้าแล้วครูอ้วนยังได้น้อมนำเอาพระราชดำริของ “พ่อหลวง” ในเรื่องการใช้ชีวิตพอเพียงมาปรับใช้กับครอบครัวด้วย…

            “เดิมผมไม่เคยเข้าใจเลยว่า คำว่าพอเพียงคืออะไร ไปนึกถึงแต่ การเลี้ยงปลา ปลูกผัก ต่อมา 5-6 ปี ผมถึงรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ และทำมาใช้สอนคนในครอบครัว ครั้งหนึ่งลูกผมต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ ทั้งที่รถเก่ายังใช้การได้อยู่ ตนจึงเอ่ยปากสอนลูกว่า จำไว้นะลูก เรามีรถไว้ใช้ ไม่ใช่ไว้โชว์ เพราะคันเก่าก็ยังใช้ได้อยู่ ซึ่งนั่นผมถือว่าเป็นการสอนให้ลูกเข้าใจคำว่าพอเพียง”

            ซึ่งครูอ้วนยังฝากไปถึงพ่อที่ยังดื่มเหล้าอยู่อีกด้วยว่า “เหล้าไม่เคยดีกับใคร หากยังมีเวลาควรให้ความสำคัญกับครอบครัว ให้ความรัก ความอบอุ่น เพราะคุณคงไม่อยากให้ลูกของคุณรู้สึกเหมือนที่ผมเคยรู้สึกเมื่อครั้งยังเด็ก”

            ถึงแม้วันพ่อจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่เราก็ยังคงทำดีเพื่อพ่อ เพื่อครอบครัวได้ทุกวัน เริ่มวันนี้ยังไม่สาย เลิกเหล้า สร้างความรักสู่ครอบครัวดีกว่านะคะ…..

เรื่องโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

Update: 07-12-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่