ฉลองปีใหม่เพลิน ระวัง!!!โรคอ้วนถามหา

แนะออกกำลังสม่ำเสมอและทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

 

ฉลองปีใหม่เพลิน ระวัง!!!โรคอ้วนถามหา

            “We wish you a merry Christmas … And a happy new year”…ในที่สุดเทศกาลที่ทุกคนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ก็ใกล้เข้ามาทุกขณะ ทั้งคริสมาสต์และปีใหม่ ต่างก็เป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนาน รวมถึงการเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่เพื่อก้าวเข้าสู่ศตวรรษใหม่…แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการเฉลิมฉลองทั้งดื่ม ทั้งกิน กันอย่างเต็มที่ คุณรู้หรือเปล่าว่า เจ้าวายร้ายอย่าง “ไขมัน” กำลังแอบคืบคลานเข้ามาหาคุณทีละนิด ๆ…จนในที่สุด คุณก็ตกเป็นทาสของ “โรคอ้วน” โดยไม่รู้ตัว…

 

            เด็กก็ป่วยเป็นโรคอ้วนได้!!!…พ่อแม่บางคนมีความเชื่อว่า การเลี้ยงลูกให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ เป็นเรื่องที่ดี เพราะนั่นเป็นเครื่องหมายว่าลูกมีสุขภาพที่ดี เมื่อถึงเทศกาลเฉลิมฉลองทีไร ก็ปล่อยให้ลูกน้อยกินตามใจปาก ทั้งคุกกี้ ทั้งขนมเค้ก และอีกสารพัดขนมหวาน โดยไม่ห้ามปรามแล้วล่ะก็…ขอบอกไว้เลยว่า “คุณคิดผิด!!!”  เพราะส่วนผสมส่วนใหญ่ของคุกกี้ และเค้ก ทำมาจากแป้ง น้ำตาล เนย ไข่ และไขมัน ที่ให้รสหวานเป็นหลัก มีผลทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ง่าย หากกินในปริมาณที่มากเกินไป เป็นผลให้ร่างกายเสี่ยงเกิดโรคอ้วน ซึ่งขนมเค้ก 1 ชิ้นเล็ก ขนาดประมาณ 35 กรัม ให้พลังงานถึง 140 กิโลแคลอรี ส่วนคุกกี้ 1 ชิ้น ขนาด 10 กรัม ให้พลังงานถึง 51 กิโลแคลอรี

 

             ลองคิดดูว่า…ถ้าปล่อยให้เด็ก ๆ เพลิดเพลินกับการฉลองปีใหม่ด้วยการกิน กิน และกินติดต่อกันในปริมาณ 1 ปอนด์ต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานถึง 1,600 กิโลแคลอรี ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับพลังงานจากเค้กอย่างเดียวเกือบเท่ากับที่ร่างกายต้องการพลังงานจากอาหารอื่นถึงวันละ 2,000 กิโลแคลอรี…

 

             ยิ่งหวาน ยิ่งอันตราย!!!.. สำหรับเรื่องนี้ ทันตแพทย์หญิงจันทนา อึ้งชูศักดิ์ ผู้จัดการแผนงานรณรงค์เพื่อเด็กไทยไม่กินหวาน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันเด็กไทยติดนิสัยกินหวานตั้งแต่ยังเล็กๆ โดยบริโภคน้ำตาลเฉลี่ย 20 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งเกินกว่าความจำเป็นที่ร่างกายต้องการถึง 3 เท่า ปัญหาอันดับแรกที่เกิดจากการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูงคือ “โรคฟันผุ” ซึ่งเกิดขึ้นกับเด็กเล็กตั้งแต่อายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น

 

            นั่งกิน นอนกิน ระวัง!!! สารพัดโรคถามหา… โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ อากาศเย็น ๆ ทำให้นอนหลับสบาย ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ตื่นเช้ามาก็กินข้าว ดูทีวี กินขนม ตกบ่ายตาเริ่มปรือก็เข้านอนต่อ…นั่ง ๆ นอน ๆ กิน ๆ โดยปราศจากการออกกำลังกาย ทำให้เกิด “โรคอ้วน” ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของโรคต่างๆ อาทิ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคกระดูกเสื่อม โรคกระดูกข้อผิดปกติ โรคภูมิแพ้ และ โรคเบาหวาน เป็นต้น

 

 

      

            ป้องกันอย่างไรไม่ให้เด็กอ้วน!!!.. การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การเริ่มต้นดูแลสุขภาพของเด็ก ๆ ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะช่วยให้ลูกมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เพราะว่านมแม่มีความหวานตามธรรมชาติโดยตัวมันเองอยู่แล้วและไม่เคยปรากฏว่ามีเด็กอ้วนจากการกินนมแม่ และปลูกฝังเรื่องโภชนาการที่ดี ด้วยการสอนให้เด็กทานผัก และผลไม้ตามสัดส่วนที่เหมาะสมแก่วัยให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่มีประโยชน์อย่างขนมหวาน และขนมกรุบกรอบ…

 

 

            ที่สำคัญ!!!.. พ่อแม่ควรสร้างวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองเทศกาลใหม่ แทนที่จะฉลองด้วยอาหารขยะอย่างคุกกี้และเค้ก ก็เปลี่ยนเป็นเมนูผัก อย่างสลัดผัก และปลา ดังที่ สสส. ได้รณรงค์ “กินปลาไร้พุงต้านโรคเบาหวาน” เพราะในปลามี โอเมก้า-3 โคเรสโตรอลต่ำ ย่อยง่าย และเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสมองอย่างมาก ทานอย่างไรก็ไม่อ้วน ขอบอก!!!

 

            ออกกำลังต้านภัยอ้วน!!!.. สาเหตุหลักอย่างหนึ่งของการป่วยเป็นโรคอ้วน คือ การไม่ออกกำลังกาย โดยเฉพาะเด็ก ๆ พ่อแม่ควรให้ลูกน้อยได้ออกกำลังกายที่เพียงพอต่อวัน เพื่อสร้างเสริมศักยภาพทางด้านร่างกายให้กับเขา อย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อเป็นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อสุขภาพที่ดีและแข็งแรง

 

 

            ปีใหม่ 2552 ที่จะถึงนี้ สสส. ขอเชิญทุกท่านมาร่วมกันดูแลสุขภาพทั้งของตนเองและครอบครัว ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ปีใหม่ปีนี้ เป็นปีที่ ปลอดภัย ไร้พุง ดีกว่า!!! แล้วคุณจะได้รับของขวัญที่แสนพิเศษจากปีใหม่ คือ การมีสุขภาพดี มีสุขภาวะที่ยั่งยืนตลอดไป….

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : อารยา สิงห์สวัสดิ์ Team content www.thaihealth.or.th

 

 

Update : 19-12-51

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์  

Shares:
QR Code :
QR Code