ฉีดวัคซีนกันHPVก่อนมีเซ็กส์ ป้องกันมะเร็งได้ดีกว่า
นพ.สมบูรณ์ ศรศุกลรัตน์แพทย์เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชศาสตร์ และหัวหน้างานมะเร็งนรีเวช รพ.ราชวิถี กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนให้ความสนใจเข้าฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี (human papillomavirus: hpvs) ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น เพราะเข้าใจว่าสามารถป้องกันมะเร็งดังกล่าวได้ดี โดยยอมเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 2,000-3,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงพอสมควรโดยลืมให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองมะเร็งที่ถูกต้อง
นพ.สมบูรณ์กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีวัคซีนที่ขายในท้องตลาด 2 ยี่ห้อ ซึ่งข้อควรรู้เกี่ยวกับวัคซีน คือ จริงๆ แล้วการใช้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้ได้ผลดีที่สุด คือ อยู่ระหว่าง 70-80% ที่ทั่วโลกยอมรับคือ ต้องฉีดก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก โดยทั่วไปฉีดในผู้ที่มีอายุ 9-12 ขวบ แต่มีบางประเทศที่เห็นต่าง ยอมรับให้ฉีดได้เมื่ออายุ 13-26 ปี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัยที่สุด
แต่สำหรับคนไทยที่พบบ่อยๆ มักเข้าใจไปเองว่าการฉีดวัคซีนดังกล่าวสามารถกระทำเมื่อใดก็ได้ โดยสตรีส่วนใหญ่มักขอรับวัคซีนหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์มาแล้วผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น คือ ประสิทธิภาพในการป้องการติดเชื้อจะทำได้แค่ 40% จาก 80% เท่านั้นและยังส่งผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมาด้วย เช่น ปวดเมื่อย มีไข้สูงลักษณะคล้ายเป็นหวัด
“แม้จะเป็นผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงแต่ก็เสี่ยงที่จะเสียค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเชื้อมะเร็งปากมดลูกเกิดขึ้นเมื่อมีเพศสัมพันธ์และแสดงอาการช้า อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าเรื่องการตรวจคัดกรองยังเป็นเรื่องจำเป็นโดยให้มาตรวจอย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้งติดต่อกันนานราว 3 ปี เพื่อให้แพทย์ยืนยันได้ว่า มีเชื้อมะเร็งหรือไม่แล้วควรรักษาอย่างต่อเนื่อง” นพ.สมบูรณ์ กล่าว
นพ.สมบูรณ์กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แพทย์ต้องพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อควรระวังก่อนฉีดวัคซีนเอชพีวี คือ อาจต้องศึกษาโดยอาศัยปัจจัยอื่นร่วม เช่น พิจารณาเรื่องประวัติการใช้ยาคุมกำเนิดผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดแข็งตัวเร็วกว่าปกติ เป็นต้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์astvผู้จัดการ