ฉลอง“ตรุษจีน” หวั่นหวัดนก ไฟไหม้ เมาแล้วขับ

 

 

 

     ฉลอง“ตรุษจีน” หวั่นหวัดนก ไฟไหม้  เมาแล้วขับ             

 

 

“ซินเจียยู่อี่  ซินนี้ฮวดไช้   ซินเจิ้งหรูอี้  ซินเหนียนฟาไฉ

 

“ปีใหม่ขอให้ทุกอย่างสมหวัง  ปีใหม่ขอให้ร่ำรวย”

 

 

            ประโยคคุ้นหูที่แสดงถึงสัญญาณอันดีที่จะมีงานรื่นเริง เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนต่างสวมเสื้อสีแดงสด อันเป็นสีที่เป็นสิริมงคลของพี่น้องชาวจีน เพราะมันคือ “เทศกาลตรุษจีน” ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีน ในปีนี้ตรงกับวันที่ 24 – 26 มกราคม 2552 ในวันนั้นถือได้ว่าเป็นวันครอบครัว ที่จะมีการพบปะสังสรรค์ กินเลี้ยงกันอย่างมีความสุข

 

 

ฉลอง“ตรุษจีน” หวั่นหวัดนก ไฟไหม้  เมาแล้วขับ            ในวันฉลองตรุษจีนนี้ อาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆ ในปี อาหารหลากหลายชนิดจะถูกจัดเตรียมไว้เพื่อรับรองญาติพี่น้อง  เพื่อนฝูง รวมถึงการเซ่นไหว้คนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว โดยอาหารส่วนใหญ่ที่มักเซ่นไหว้ตามประเพณีนั้นมีมากมายหลายชนิด  แต่ที่พบเห็นในทุกๆ บ้านคือเป็ด ไก่ และนั่นคือ !!! สิ่งที่น่าเป็นห่วง

 

 

             เมื่อองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ได้แจ้งเตือนประเทศในภูมิภาคเอเซีย ให้ระมัดระวังการติดเชื้อไข้หวัดนกจากสัตว์สู่คนช่วงนี้ว่าเนื่องจากมีการเกิดโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีกของประเทศจีน ฮ่องกง อินเดีย บังกลาเทศ เวียดนาม กัมพูชา และมีผู้ป่วย และเสียชีวิต ในประเทศกัมพูชา เวียดนาม  จีน อินโดนีเซีย อียิปต์ ซึ่งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันกับประเทศไทย และล่าสุดศูนย์ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโรคของจีน ออกมาระบุว่า พบผู้เสียชีวิต 3 ราย จากการได้รับเชื้อไข้หวัดนกในมณฑลชานตงทางภาคตะวันออกประเทศจีน เป็นเหตุให้ประเทศไทยเราต้องเฝ้าระวัง เพราะช่วงเทศกาลตรุษจีนประชาชนทั้งไทยจีน ต่างออกมาซื้อเป็ดไก่ เพื่อไปเซ่นไหว้ตามประเพณี อีกทั้งเป็นช่วงเทศกาลแบบนี้พ่อค้าแม่ค้าต่างฉวยโอกาสในการขึ้นราคาข้าวของ เป็นเหตุทำให้ราคาของสูงขึ้นแบบผิดหูผิดตา ส่งผลให้ของอาจถึงขั้นขาดตลาดได้ จนเป็นเหตุให้ต้องนำเข้าสัตว์ปีกจากประเทศเพื่อนบ้าน

 

 

 

ฉลอง“ตรุษจีน” หวั่นหวัดนก ไฟไหม้  เมาแล้วขับ            และที่แย่ไปกว่านั้น ยังพบการลักลอบนำเข้าสัตว์ปีกเพื่อนำมาขายในช่วงเทศกาลดังกล่าวอีกด้วย และนั่นมันเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไข้หวัดนกไปสู่คนในประเทศของเราได้

 

 

 

            หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องเร่งหามาตรการป้องกัน ยิ่งช่วงเทศกาลตรุษจีนมีการฆ่าสัตว์ปีกจำนวนมาก มันยิ่งง่ายต่อการแพร่ระบาด ในส่วนของสถานประกอบการและร้านค้าทั่วไปต้องดำเนินการตามมาตรฐานการเชือด  ชำแหละสัตว์ปีกและปรุงอาหารอย่างถูกวิธี เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริโภคสัตว์ปีกแก่ประชาชนรวมทั้งให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการป้องกันโรคไข้หวัดนกเบื้องต้น

