ชาวชุมชนร่วมเทใจ ทำบ้านวัดไทรน่าอยู่

          ปัญหาทางเศรษฐกิจปากท้องเป็นเรื่องสำคัญต่อการดำรงอยู่ของคนไทยส่วนใหญ่ สภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจมักเป็นเรื่องรองลงมาหรืออยู่ในอันดับท้ายๆ แต่ที่ชุมชนบ้านวัดไทร ต.คลองตาคตอ.โพธาราม จ.ราชบุรี ชาวบ้านกลับเห็นว่าสภาพล้อมของชุมชนที่สะอาดร่มรื่นช่วยทำให้ชุมชนดูปลอดภัยและน่าอยู่อาศัย


/data/content/26075/cms/e_befgkopqw149.jpg


          บุญช่วย  แมลงภู่ อดีตข้าราชการครูวัยเกษียณ ใช้เวลาว่างที่เหลืออยู่ชักชวนลูกศิษย์ คนในชุมชนหมู่ที่ 1 บ้านวัดไทร ร่วมกันปรับสภาพแวดล้อมสองข้างถนนที่เป็นเส้นทางขนานกับทางรถไฟสายใต้ ภายใต้โครงการ "สองข้างทางสวยงาม บ้านวัดไทรน่าอยู่”  ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเทศบาลคลองตาคต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รู้ความต้องการของชาวบ้านเป็นอย่างดี


          บ้านวัดไทร หมู่ 1 ปัจจุบันมีบ้านอยู่อาศัย 658 หลังคาเรือนประชากรราว 1,500 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพราชการ เป็นแรงงานรับจ้างในโรงงานทอผ้าบ้าง โรงงานเซรามิก โรงงานที่นอนและโรงงานตุ๊กตา ที่เหลือก็เป็นเกษตรกรปลูกผักและทำนาอยู่เล็กน้อย เพราะเนื้อที่น้อยลงกว่าเดิมมากบ้านพักอาศัยตั้งอยู่ริมถนนคู่ขนานกับทางรถไฟ มีพื้นที่ว่างระหว่างทางรถไฟกับถนนที่ใช้สัญจรไปมา พื้นที่เหล่านั้นบ้างก็ถูกปล่อยให้รกร้างเพราะวัชพืชที่ขึ้นปกคลุม นานๆครั้งพนักงานจากหน่วยงานการรถไฟแห่งประเทศไทยจะมาตัดถางวัชพืชเหล่านั้นเมื่อเห็นว่าอาจเป็นอุปสรรคต่อการเดินรถไฟได้


          "หมู่บ้านเราเป็นทางเข้าหมู่บ้านในตำยลคลองตาคตที่เชื่อมมาจากถนนใหญ่ สภาพข้างทางรถไฟเดิมจะเป็นป่ารกร้าง กลายเป็นที่ทิ้งขยะ มี


          สภาพไม่น่ามอง พอตกกลางคืนก็มีสภาพน่ากลัว ดูไม่น่าปลอดภัย เราเลยมาทำประชาคม ประชุมกันแล้วก็เอากรรมการหมู่บ้านที่มีอยู่แล้วเข้ามาร่วม มีประธาน อสม. รองนายก อบต. และมีกำนันเป็นประธาน ได้ความคิดว่าจะต้องปรับปรุงสองข้างทางให้มีสภาพดีขึ้น ปลอดภัยขึ้น" หัวเรือใหญ่ของโครงการ เล่าถึงที่มา หลังการประชุมกันได้ประสานงานกับเจ้าของพื้นที่คือการรถไฟแห่งประเทศไทยเห็นชอบที่จะให้ชุมชนพัฒนาปรับสภาพพื้นที่ที่รกร้างให้สามารถปลูกต้นไม้ให้ความร่วมรื่นได้ โดยครั้งแรกได้ขอความอนุเคราะห์รถไถมาปรับสภาพ ได้รับคำแนะนำจากเกษตรประจำตำบลว่าให้ปลูกพืชบำรุงดินก่อน และเห็นว่า ต้นปอเทือง พืชในตระกูลถั่วสามารถช่วยฟื้นฟูพื้นดินให้ร่วนซุยเหมาะแก่การปลูกต้นไม้ จึงได้ดำเนินการหว่าปอเทืองตามคำแนะนำ เมื่อเติบโตเต็มที่ปอเมืองจึงบานสะพรั่งเหลืองสดตลอดแนวทางรถไฟ เป็นระยะเวลา 45 วัน เมื่อดอกร่วงก็ตัดปอเมือง และหว่าใหม่รวมทั้งสิ้น 3 รอบ เมื่อได้สภาพดินพร้อมปลูกต้นไม้จึงได้ขอความช่วยเหลือต้นกล้าของพืชจากศูนย์เพาะชำกล้าไม้ จ.ราชบุรี ซึ่งได้ให้พันธุ์ไม้มาหลายชนิด เช่น เหลืองปรีดิยาธร ตะแบก ประดู่ หูกระจงแคแสด ต้นคูณ และได้เริ่มลงมือปลูกอย่างเป็นระเบียบตามแนวถนนเมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา


          "กิจกรรมการปลูกต้นไม้ในครั้งนี้เป็นความร่วมมือของชาวชุมชน ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ โรงเรียนในพื้นที่ 4 แห่ง กลุ่มริมน้ำแม่กลอง กลุ่มรถไฟตะวันออก กลุ่ม อสม. กลุ่มกองทุนหมู่บ้าน และกลุ่มกศน. รวมแล้ว 100 กว่าคน ช่วยกันดูแล รดน้าต้นไม้ที่ปลูกไว้ ซึ่งขณะนี้เริ่มโตขึ้นบ้างแล้ว และทางเทศบาลเองก็พร้อมสนับสนุนช่วยดูแลด้วย"


          ผู้รับผิดชอบโครงการเล่าว่าจากการสอบถามความเห็นจากชาวบ้านต่างเห็นไปในทางเดียวกันในการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมทางรถไฟ ไม่เฉพาะแต่หมู่ 1 บ้านวัดไทรเท่านั้น แต่ต้องการให้ขยายผลออกไปยังชุมชนริมทางรถไฟอื่นๆด้วย เพราะทำให้สภาพแวดล้อมสะอาด มีความสวยงาม ร่มรื่นเมื่อต้นไม้เติบโตก็จะได้ให้ร่มเงา สร้างพื้นที่สีเขียวให้กับหมู่บ้าน ใช้เป็นที่พักผ่อน ออกกำลังกาย หรือเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันได้


          ไม่เพียงแต่ทัศนียภาพ สิ่งแวดล้อมที่สวยงามเท่านั้น กิจกรรมของโครงการยังทำให้เกิดความสัมพันธ์ในชุมชนในทางที่ดีขึ้น ความร่วมมือในการทำกิจกรรมอื่นๆที่ตามมา นับเป็นตัวอย่างของชุมชนเล็กๆอีกแห่งที่ใส่ใจต่อกัน–จบ–


 


          ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย 


          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code