“ความหวังใหม่” นิโคตินเม็ดบำบัดอัลไซเมอร์
เผย! นิโคตินช่วยกระตุ้นสมาธิ-ความจำ ได้จริงหรือ???
นักวิจัยชี้การสูบบุหรี่สามารถกระตุ้นความจำและสมาธิได้ เพิ่มความหวังในการพัฒนาเพื่อบำบัดผู้ป่วยอัลไซเมอร์
ขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญกำลังพัฒนายาที่เลียนแบบส่วนผสมบางอย่างในบุหรี่ที่กระตุ้นการทำงานของสมองโดยปราศจากผลข้างเคียงซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ มะเร็ง หลอดเลือดสมอง หรือการเสพติด
ความพยายามนี้มีขึ้น หลังจากพบว่านิโคตินสามารถกระตุ้นสติปัญญาและความสามารถในการจดจำของหนูทดลอง
นักวิจัยยังหวังว่า ยาตัวใหม่ที่คาดว่าจะออกมาในอีก 5 ปี จะมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายารักษาโรคจิตเสื่อมที่ใช้กันอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ดี นักวิจัยย้ำว่า ยาตัวใหม่ไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์หายขาดได้ แต่จะยืดเวลาที่ผู้ป่วยจะสามารถดูแลตัวเองได้ออกไปอีกหลายเดือน
ทั้งนี้ รู้กันมานานแล้วว่าบุหรี่มีฤทธิ์กระตุ้นสมอง แพทย์บางคนแนะนำให้สูบบุหรี่เพื่อเสริมสร้างไหวพริบและกระตุ้นสมาธิ อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตของโรคมะเร็ง หลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ ทำให้ข้อดีของบุหรี่ถูกมองข้ามในการวิจัยทางการแพทย์
ศาสตราจารย์เอียน สโตลแมน จากสถาบันจิตเวชของคิงส์ คอลเลจในลอนดอน เผยว่า เมื่อเริ่มต้นการทดลองนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ทีมงานไม่คิดว่าจะพบประโยชน์ของนิโคตินต่อความสามารถในการคิดและจดจำ
ทีมงานได้ฝึกให้หนูตอบสนองต่อแสงไฟกะพริบ โดยหากขยับไปทางขวา หนูจะได้อาหารเม็ดเป็นรางวัล หลังการฝึกปรากฏว่า หนูตอบสนองถูกต้อง 80% ของเวลาที่ทำการทดลอง แต่หลังจากฉีดนิโคติน อัตราความสำเร็จเพิ่มขึ้นอีก 5%
ความแตกต่างปรากฏชัดเจนเมื่อหนูถูกเบี่ยงเบนความสนใจด้วยเสียงดัง เพราะอัตราความสำเร็จลดลงอยู่ที่ 50% แต่เมื่อได้รับนิโคติน หนูสามารถทำภารกิจได้ถูกต้องถึง 80%
ทีมนักวิจัยของศาสตราจารย์สโตลแมนทำการศึกษาต่อไปว่า นิโคตินทำให้วงจรของสมองเปลี่ยนแปลง ซึ่งไปกระตุ้นความจำและสมาธิได้อย่างไร และพบว่าตัวรับสัญญาณและสารเคมีสื่อสารสำคัญบางส่วนของสมอง เช่น โดพามีน และกลูตาเมต มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
นักวิจัยยังพบความแตกต่างของเหตุการณ์ต่างๆ ที่นำไปสู่การเพิ่มพลังสมองและการเสพติด
“เราเชื่อว่าหากใช้ความแตกต่างนี้เป็นพื้นฐาน เป็นไปได้ว่านักเคมีเวชภัณฑ์อาจพัฒนาสารที่เลียนแบบเฉพาะผลแง่บวกของนิโคติน”
ตลอดระยะเวลา 10-15 ปีที่ผ่านมา บริษัทยาหลายแห่งซุ่มพัฒนาสารที่อิงกับนิโคติน และให้ผลในทางบวกเท่านั้น การค้นพบใหม่นี้อาจนำไปสู่ยาตัวใหม่ที่อิงกับนิโคตินภายในเวลาไม่กี่ปีนับจากนี้
ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
update: 24-07-51