 

 

 

            โดย นายมานิต  นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับกรมปศุสัตว์ กทม. และผู้ประกอบการค้าสัตว์ปีก วางมาตรการป้องกันโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มงวด เน้นการดูแลสัตว์ปีกตั้งแต่ออกจากฟาร์มถึงโรงฆ่าสัตว์ และนำออกจำหน่ายในตลาด โดยไก่ทุกตัวที่จะเข้าสู่โรงเชือด ต้องผ่านการตรวจเชื้อไข้หวัดนก และออกใบเคลื่อนย้ายจากกรมปศุสัตว์ ส่วนผู้ประกอบการต้องรักษาความสะอาดทุกขั้นตอนการผลิต ตลอดจนการสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อ ที่สำคัญไก่หรือเป็ดที่ผ่านการตรวจจะมีสายรัดข้อขาระบุข้อความและหมายเลขของกรมปศุสัตว์ เพื่อให้ผู้บริโภคทราบว่าปลอดภัยจากเชื้อไข้หวัดนก

 

             แต่ถึงแม้ว่าจะมีการวางมาตรการป้องกันอย่างไร  ประชาชนเองก็ต้องรู้จักวิธีป้องกันและเลือกซื้อด้วยเช่นกัน โดยการจะเลือกซื้อเป็ดไก่นั้น ต้องดูสดใหม่ เนื้อไม่มีสีคล้ำ ผิวหนังหรือเครื่องในไม่มีจ้ำเลือด ไข่ไก่และไข่เป็ด ควรเลือกฟองที่ดูสดใหม่ และไม่มีมูลติดเปื้อนที่เปลือกไข่ และควรนำมาล้างให้สะอาดก่อนปรุงอาหาร 

 

 

 

ฉลอง“ตรุษจีน” หวั่นหวัดนก ไฟไหม้  เมาแล้วขับ            ที่สำคัญ!!! ขณะประกอบอาหาร ไม่ควรใช้มือที่เปื้อนมาจับต้องจมูก ตา และปาก ควรหมั่นล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจับต้องเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และเปลือกไข่ที่มีมูลสัตว์เปื้อน เขียงที่ใช้หั่นอาหารก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึง ควรแยกเขียงสำหรับหั่นอาหารดิบ อาหารที่ปรุงสุกแล้ว รวมถึงผักผลไม้ หลีกเลี่ยงการใช้เขียงเดียวกัน

 

 

 

            ส่วนเนื้อไก่ เป็ด และไข่ ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดถือว่ามีความปลอดภัย สามารถบริโภคได้ตามปกติ แต่ต้องปรุงให้สุกก่อนรับประทาน ไม่ควรรับประทานแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ  อีกทั้งไก่และเป็ดที่ขายในท้องตลาดเพื่อใช้ในพิธีเซ่นไหว้ในช่วงตรุษจีนนั้น มักนิยมต้มแบบไม่ให้สุกมากนัก ก่อนจะนำมารับประทาน ควรนำมาปรุงให้สุกอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและมั่นใจในการนำไปบริโภคต่อไปสำหรับรับผู้ค้าสัตว์ปีกให้ระมัดระวังการสัมผัสสัตว์ปีก หมั่นทำความสะอาด ล้างมือ และบอกต่อถึงผู้บริโภคว่า ให้ยึดถือหลัก 3 ประการคือ การกินร้อน ใช้ช้อนกลาง และล้างมือ เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดนกจะถูกทำลายด้วยอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป ส่วนการกินอาหารร่วมกันให้ใช้ช้อนกลางตักอาหาร และให้ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร หลังออกจากห้องน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจับต้องเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และเปลือกไข่ที่เปื้อนมูลสัตว์  ซึ่งจะป้องกันได้ทั้งไข้หวัดนกและเชื้อโรคอื่นอีกด้วย

 

 

 

             นอกจากเป็ด ไก่ แล้วยังมีอาหารประเภทอื่นๆ อีกที่คนส่วนใหญ่นำมาประกอบอาหารเพื่อเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้ เราก็ควรที่จะเลือกซื้อที่สด สะอาด ไม่มียาฆ่าแมลงเจือปน   

 

 

            นอกจากนี้อีกเรื่องที่เห็นทีจะขาดไม่ได้นั่นคือ ฉลองที่ไหน เมื่อไหร่??…..ต้องมีแอลกอฮอลล์ที่นั่น!!!

