“ข้ามถนนมั่ว” ถูกจับปรับแน่

ตำรวจย้ำเอาจริง ดีเดย์วันนี้!!

 

 

          “วินัยจราจร สะท้อนวินัยชาติ” คำขวัญหรือที่จริงจะเรียกว่าเป็นคำที่ปลูกฝังจิตสำนึกของคนในชาติก็ย่อมได้ ที่ติดตั้งอยู่ตามตู้ยามตำรวจจราจรทั่วกรุงมานานแสนนานแล้วนั้น ไม่ทราบว่าฝังซึมลึกเข้าไปในจิตใจของคนไทยมากน้อยแค่ไหน เพราะยังเห็นความไม่มีระเบียบวินัยในด้านการจราจรเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งคนข้ามถนนและผู้ขับขี่ยวดยาน

 

          เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจจราจร สน.ดินแดง ตั้งด่านจับปรับรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ขึ้นสะพานบริเวณทางข้ามสามเหลี่ยมดินแดง โดยตั้งด่านบริเวณทางลงสะพานดังกล่าว เนื่องจากสะพานแห่งนี้เขาห้ามรถจักรยานยนต์ขับขี่ขึ้นสะพาน อนุญาตเฉพาะรถยนต์เท่านั้น หลายรายถูกปรับโดยไม่มีการออกใบเสร็จรับเงิน บางรายได้รับใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับที่ สน. ดินแดง อาจจะเป็นเพราะมีเงินค่าปรับไม่พอ

 

          คนเดินถนนกล่าวกันว่านี่เป็นวิธีการหาเงินของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกวิธีหนึ่ง เพราะจะตั้งด่านจับเพื่อปรับเฉพาะในช่วงของวันสิ้นเดือนที่เงินเดือนออกเท่านั้น วันอื่นๆ ไม่เคยเห็นมาตั้งด่านจับหรือปรับแต่อย่างใด รถจักรยานยนต์จึงฝ่าฝืนขับขี่ขึ้นสะพานกันเป็นประจำ

 

          การตั้งด่านและวิธีการที่ถูกต้องที่ไม่ถูกมองไปว่าเป็นการหาเงินของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คือ ตั้งด่านที่บริเวณทางขึ้นสะพานลอยข้ามทางแยกสามเหลี่ยมดินแดงที่รถค่อนข้างคับคั่ง เนื่องจากเมื่อมีการห้ามรถจักรยานยนต์ขับขี่ขึ้นสะพานดังกล่าว บรรดาผู้ขับขี่รถจักรยายนต์เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตั้งด่านตรงทางขึ้นก็คงจะไม่ฝ่าฝืนขับขี่ขึ้นไป

 

          และเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเสาร์และเป็นวันแรกที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกดำเนินการตั้งด่านกวดขันผู้ใช้รถที่ไม่หยุดให้คนข้ามถนนตรงทางม้าลายและตักเตือนประชาชนที่ไม่ข้ามถนนตรงทางม้าลายหรือทางข้าม โดยในวันแรกมีการตั้งด่านตรวจจับปรับนำร่อง 5 จุด คือ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  หน้าโรงพยาบาลเด็ก หน้าห้าง ดิโอลด์สยาม  ถนนตรีเพชร  แยกราชประสงค์ถนนสีลมที่แยกศาลาแดง และหน้าห้างคาร์ฟูร์ สี่แยกบ้านแขก

 

          ในแต่ละจุดจะมีป้ายประชาสัมพันธ์ติดไว้บริเวณใกล้เคียง เช่น บนสะพานลอยคนเดินข้าม เกาะกลางถนน รวมไปถึงการใช้เครื่องขยายเสียงแจ้งเตือนประชาชนระบุโทษของการฝ่าฝืนที่ไม่ข้ามถนนในทางข้าม เช่น ทางม้าลายหรือสะพานลอย จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก จับปรับไม่เกิน 200 บาท

 

          ส่วนผู้ขับขี่รถหากไม่หยุดรถให้คนข้ามถนน ถือว่าขับรถไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรที่ปรากฏในทางข้าม มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งในส่วนของผู้ขับขี่ตำรวจได้ออกใบสั่งทันทีและปรับตั้งแต่ 100 – 200 บาท ส่วนประชาชนที่เดินข้ามที่ยังฝ่าฝืนได้ว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจาไปก่อน แต่ได้บันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ด้วย โดยจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดในวันนี้ (ที่ 3 สิงหาคม)

 

          พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร ดูแลพื้นที่ราบทั้งหมด เปิดเผยว่าตั้งแต่วันแรกที่เริ่มออกดำเนินการทั้ง 5 จุด ได้จัดกำลังออกเป็น 2 ช่วง คือ เวลา 10.00 – 12.00 น. และเวลา 13.00 – 15.00 น. ซึ่งผลของการออกดำเนินการในวันแรก ได้ออกใบสั่งผู้ขับขี่รถที่ฝ่าฝืนจำนวน 95 ราย ส่วนประชาชนที่ฝ่าฝืนไม่ข้ามถนนในทางข้ามมีรายงานว่ารวมวันแรกในเวลาดังกล่าวมีจำนวน 160 ราย

 

          การดำเนินการดังกล่าว พล.ต.ต.วีระพัฒน์  ตันศรีสกุล ผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่าก่อนออกดำเนินการครั้งนี้ ได้มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน  วันแรกนี้เป็นเพียงการว่ากล่าวตักเตือนเฉพาะประชาชนที่ฝ่าฝืนไม่ข้ามถนนในทางข้ามไปก่อน เพื่อลดความขัดแย้งและการโต้เถียงกับประชาชน และจะเริ่มดำเนินการจับปรับจริงตั้งแต่วันนี้ (3 สิงหาคม) เป็นต้นไป โดยในช่วงนี้จะเริ่มดำเนินการเพียงสัปดาห์ละ 3 วันคือ จันทร์ – พุธ – ศุกร์ เท่านั้น เพราะตำรวจจราจรมีภารกิจด้านอื่นอีกมาก

 

          การออกดำเนินการอย่างเด็ดขาดในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ได้ขอความร่วมมือไปทั้ง 88 สน. จัดโครงการนำร่องพื้นที่ละ 1 จุด โดยดำเนินการพร้อมกันทั้งหมด และในอนาคตสำหรับตรวจจับเอาผิดกับผู้ขับขี่ จะได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในเส้นทางต่างๆ เพื่อตรวจจับรถที่ฝ่าฝืนเพื่อลดการทำงานของตำรวจจราจร เมื่อจับภาพผู้กระทำผิดแล้วจะส่งใบสั่งไปที่บ้านตามหมายเลขทะเบียนรถ ส่วนประชาชนคงต้องใช้วิธีการตั้งโต๊ะจับปรับอยู่ เพราะหากใช้กล้องตรวจจับ คงยากที่จะหาหลักฐานชื่อสกุลของผู้กระทำผิดได้

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์

 

 

update 03-08-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก