ค่ายสร้างสุข สนุกกับตัวเลขชีวิต

ในแต่ละวันที่เราตื่นเช้าขึ้นมา รู้หรือไม่ว่าร่างกายของเราเกี่ยวข้องกับตัวเลขในการดำเนินชีวิตทำกิจกรรมต่างๆ ประจำวัน ตั้งแต่ตื่นนอน แปรงฟัน อาบน้ำ และรับประทานอาหารเช้า ไปจนกระทั่งเอนกายลงนอนพักผ่อนบนเตียงอีกครั้ง ซึ่งเหตุผลที่ร่างกายต้องแบ่งจังหวะเวลาอย่างนั้น ก็เพื่อให้เราได้รับประโยชน์จากสิ่งที่กำลังทำในขณะนั้นได้อย่างเต็มที่

เพราะสุขภาพดีเป็นสิ่งที่ใครก็ตามล้วนใฝ่หา นอกจากการดูแลตัวเอง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ข้องเกี่ยวกับอบายมุข พักผ่อนให้เพียงพอ การรู้เรื่องตัวเลขชีวิตก็ช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ และในแต่ละช่วงของวันเราควรให้ร่างกายได้ทำอะไรบ้างที่ทำให้การใช้ชีวิตของเราสนุกและดีขึ้น

ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดค่าย SOOK KIDDY & FAMILY CAMP ตอน 5 – 4 – 3 – 2 – 1 : My Number ที่ชวนน้องๆ หนูๆ ได้สนุกกับการเรียนรู้ตัวเลขชีวิตที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน พร้อมเกมสนุกสนานที่ส่งเสริมการเรียนรู้จัดเต็มในรูปแบบค่ายตลอดทั้ง 4 วัน

พี่จุ๋ม-ทิฆัมพร ทองเทพ นักสื่อสารสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ในการดำเนินชีวิตทุกวันนี้ หลายๆ คนอาจยังไม่ทราบว่าตัวเองมีตัวเลขชีวิตที่เกี่ยวข้องอยู่ โดยกิจกรรมตัวเลขชีวิต 5 – 4 – 3 – 2 – 1 นี้เป็นหนึ่งในโครงการ SOOK KIDDY & FAMILY CAMP ที่ทาง สสส.จัดขึ้น โดยมีรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย ผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน และกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้นำไปปรับใช้ในการมีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะน้องๆ หนูๆ ที่อยู่ในช่วงวัยแห่งการเจริญเติบโต

สำหรับตัวเลข 5 – 4 – 3 – 2 – 1 ก็คือ เลข 5 คืออาหารหลัก 5 หมู่ ข้าว 5 ทัพพี และผัก ผลไม้ 5 สี ที่ทุกคนจะต้องรับประทานให้ครบใน 1 วัน เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย เลข 4 คือเวลาของการดื่มน้ำในแต่ละวัน เลข 3 คืออาหารที่ต้องรับประทานให้ครบ 3 มื้อ เลข 2 คือการอยู่หน้าจอใน 1 วันต้องไม่เกิน 2 ชั่วโมง ทั้งหน้าจอมือถือ ทีวี รวมถึงคอมพิวเตอร์ และเลข 1 คือการออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวันนั่นเอง

โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นตลอดทั้ง 4 วันนี้ น้องๆ จะได้ความรู้มากมาย อาทิ วันแรกจะเป็นเรื่องของ 'ธงโภชนาการ' เริ่มจากให้น้องๆ ได้เรียนรู้เรื่องอาหาร 5 หมู่ว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นก็จะให้เรียงลำดับความสำคัญของอาหารทั้ง 5 หมู่ลงในธงโภชนาการให้ถูกต้อง ถัดมาเป็นเรื่องของการดื่มน้ำที่ถูกต้องใน 1 วัน โดยสอนให้เด็กๆ รู้ว่า ตื่นนอนตอนเช้าควรดื่มน้ำ 1 แก้ว สาย 2 แก้ว บ่าย 3 แก้ว ค่ำ 3 แก้ว และก่อนนอนอีก 1 แก้ว

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมผัก 5 สี โดยจะสอดแทรกในการทำอาหาร และก่อนลงมือทำอาหารเด็กๆ จะต้องเรียนรู้ว่าหากเรารับประทานไม่ครบ 5 หมู่ มีวิธีที่จะเติมผัก ผลไม้ ในมื้อนั้นๆ อย่างไร ต่อมาเป็นการทดลองคำนวณน้ำตาลในน้ำอัดลมและชาเชียว เพื่อปลูกฝังให้เด็กรู้ว่าเครื่องดื่มที่ชื่นชอบนั้นมีอันตรายแฝงอยู่ และช่วยสร้างนิสัยให้ไม่กินหวานให้แก่เด็กๆ อีกทาง เพราะจริงๆ แล้ว ใน 1 วัน คนเราไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา แต่ในน้ำอัดลมมีน้ำตาลถึง 12 ช้อนชา ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลเกินกำหนดอยู่มาก และปิดท้ายค่ายด้วยการสอนออกกำลังกายเพื่อเด็กๆ จะได้นำกลับไปปฏิบัติตามที่บ้านได้

"กิจกรรมดังกล่าวนี้อยากให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ตัวเลขที่เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เพราะบางเรื่องก็ยังไม่มีสอนในโรงเรียน เช่น เรื่องของผัก ผลไม้ 5 สี ที่สำคัญไม่แพ้อาหารหลัก 5 หมู่ เพราะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์แตกต่างกันออกไป ซึ่งประโยชน์ของการกินผัก ผลไม้ 5 ทัพพีทุกวัน จะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และอัตราการป่วยด้วยโรคหัวใจลดลง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง เป็นต้น

นอกจากนี้ การมาร่วมกิจกรรมค่ายยังช่วยส่งเสริมการทำกิจกรรมยามว่าง ลดการติดหน้าจอ และให้เด็กๆ มีกิจกรรมสร้างสรรค์ในช่วงปิดเทอม เพราะการเข้าค่ายครั้งนี้มีทั้งเล่นและเรียนผสมกัน ทั้งยังได้เจอเพื่อนใหม่ๆ และได้ใช้ชีวิตร่วมกันด้วย ทำให้เด็กเรียนรู้การเข้าสังคม สร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีอีกด้วย" นักสื่อสารสุขภาวะ กล่าวทิ้งท้ายสนใจกิจกรรม SOOK KIDDY & FAMILY CAMP และกิจกรรมสร้างสรรค์อื่นๆ สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ http://www.thaihealthcenter.org/ และ https://www.facebook.com/happyschoolbreak

ตัวเลข…สร้างสุขภาพ

น้องทรี-ญาณกิตติ์ สุวรรณาภรณ์ อายุ 10 ปี บอกว่า การได้มาเข้าค่ายครั้งนี้ได้ความรู้มากมาย ทั้งเกี่ยวกับการเลือกทานอาหารอย่างการกินผักหลายๆ สี ดีต่อร่างกาย และทรีเองก็ชอบกินผักอยู่แล้ว เพราะที่บ้านมักจะสอนให้รู้ว่าผักมีประโยชน์ต่อร่างกาย และพอได้มาเข้าค่ายก็ทำให้รู้จักและอยากกินผักชนิดอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น และทรียังได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ได้เล่นเกมสนุกๆ อีกเยอะ และที่สำคัญอยากให้เพื่อนที่ชอบเล่นเกมในไอแพดได้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้มาก เพราะจะได้รู้ว่าการจ้องจอนานๆ ทำให้เราสายตาเสีย และน้องทรีก็มีเพื่อนหลายคนที่ต้องใส่แว่นเพราะเล่นไอแพดด้วยครับ

น้องฝนเหนือ-พัชรดา สุวรรณอายุ 8 ปี บอกว่า หนูดีใจที่มาเข้าค่ายที่นี่ค่ะ เพราะสนุกมากๆ ได้รับความรู้ที่มีประโยชน์มาก และยังได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ อีกเยอะแยะ โดยกิจกรรมที่หนูชอบมากก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกินผัก ว่าไม่ควรเลือกกินแค่ผักบางชนิด แต่ควรกินหลายๆ อย่างและหลายๆ สี เพราะจะดีกับร่างกาย ป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงค่ะ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์