“คิดดี-ทำดี” หลักสร้างสุขและสำเร็จให้ “ชีวิต”
บริหารชีวิต บริหารความสุข โดยคุณดำรงค์ วงษ์โชติปิ่นทอง ที่มาคุยถึงวิธีคิดที่จะนำไปสู่การใช้ชีวิตแบบมีความสุข ในกิจกรรม เสวนา "บริหารชีวิต" จัดโดย ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.
"หว่านพืชเช่นไรย่อมได้รับผลพืชนั้น ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว" พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้เมื่อ 2,600 ปีมาแล้ว เป็นสัจธรรมที่ไม่อาจปฏิเสธได้
นี่คือหลักว่าคนทั้งหลายที่มีโอกาสสัมผัสสภาพสุขหรือทุกข์ในชีวิตมากน้อย สั้นยาว ก็ขึ้นอยู่กับผลอันเกิดจากการกระทำนั้นๆลองค่อยๆ คิด วิเคราะห์ดูความจริงนี้เถอะ จะบรรลุความจริงอย่างถ่องแท้แน่นอน
"…หากใครไม่มีความสุขอย่าแปลกใจ เพราะมันคือกฎของธรรมชาติว่า เมื่อเราปลูกต้นไม้อะไร ก็จะได้ผลอย่างนั้น…"
ตัวหนังสือชวนคิดที่ถอดความหมายมาจากพุทธวจนดังกล่าว โดยดำรงค์ วงษ์โชติปิ่นทอง ผู้เขียนหนังสือ "Life Coach (โค้ชชีวิต)" วิทยากรคนสำคัญในกิจกรรมเสวนา "บริหารชีวิต" จัดโดย ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. เมื่อไม่นานมานี้ ณ โซนกิจกรรมชั้น 5 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ แล้วความสุขล่ะมาสู่ชีวิตผู้คนได้ยังไง ดำรงค์ อธิบายไว้ว่าง่ายที่สุดคือเริ่มต้นที่ "ความคิด" บางคนรู้สึกว่า "ความสุข"มาเร็วไปเร็ว ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะหากปลูกต้นไม้ความสุขเหมือนต้นไม้ล้มลุก เติบโตไวก็ย่อมตายไว ขณะที่ความสุขของบางคนเกิดช้า ตายช้า ก็ไม่ต้องแปลกใจอีกเช่นกัน เพราะเมื่อปลูกความสุขเหมือนไม้ยืนต้น มันก็จะเติบโตและตายอย่างช้าๆ
หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาก็แนะเน้นไว้ว่า ต้องทำดีต่อเนื่องเพื่อเชื่อมต่อสุขให้ยืดยาวต่อไป เช่นเดียวกับปลูกพืชช่วงเวลาเก็บผลผลิตตามอายุพืชแล้วก็ปลูกชุดใหม่ต่อไปก็จะมีผลผลิตต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับ "ความคิดบวก" หากหมั่นใส่ปุ๋ยด้วยการรับสิ่งดีคิดดี พูดดี ทำดีทุกวัน ชีวิตก็ย่อมดำเนินไปในทางดีและมีความสุขต่อเนื่อง
"การคิดบวกน่าจะเปรียบได้กับแสงไฟส่องสว่างที่ปลายอุโมงค์ช่วยส่องทางให้ชีวิตเดินตามยามอยู่ในที่มืด จนกระทั่งพบกับทางออกที่ตัวเราเองเห็นแสงไฟฉายชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยเราจะคิดดีหรือไม่ดีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรารับเข้ามา หากทุกวันบริโภคหรือรับมาแต่เรื่องร้ายๆ เราก็จะได้แต่เรื่องร้าย (ผลคือทุกข์แน่นอน)การเลือกรับสื่อจึงมีส่วนสำคัญต่อวิธีการคิดไม่น้อย"
ดำรงค์ยังอธิบายให้มุมมองกับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจของตนเองแต่ยังไม่กล้าว่า ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะกำหนดชีวิตของเราได้ มีเพียงตัวเราเท่านั้นที่จะกำหนดชีวิตของตัวเอง
"การทำธุรกิจคือ "การฉลาดคิดฉลาดทำ" คนเราแต่ละคนถ้าคิดถึงความก้าวหน้าแล้วเริ่มต้นลงมือทำนั่นคือคิดถูก แต่ถ้าคิดอยากรวยด้วยการไปโกงคนอื่นหรือเล่นหวยแบบหวังรวยทางลัดมันก็ไม่ใช่ ฉะนั้น ตัวเราเองก็ต้องค่อยๆ เรียนรู้ ค่อยๆ หาประสบการณ์ ต้องรู้ไว้ว่าโลกนี้ไม่มีทางลัด ถ้าอยากทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ อย่างแรกก็ต้อง "ลงมือทำ" จากนั้นเรียนรู้แล้วออกเดินอย่างต่อเนื่อง"
ส่วนสูตรสร้างสุขสร้างความสำเร็จ นักธุรกิจผู้เป็นทั้งนักเขียนนักอบรมคนนี้ให้ความเห็นไว้ว่า ควรจะต้องมีวิธีจัดการชีวิต (Life Management) ที่ต้องคำนึง 8 อย่าง ได้แก่ สุขภาพ, ครอบครัว,จิตใจ, การงาน, การเงิน, การช่วยเหลือสังคม, การศึกษา และศาสนา โดยหากสามารถบริหารหลักทั้ง 8 นี้ให้สมดุลได้ ความสุขและความสำเร็จย่อมเป็นของทุกคน ตรงกับสูตรที่เป็นหลักธรรมในพระพุทธศาสนา "ทำดีได้ดี"ทั้งสิ้นไม่มีทางเป็นอื่นไปได้
มาคุยกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมบ้าง ลินดา พัฑฒพงศ์วัฒน์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการบริหารชีวิตเฉพาะตนไว้ว่า คือการจัดสมดุลชีวิตอย่างเหมาะสม ยิ่งคนที่ทำงานเยอะๆรู้สึกว่าชีวิตยุ่งก็ควรจะต้องพยายามบาลานซ์ชีวิตให้มากขึ้น "อบรมวันนี้มีประโยชน์มาก เหมือนกับมาเรียนรู้วิธีขี่จักรยาน จากนั้นก็ต้องกลับไปฝึก พอฝึกเป็นแล้วต่อให้เวลาผ่านไป 10 ปี เราก็ยังขี่จักรยานได้อยู่ การใช้ชีวิตให้ดีก็เช่นเดียวกัน"
สอดคล้องกับ ชาญยุทธ นนทิวิรุฬห์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกคนเล่าถึงการใช้ชีวิตให้มีความสุขของตัวเองว่า คือการรู้จักแบ่งปันสิ่งต่างๆ ให้กับคนรอบข้างและพอใจในสิ่งที่มีอยู่เวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาก็จะฝึกสมาธิ และมองปัญหานั้นๆ ในแง่ดีไว้ก่อน ส่วนทำไมถึงต้อง"คิดบวก" ชาญยุทธตอบสั้นๆ ว่า "ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดร้าย"
สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสร้างฐานสุขภาวะกายใจห่างไกลทุกขภาวะให้ชีวิตด้วยหลักคิดง่ายๆ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วกับศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ติดตามข้อมูลได้ที่ www.thaihealthcenter.org หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร. 08-1731-8270
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