กาล-ละเล่น(ละอ่อนย้อนวัย)
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
เพิ่งผ่านพ้นไม่นานสำหรับวันเด็กแห่งชาติ ที่ถูกกำหนดให้ตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่เยาวชนไทยทั่วประเทศต่างเฝ้ารอที่จะมีความสุขและสนุกสนานเป็นพิเศษจากกิจกรรมที่หน่วยงานต่างๆ จัดขึ้น ไม่เว้นแต่พื้นที่เรียนรู้สร้างสรรค์ต้นแบบในการสร้างสุขภาวะที่ดีอย่าง ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เลือกที่จะจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ชูแนวคิด "กาล-ละเล่น (ละอ่อนย้อนวัย)" เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ให้แก่เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ
นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. กล่าวว่า ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะมีหน้าที่ในการขยายฐานผู้รับประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านการสร้างเสริมสุขภาพสู่ประชาชนในวงกว้าง ผ่านสื่อนิทรรศการ ห้องสมุด สื่อสิ่งพิมพ์ กิจกรรมฝึกอบรม รวมทั้งกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ต่างๆ กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็กและเยาวชน
โดยปีนี้นำเสนอภายใต้แนวคิด "กาล-ละเล่น (ละอ่อนย้อนวัย)" เป็นการสนับสนุนและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้การสร้างสุขภาวะอย่างสร้างสรรค์ สร้างประสบการณ์ และแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในสังคม มีทักษะชีวิตที่รู้เท่าทัน สามารถเลือกสิ่งที่ดีให้แก่ตนเองและแบ่งปันไปยังคนรอบข้างได้
สำหรับวันเด็กปีนี้ สสส.ให้เด็กๆ ได้เล่นการละเล่นไทยและของเล่นจากวัสดุธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้มีการขยับร่างกายและออกกำลังเพิ่มมากขึ้น ในรูปแบบงานวัด ลานการละเล่นไทย สร้างสรรค์จินตนาการ เน้นการเล่นเป็นกลุ่ม รู้จักเข้าสังคม ลงมือทำด้วยตนเอง และการสร้างทักษะสมองเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ เหมาะกับเด็กในยุคนี้ ตามหลักการของ สสส.ที่สนับสนุนให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาวะองค์รวมทั้ง 4 มิติ คือ กาย ใจ ปัญญา สังคม โดยเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก
"ในช่วงหลังต้องยอมรับว่าเด็กๆ มักใกล้ชิดกับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เราจึงพยายามอยากที่จะหยิบยกนำเอาการละเล่นของไทยที่อาจห่างไกลกับเด็กในยุคปัจจุบันมาให้เขาได้สัมผัสและรู้จัก เพื่อให้เกิดความสนุกสนานครบถ้วนใน 1 วัน ประกอบกับในปีที่ผ่านมา สสส.ทำงานเกี่ยวกับด้านการสร้างทักษะสมองเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ หรือ EF ในเรื่องการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็ก ซึ่งการละเล่นของไทยเรานั้นสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการโยนห่วง การปั้นขนม กับการเพนต์สีหน้ากาก การประดิษฐ์ว่าว สานปลาตะเพียน สานตะกร้อ ฯลฯ และพร้อมกันนั้นการที่เด็กๆ ได้ร่วมสนุกกับกิจกรรม ยังทำให้เกิดการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ รู้จักกฎกติกา และรู้จักรอคอย ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังให้กับเด็กในยุคนี้และนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวันด้วย
นอกจากนี้ สสส.ยังสนองต่อคำขวัญของท่านนายกรัฐมนตรี ในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2561 "รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี" ในการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติในปี 2561 นี้ เด็กๆ จะมีรอยยิ้มที่ร่าเริงแจ่มใส่ มีความรู้ความสามารถ เพื่อในอนาคตจะร่วมกันสร้างสังคมที่ดี มีสุขภาพ และสุขภาวะที่ดี" ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. กล่าว
นายเถลิงเกียรติ แย้มผกา ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำว่าว เผยว่า ครั้งนี้ได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมกับทาง สสส.ในการสอนเวิร์ก ช็อปทำว่าวจุฬาและว่าวปีนี้ โดยสิ่งหนึ่งที่น้องจะได้รับก็คือ การเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ ทั้งจากวัสดุที่ทำว่าวเป็นกระดาษสา ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการส่งเสริมในเรื่องของสติปัญญา ภูมิปัญญาไทยในการผลิตของเล่นของเด็กในยุคก่อน
นอกจากนี้ เรายังเสริมทักษะในการวาดภาพระบายสี เป็นการเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการลงไปในการประดิษฐ์ว่าวอีกด้วย ซึ่งเราเชื่อว่าการที่เด็กๆ และครอบครัวได้มาร่วมกิจกรรมเรียนรู้ครั้งนี้จะทำให้เกิดความผูกพัน อนุรักษ์การละเล่นและวิถีชีวิตของคนในยุคเก่าให้สืบทอดต่อไปได้
ด้าน น้องแพรไหม-พิ รุฬห์ธาร ต้องวัฒนา อายุ 7 ปี และคุณแม่พริก-วันเพ็ญ ต้องวัฒนา อายุ 38 ปี ผู้เข้าร่วมงานวันเด็ก บอกว่า สนใจมาร่วมงานที่ สสส.เพราะเคยได้มาร่วมกิจกรรมเมื่อปีที่แล้วสนุกกับงานที่จัดขึ้น โดยปีนี้พอทราบข่าวว่ามีธีมงานเกี่ยวกับการละเล่นไทย ก็อยากพาลูกมาร่วมสนุก เนื่องจากจะทำให้เขาเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยด้วย และเขาไม่เคยได้เล่นการละเล่นไทยๆ เลย ซึ่งหลังจากร่วมกิจกรรมแล้ว น้องก็สนุกและประทับใจกับหลายๆ ฐาน โดยเฉพาะกิจกรรมเวิร์กช็อปทำขนมลูกชุบจากชุมชนบางกระเจ้า
เช่นเดียวกับ คุณแม่หวาน-สมดี นิ้วทอง อายุ 42 ปี น้องเฟรสชี่-ภัทธวดี อายุ 7 ปี และน้องเชฟ-เฉลิมชัย ศรีภา อายุ 10 ปี บอกว่า ทางครอบครัวของเราพาลูกๆ มาร่วมกิจกรรมวันเด็กที่ สสส.ทุกปี เพราะบ้านอยู่ใกล้ๆ กับที่นี่ ที่สำคัญทาง สสส.มีกิจกรรมที่มีความสนุกและปักเป้าแก่น้องๆ เยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมในวันเด็กความรู้ให้กับเด็กๆ ซึ่งปีนี้เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับการละเล่นไทย ทำให้น้องๆ ได้รับความรู้เกี่ยวกับการละเล่นไทยและวัฒนธรรมไทย ซึ่งสร้างพัฒนาการและการเรียนรู้ ทำให้พวกเขาทราบว่ารุ่นพ่อแม่ คุณตาคุณยาย เขามีการเล่นกันแบบไหน เป็นการได้สัมผัสและร่วมสืบสาน และออกห่างจากเทคโนโลยีดูบ้าง
สำหรับผู้สนใจกิจกรรมอื่นๆ ของศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. เปิดให้บริการทุกวันอังคารถึงวันเสาร์ (ปิดทุกวันอาทิตย์ จันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ทีมบริหารนิทรรศการ เบอร์ติดต่อ 09-3124-6914 หรืออีเมล [email protected].