 

            นี่คงกลายเป็นนิสัยของคนไทยไปแล้วละมั้ง!!! ที่มีงานรื่นเริงที่ไหนต้องมีเรื่องของเหล้าเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลหนึ่งที่ถูกมองข้ามในปฏิทินการเฝ้าระวังอุบัติเหตุ ทั้งๆ ที่มีประชาชนเดินทางฉลองตรุษจีนเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาช่วงเทศกาลตรุษจีน 5-10 ก.พ.2551 มีผู้เสียชีวิต 263 ราย บาดเจ็บ 1,263 ราย รองจากเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ และลอยกระทง

 

         มูลนิธิเมาไม่ขับจึงได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สำนักงานคุมประพฤติประจำศาลแขวงพระนครเหนือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดโครงการเมาขับตรุษจีนถูกจับแน่ โดยจะมีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่อย่างเข้มในทุกพื้นที่ทั่วประเทศตั้งแต่ 23-27 ม.ค.2552

 

เมาแล้วขับถูกจับแน่

         

 

อีกสิ่งหนึ่ง….ที่ไม่ควรมองข้าม !!!!

 

          ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน? เทศกาลใดๆ เห็นทีต้องระวังเพิ่มขึ้นแล้วสำหรับเรื่องอัคคีภัยยิ่งเป็นเทศกาลตรุษจีนต้องยิ่งระวังเป็นพิเศษ เพราะหลีกเลี่ยงเรื่องไฟ ไฟ ไฟ ไปไม่ได้ นอกจากจะใช้ไฟในการประกอบอาหารเพื่อไหว้หรือรับประทานแล้ว การเผา เผา เผา จุดธูป จุดเทียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผาเจ้ากระดาษเงิน กระดาษทอง หากไม่มีการระมัดระวังอาจจะลุกลามทำความเสียหายแก่ทรัพย์สินได้ อย่างที่ผ่านมามีข่าวคราวเหตุการณ์ไฟไหม้และสูญเสียมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสือใหญ่พล่าซ่าหรือที่น่าสยดสยองอย่างซานติกา จึงต้องควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

 

          ล่าสุด นางสุดารัตน์ จันทร์น้อย ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า เพราะในปีที่ผ่านมา มักมีสถิติอัคคีภัยสูงกว่าปกติ หากครอบครัวหรือบริษัทห้างร้านใดไหว้เจ้า ควรระมัดระวังในการจุดธูปเทียนหรือการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง รวมถึงห้างร้านหรือบริษัทหลายแห่งอาจจะหยุดยาวต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกจ้างกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด  ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า และป้องกันการเกิดอัคคีภัยในช่วงเวลาดังกล่าว

 

          นอกจากนี้หากต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไปท่องเที่ยวในต่างจังหวัด ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าให้รอบคอบก่อนออกจากบ้าน โดยการถอดปลั๊กของอุปกรณ์ไฟฟ้าออกหรือปิดคัตเอาต์เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึงควรตรวจสอบสายไฟฟ้าและอุปกรณ์ทุกชนิด หากชำรุดให้ดำเนินการซ่อมแซมในทันที ทั้งนี้ หากผู้ใช้ไฟฟ้าต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้า สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า 1130 ตลอด 24 ชั่วโมงได้

 

          เพียงเท่านี้การฉลองตรุษจีนของคุณก็จะมีแต่ความสุข ห่างไกลโรคร้าย ปลอดภัยทั้งครัวเรือน!!!! 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : ณัฐภัทร  ตุ้มภู่  Team Content www.thaihealth.or.th

 

 

 

 

Update : 21-01-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฐภัทร  ตุ้มภู่  

 

Shares:
QR Code :
QR Code