กำหนดมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียน เน้นตรวจระบบไฟฟ้าอุปกรณ์
กทม.จัด “กรุงเทพมหานคร ห่วงใย ความปลอดภัยนักเรียน” เพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ก่อนเปิดภาคเรียน ประจำปีการศึกษา 2555 พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปกครองนักเรียนในมาตรการรักษาความปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร ให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนสังกัดทั้ง 436 โรงเรียนมาโดยตลอดสำหรับปีการศึกษา 2555 ที่กำลังจะเปอดภาคเรียนที่ 1 ในวันที่ 23 พฤษภาคม นี้ สิ่งสำคัญที่กรุงเทพมหานครตระหนักและมีความห่วงใยมากคือ ความปลอดภัยของนักเรียนกว่า 3 แสนคนและแม้ว่ากรุงเทพมหานครจะกำหนดมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร พร้อมคู่มือโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร พร้อมคู่มือโรงเรียนปลอดภัยให้โรงเรียนใช้เป็นแนวทางปฏิบัติและเฝ้าระวังเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนแล้ว
แต่เนื่องจากในปีที่ผ่านมาบางโรงเรียนประสบปัญญาอุทกภัย จึงได้ย้ำเน้นให้ทุกโรงเรียนตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงเรียนรวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่อาจเกิดไฟฟ้ารั่วได้
นอกจากนี้ระหว่างปิดภาคเรียนที่มีระยะเวลากว่า 50 วัน โรงเรียนที่ไม่มีนักเรียนมาใช้บริการทั้งด้านอาคารสถานที่ สนามเด็กเล่น อุปกรณ์ต่างๆ อาจมีบางส่วนที่เกิดการชำรุด ทำให้เกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดได้ ประกอบกับภาวะอากาศที่กำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน ก็อาจเกิดภาวะอากาศที่กำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน ก็อาจเกิดภาวะฝนฟ้าคะนองมิลมแรงหรือพายุ ซึ่งหากบริเวณรอบๆ โรงเรียน หรือระหว่างทางจากบ้านไปโรงเรียนมีป้ายปโฆษณาขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไม่มั่นคงแข็งแรงก็อาจเป็นอันตรายต่อนักเรียนได้สิ่งเหล่านี้ต้องตรวจสอบและแก้ไข เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน
เผย 7 มาตรการเร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยในโรงเรียน
เพื่อให้มาตรการด้านความปลอดภัยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กรุงเทพมหานคร จึงได้เพิ่ม 7 มาตรการเร่งด่วนให้สำนักงานเขตและโรงเรียนดำเนินการเพื่อความปลอดภัยในโรงเรียน ได้แก่
1. สำนักงานเขต/โรงเรียน ตรวจสอบสภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ภายในโรงเรียนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา สำหรับโรงเรียนที่ยังมิได้ติดตั้งหรือติดตั้งยังไม่แล้วเสร็จ ให้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
2. สำนักงานเขต/โรงเรียน ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียนให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยใช้งานได้อย่างปลอดภัยโดยเฉพาะโรงเรียนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในปีที่ผ่านมา และให้ตรวจสอบการติดตั้งสายดินของเครื่องทำน้ำเย็น โดยประสานการทำงานกับการไฟฟ้านครหลวง พร้อมดำเนินการให้ครบทุกโรงเรียน และอาจประสานขอความร่วมมือสถาบันอาชีวศึกษา หรือมหาวิทยาลัยที่สอนคณะวิศวกรรมไฟฟ้าในพื้นที่ร่วมดำเนินการ
3. ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดูแล กำกับยามให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนโดยเคร่งครัด
4. ให้ทุกโรงเรียนจัดกิจกรรม big cleaning day ในวันที่ 21–22 พ.ค. 55 เพื่อให้นักเรียนปลอดภัยจากเชื้อโรคที่มาจากความสกปรก
5. ให้สำนักเทศกิจประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจในการอำนวยความสะดวกและจัดการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียน
6. ให้สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ตรวจสอบท่าเทียบเรือเพื่อปรับปรุงให้มีความมั่นคงแข็งแรงและเพื่อความปลอดภัย โดยประสานงานกับกรมเจ้าท่า พร้อมทั้งตรวจสอบสัญญาณไฟกะพริบและทางม้าลายบริเวณหน้าโรงเรียนให้พร้อมใช้งาน
7. ให้สำนักการจราจรและขนส่ง และสำนักการศึกษา กทม. ทำการสำรวจและพิจารณาดำเนินการจัดหาหมวกนิรภัยเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนที่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์และรถจักรยาน
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก