กรมอนามัยหวั่นหน้าหนาวเด็กไม่แปรงฟันเสี่ยงโรค

กรมอนามัย หวั่นลมหนาว น้ำเย็น ทำเด็กไทยไม่อยากแปรงฟัน เสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ แนะพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นตัวช่วยให้ลูกแปรงฟันทุกเช้า-ก่อนนอน

นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า อากาศหนาวมีผลทำให้เด็กนักเรียนละเลยการแปรงฟันตอนเช้าและก่อนนอน จากอุณหภูมิของอากาศที่ลดต่ำลงมีผลทำให้น้ำประปาหรือน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติเย็นกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เด็กๆ ไม่อยากแปรงฟัน เพราะกลัวน้ำเย็นจัดหรือเกิดอาการเสียวฟันเนื่องจากมีฟันผุอยู่ พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด

โดยเบื้องต้นควรมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีการแปรงฟันให้สะอาดทั่วถึงเพื่อป้องกันฟันผุ เพราะผลจากการสำรวจการแปรงฟันของเด็กไทยพบเด็กอายุ 3 ปี แปรงฟันตอนเช้าก่อนมาโรงเรียนร้อยละ 56 มีผู้ปกครองแปรงให้ร้อยละ 36

ทั้งยังพบว่าผู้ปกครองในเขตกรุงเทพมหานครและเขตเมืองจะแปรงฟันให้เด็กมากกว่าผู้ปกครองในเขตชนบท และในเด็กอายุ 5 ปี พบมีการแปรงฟันด้วยตนเองมากขึ้น แต่ผู้ปกครองควรแปรงซ้ำให้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี

 นพ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า การแปรงฟันอย่างถูกวิธีทั้งในตอนเช้า หลังอาหารกลางวัน และก่อนนอน เป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายและดีที่สุดสำหรับเด็กไทยในการป้องกันโรคฟันผุ โดยวิธีการแปรงฟันในเด็กง่ายๆ คือ เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่มและแปรงด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์

ซึ่งฟลูออไรด์จะช่วยชะลอการย่อยสลายของแร่ธาตุและเสริมสร้างกระบวนการคืนกลับของแร่ธาตุบนผิวเคลือบฟัน ทำให้ยับยั้งการผุของผิวเคลือบฟัน แปรงฟันให้ทั่วทุกซี่ทุกด้านนาน 2 นาที เพื่อให้ฟลูออไรด์ในยาสีฟันมีเวลาที่จะเข้าไปจับกับผิวฟัน เพื่อช่วยกระบวนการสร้างฟันและเป็นการป้องกันฟันผุได้นานพอ ที่สำคัญควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอนและไม่ควรรับประทานอาหารหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง

ในช่วงหน้าหนาวที่อาจมีผลทำให้น้ำเย็นและเป็นอุปสรรคต่อการแปรงฟันของเด็ก ๆ นั้น การแก้ไขปัญหาคือ ในการแปรงฟันแต่ละครั้งก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมากในการแปรงฟัน เพียงบ้วนน้ำเล็กน้อยหรือบ้วนยาสีฟันในปากทิ้งให้หมดโดยไม่บ้วนน้ำก็สามารถทำให้ฟันสะอาดได้ อธิบดีกรมอนามัยกล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