
โคราชเปิดเมืองอารยสถาปัตย์ มุ่งสู่เมืองต้นแบบ Universal Design เพื่อคนทั้งมวล
ที่มา: งาน “เปิดเมืองอารยสถาปัตย์ เมืองกีฬา และเมืองท่องเที่ยวเพื่อคนทั้
ทางที่ไม่เอื้อ ไม่ได้เป็นแค่ข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง หากยังเป็นการสกัดกั้น “โอกาส” ในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานทั้งด้านการศึกษา การทำงานและการมีส่วนร่วมทางสังคมของมนุษย์คนหนึ่ง
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวและมีจำนวนผู้พิการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสร้างสภาพแวดล้อมที่รองรับการใช้ชีวิตของคนทุกกลุ่มจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งอาจไม่ใช่แค่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและผู้พิการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสตรีมีครรภ์ ผู้ที่ใช้รถเข็นเด็ก หรือผู้ที่มีสัมภาระหนัก
เพื่อให้คนในสังคมทุกกลุ่มสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเท่าเทียม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ มูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล จึงเป็นแกนหลักในการผลักดันการทำงานร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้อง เดินหน้ายกระดับและปรับปรุงคุณภาพชีวิต ผ่านการขับเคลื่อนหลักในสองมิติสำคัญ นั่นคือ การปรับปรุงพื้นที่สาธารณะ และการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้สูงอายุและผู้พิการ ภายใต้แนวคิด “สร้างสังคมที่ทุกคนเข้าถึงได้” อย่างต่อเนื่อง
สสส. และภาคีเครือข่าย ยังจับมือขับเคลื่อนโครงการนำร่องสำคัญ “เปิดเมืองอารยสถาปัตย์ เมืองกีฬา และเมืองท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล” ตามแนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคน หรือ Universal Design (UD) เพื่อเป็นเมืองต้นแบบในภูมิภาคขึ้น ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา โดยมี ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธี ซึ่งเป้าหมายโครงการนี้ เพื่อขับเคลื่อนการออกแบบที่เป็นสากล ให้ทุกพื้นที่ของจังหวัดเข้าถึงได้และปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและคนพิการ
โดยพิธีเปิดเมืองอารยสถาปัตย์โคราชครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากรองนายกรัฐมนตรี พพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการ สสส. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งได้ MOU ร่วมกัน และกลายเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือขับเคลื่อนเมืองโคราชให้เป็น เมืองต้นแบบที่ทุกคนเข้าถึงได้
ความท้าทายที่ต้องเร่งแก้ไข
ประเสริฐ จันทรรวงทอง กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มตัว โดยในปี 2568 มีผู้สูงอายุมากกว่า 14 ล้านคน หรือคิดเป็น 21.87% ของประชากรทั้งประเทศ นอกจากนี้ยังมีคนพิการอีกกว่า 2.2 ล้านคน ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขปี 2566 ชี้ให้เห็นว่า อุบัติเหตุจากการหกล้มในที่พักอาศัยไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิตเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความพิการ โดยแต่ละปี มีผู้สูงอายุหกล้มมากกว่า 30% และ 65% หกล้มจากพื้นผิวที่ลื่นหรือสะดุด
รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อน อารยสถาปัตย์ (Friendly Design) ซึ่งเป็นแนวทางที่ สสส. และภาคีเครือข่าย ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชากรทุกกลุ่มสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจในระยะยาว
สสส. ขับเคลื่อน UD เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนทั้งมวล
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ให้ความสำคัญกับการสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ โดยมุ่งให้พวกเขาสามารถออกมาใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะได้อย่างอิสระ สะดวก และปลอดภัย ซึ่งจ.นครราชสีมา เป็นหนึ่งในจังหวัดต้นแบบที่ สสส. ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเครือข่ายต่าง ๆ พัฒนามาตั้งแต่ปี 2565 มีการปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม และห้างสรรพสินค้าให้เหมาะสมกับแนวคิด UD
ที่ผ่านมา สสส. ยังคงเดินหน้าโครงการสำคัญอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดตั้งศูนย์การออกแบบเพื่อทุกคน (UDC) ในมหาวิทยาลัย 16 แห่ง เพื่อให้คำปรึกษาและปรับปรุงสภาพแวดล้อมบ้านให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุและคนพิการ
สำหรับโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์และประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นใน 12 จังหวัด เพื่อปรับปรุงทางเท้า ทางลาด และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เชื่อมต่อกันอย่างราบรื่น โดยมีเป้าหมายหลักคือการยกระดับ โคราชสู่เมืองต้นแบบ หรือ “Tourism for All”
อีกทั้งโครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับ จ.นครราชสีมา สู่เมืองสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health & Wellness Tourism) ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism for All) โดยเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เข้าถึงได้จริง ปลอดภัย และใช้งานได้สำหรับทุกคน ทั้งผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วย สตรีมีครรภ์ และครอบครัวที่มีเด็กเล็ก โดยมีเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดให้โคราชเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ยั่งยืน เป็นมิตร และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
ทางเท้าในเมืองที่ไม่ต่างจากกับดัก
จากสถานการณ์ความจริงในวันนี้ เราจะพบว่า โครงสร้างพื้นฐานและคมนาคมไม่ได้ “เอื้อ” สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการมากนัก
แม้การออกจากบ้านของพวกเขา จะเป็นการเดินเพียงไม่กี่เมตร ก็อาจหมายถึงการเผชิญโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เอื้ออำนวยเหล่านี้
เช่นเดียวกับผู้พิการที่ใช้รถวีลแชร์ แม้จะมีสองล้อพาไปที่ไหนก็ได้ แต่บ่อยครั้งต้องเจอทางเท้าที่เต็มไปด้วยร้านค้ายกสูง กระถางต้นไม้ รถจักรยานยนต์จอดขวาง
ภายใต้การทำ MOU ที่จ.นครราชสีมา กำลังเป็นจุดเริ่มในแก้ไขปัญหานี้ เริ่มจากสำรวจเส้นทางในเมือง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สสส. มูลนิธิอารยสถาปัตย์และกลุ่มอาสา สร้างทางลาด ปรับปรุงทางเท้าทำเส้นทางสำหรับผู้พิการทางสายตา และปรับปรุงห้องน้ำสาธารณะให้รองรับรถเข็น
นอกจากนี้ โครงการรถรางขนส่งมวลชนเบา (Light Rail) ที่เชื่อมตัวเมืองและชานเมือง เช่น จากจอหอถึงหัวทะเล ผ่านจุดสำคัญ เช่น ลานย่าโม และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เป็นหนึ่งในความหวังสำคัญที่จะทำให้ผู้พิการเดินทางสะดวกขึ้น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเกินไป ทั้งหมดนี้คือเป้าหมายที่ทำให้ “โคราช” เป็นเมืองที่ถนน ทางเท้า และเมืองที่เข้าถึงได้เพื่อทุกคน
สานต่อเป้าหมายสู่เมืองแห่งอารยสถาปัตย์
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา กล่าวว่า เทศบาลฯ มุ่งมั่นที่จะทำให้โคราชเป็นเมืองที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม โดยได้ขับเคลื่อนแผนงานสำคัญหลายด้าน เช่น การปรับปรุงทางเท้าและทางข้ามถนนให้ปลอดภัย การพัฒนาสวนสาธารณะและสถานที่ราชการให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ รวมถึงการติดตั้งป้ายสัญลักษณ์และระบบเสียงนำทางสำหรับผู้พิการทางสายตา เป้าหมายสูงสุดคือการทำให้ จ.นครราชสีมา เป็นเมืองต้นแบบด้านอารยสถาปัตย์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและมีศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะมีข้อจำกัดทางร่างกายหรือไม่ก็ตาม
ในกรณีศึกษา จ.นครราชสีมา เป็นเมืองใหญ่ กลับเผชิญกับปัญหาการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการไม่ต่างจากพื้นที่ห่างไกล โดยเฉพาะด้าน ระบบขนส่งสาธารณะ ที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ผู้พิการต้องแบกรับค่าเดินทางที่สูงลิ่ว รวมถึงปัญหาเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่รองรับ เช่น ทางเท้าที่มีสิ่งกีดขวางและอาคารเรียนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้
นายกเทศมนตรี ยังเอ่ยต่อว่า เป้าหมายสูงสุดคือการทำให้ จ.นครราชสีมา เป็นเมืองต้นแบบด้านอารยสถาปัตย์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและมีศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะมีความจำกัดทางร่างกายหรือไม่ก็ตาม
ซึ่งการลงนาม MOU เพื่อผลักดันให้โคราชเป็น “เมืองอารยสถาปัตย์” จะเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าจับตามอง มีการริเริ่มโครงการต่าง ๆ เช่น การพัฒนาเส้นทางสำหรับผู้พิการทางการเคลื่อนไหวและผู้พิการทางสายตา รวมถึงแนวคิดการสร้างรถรางขนส่งมวลชนที่รองรับคนทุกกลุ่ม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเมืองให้เป็นมิตรกับทุกคนอย่างแท้จริง
โคราชจึงไม่ใช่เพียงเมืองใหญ่ของอีสานเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองต้นแบบที่ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงเมืองของตัวเองได้