“ชวนคนหัวใจหิน”เลิกเหล้าต่อเนื่องครบพรรษา

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ มูลนิธิเมาไม่ขับ เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า จัดกิจกรรม "ร้อยดวงใจ สู่คนหัวใจหิน" ให้คนที่อยู่ระหว่างรักษาอาการติดเหล้าที่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์ และคนที่อยู่ ระหว่างงดเหล้าให้ครบพรรษา" เพื่อเป็นกำลังใจให้ ทุกคนก้าวไปพบกับความสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้


“ชวนคนหัวใจหิน”เลิกเหล้าต่อเนื่องครบพรรษา thaihealth


แฟ้มภาพ


คุณสุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า จากข้อมูลสำรวจพบว่าช่วงออกพรรษา เป็นช่วงที่มีอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับเพิ่มสูงถึง 10-20% สิ่งที่มูลนิธิเมาไม่ขับ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า สสส.และภาคีเครือข่ายอยากให้ประชาชนมาร่วมมือกัน โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งใจเลิกเหล้ามาตั้งแต่เข้าพรรษา เป็นระยะเวลา 3 เดือน หันมาเลิกเหล้าต่อเนื่อง หรือ เลิกขาดไปเลย


ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ ให้เหตุผลต่อไปว่า การดื่มเหล้านอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะตับ ตามที่ สสส.และมูลนิธิร่วมกันรณรงค์ ที่ผ่านมา ยังส่งผลเสียต่อคนรอบข้างที่ได้รับผลกระทบ จากการเมาแล้วขับ การใช้ความรุนแรงทะเลาะวิวาทมากขึ้น ในทุกปี โดยล่าสุดเหตุเกิดขึ้นกับ น้องอิงฟ้า-ด.ญ.ภัคจิรา ทับงาม อายุ 4 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกคนที่เมาแล้วขับชนในขณะที่คุณยายได้รับบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจกับผู้คนในสังคม ซึ่งการ แก้ปัญหาไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกคือ ความร่วมมือจากทุกคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ร่วมเลิก งดเหล้า แม้ว่าเลิกไม่ได้ก็ขอให้ดื่มไม่ขับ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้


"ประเทศไทยควรมีกฎหมายลงโทษเรื่องเมาแล้วขับอย่างจริงจัง แต่ปัจจุบันโทษของการเมาแล้วขับจำคุก 10 ปี ซึ่งบทลงโทษเท่ากับการขับรถประมาททั่วไป การดื่ม แล้วขับต่างจากความประมาทในการขับขี่ตรงที่ ผู้ขับขี่ รู้ว่าการเมาแล้วขับเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและเกิดอันตรายได้อยู่แล้ว แต่ยังคงละเมิดกฎหมาย จึงอยากเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อความปลอดภัยของประชาชน" คุณสุรสิทธิ์ กล่าวย้ำ


คุณชนกนาค แก้วสะเทือน แม่ค้าตลาดหทัยมิตร วัย 51 ปี ต้นแบบของผู้ที่ตั้งใจเลิกเหล้าได้สำเร็จ กล่าวว่า ตนเริ่มดื่มเหล้ามาตั้งแต่วัยรุ่น เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 30 ปี ในตู้เย็นที่บ้านจะต้องมีเหล้าเบียร์อยู่ตลอด โดยเคยดื่มเบียร์มากถึง 1 ลัง (12 ขวด) ต่อวัน หาเงินได้เท่าไหร่ ก็เอามาลงกับการดื่มจนเป็นหนี้สิน แม่ได้ให้เงินมาใช้หนี้ ก็นำไปใช้ดื่มหมด ต่อมาก็ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หมอนรองกระดูกเสื่อม และโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หยุดดื่ม ยังคงดื่มหนักเหมือนเดิม จนเมื่อ ป่วยหนักขึ้นเพื่อนฝูงจากที่เคยมีมากมายเริ่มหายไป อีกทั้ง ต้องเสียเงินกับการรักษาร่างกายเป็นจำนวนมาก จนเมื่อปี ที่ผ่านมาตัดสินใจเลิกเหล้าอย่างจริงจังในช่วงเข้าพรรษา จากการที่เห็นโฆษณารณรงค์ของ สสส. ทำให้เกิดกำลังใจ ว่าการเลิกเหล้าอยู่ที่ใจมีคนมากมายที่เลิกได้ เราก็ต้อง เลิกได้เช่นกัน


"ความพยายามและจิตใจที่เข้มแข็งทำให้เลิกเหล้าสำเร็จ อาการป่วยและสุขภาพร่างกายผิวพรรณดีขึ้น โดยโรคกระดูกเสื่อมยังคงต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ สามารถกลับมาทำงานหาเงินได้ จนปัจจุบันมีเงินเก็บเป็นของตนเอง ครอบครัวหันมาอยู่กันอย่างอบอุ่นอีกครั้ง เป็นความสุขที่ไม่คิดว่าการเลิกเหล้าจะทำให้เราได้สิ่งดีๆ ในชีวิตกลับมาขนาดนี้ ซึ่งขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเลิกและคนที่คิดอยากจะเลิกต่อสู้ และเลิกให้ได้ ตัดออกจากชีวิตได้ยิ่งดี แล้วจะพบความสุขของชีวิตที่คาดไม่ถึง" คุณชนกนาค กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ


สำหรับผู้ที่กำลังเลิกเหล้า และมุ่งมั่นว่าจะเลิกให้ครบพรรษา ขอให้สู้ต่อไป และถ้าเลิกอย่างเด็ดขาดได้จะเป็นกุศลที่ดีต่อตัวเราและคนรอบข้าง เพราะเหล้า ไม่เคยให้ประโยชน์กับคนที่ดื่ม เริ่มเลิกตั้งแต่วันนี้ เพื่อครอบครัว และเพื่อคนที่คุณรัก


 

Shares:
QR Code :
QR Code