เยาวชนป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงในโลกออนไลน์
เยาวชน นศ.เชียงใหม่ เผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ การดื่มสุราอาจจะนำไปสู่ความเสี่ยง แนะต้องรู้เท่าทันสื่อ ก่อนตกเป็นเหยื่อเพราะรัก
เครือข่ายเยาวชนป้องกันปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติดในจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้การสนับสนุนจากมูลนิธิภูมิพลังชุมชนไทย ร่วมกับโครงการทูบีนับเบอร์วันจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดทำโครงการสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์และพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ด้วยวัยรุ่นส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจกับการใช้ชีวิตในวันวาเลนไทน์กับคนรักหรือคนรู้ใจ
จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้สังคมออนไลน์และพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้ social app ของนักศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 532 ตัวอย่าง จาก 4 มหาวิทยาลัยดังในจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 2- 7 กุมภาพันธ์ 2559 โดยพบว่า นักศึกษาร้อยละ 81 ใช้โปรแกรม facebook เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารมากที่สุด ด้วยเหตุผลของการใช้เพื่อการติดต่อสื่อสารในกลุ่มเพื่อน ร้อยละ 69 และรองลงมาคือการติดตามข้อมูลข่าวสารบ้านเมือง ร้อยละ 19 และยังมีผู้ใช้เพื่อหาแฟน คนรักและเพื่อนใหม่ร้อยละ 10 ส่วนเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร จะใช้สมาร์ทโฟน ร้อยละ 77 โดยกลุ่มเยาวชนนักศึกษาจะใช้สื่อสังคมออนไลน์สูงถึง 7-10 ชั่วโมงต่อวันคิดเป็นร้อยละ 67
เมื่อถามถึงประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกชอบหรือรักใครสักคนบนโลกออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างกลับบอกว่า ร้อยละ 57 เคยมี ประสบการณ์ในการติดต่อสื่อสารผ่านบุคคลที่ไม่รู้จัก นอกจากนี้ยังพบว่ารูปแบบที่พบเจอมากที่สุดร้อยละ 74 มีการทักทางข้อความส่วนตัว inbox รองลงมาร้อยละ 20 คือการกด like ภาพหรือข้อความแบบต่อเนื่อง และร้อยละ 6 มีการโพสต์ข้อความบนกระดานข้อความ อาทิ ยินดีที่ได้รู้จัก ชื่ออะไร เป็นต้น
นอกจากนี้อาจจะมีการสานต่อที่จะนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงต่อการลวงล่อและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมรวมไปถึงการล่วงละเมิดทางเพศ โดยพบว่าพื้นที่ที่อาจจะมีความเสี่ยงร้อยละ 67 คือ การชวนไปเที่ยวกลางคืน ผับ บาร์ สถานบันเทิง ร้อยละ 20 คือ การนัดพบ และร้อยละ 13 คือการพูดโน้มน้าวทำให้ตกหลุมรัก อีกทั้งเยาวชนยังให้ความเห็นว่า การใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะเป็นหนึ่งที่จะนำไปสู่ความเสี่ยงในรูปแบบที่กล่าวมามากถึงร้อยละ 66
นอกจากนี้ยังได้ถามถึงทัศนะเกี่ยวกับการสวมถุงยางอนามัยหรือการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยในกลุ่มเยาวชน พบว่าปัจจุบันมีสูงถึงร้อยละ 48 ที่ยังไม่มีการสวมถุงยางอนามัยในการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยรวมไปถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คงเป็นตัวเลขที่สูง ส่วนความกล้าในการเข้าถึงถุงยางอนามัยในปัจจุบันพบว่า เยาวชนมีความกล้าที่จะซื้อทุกอย่างได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางที่มากที่สุด ร้อยละ 70 คือ ร้านสะดวกซื้อ รองลงมาร้อยละ 19 มีหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานเอกชนมาแจกจ่าย และร้อยละ 7 มีการซื้อผ่านตู้ถุงยางหยอดเหรียญ และร้อยละ 4 มีผู้ปกครองและญาติให้มา
ส่วนการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับ คนรักที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือกระบวนการค้ายาเสพติด โดยพบว่า คนรักหรือแฟนร้อยละ 97 ไม่เห็นด้วยที่จะมีคู่รักหรือแฟนไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการค้ายาเสพติด ส่วนแนวทางส่วนใหญ่ ร้อยละ 91 จะพูดคุยและใช้เหตุผลต่างๆนานาเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เลิกยาเสพติดหรือมีการส่งต่อให้บำบัดรักษา พร้อมยังมีร้อยละ9 ยังบอกว่าไม่สามารถที่จะพูดคุยกับแฟนหรือคนรักได้ด้วยอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างชายหญิง
นายวรากร ใจยา ตัวแทนเครือข่ายเยาวชน NPAD ได้กล่าวว่า โครงการณรงค์สร้างสรรค์เนื่องในเทศกาลแห่งความรัก ภายใต้แนวคิด “Orange in love รักเท่าเทียม รู้เท่าทัน” เพื่อให้เยาวชนตระหนักถึงผลกระทบจากการดื่มสุรา การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย การใช้สื่อสังคมออนไลน์ และการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 087-3024761 และ 084-6160202
ที่มา : โครงการป้องกันปัญหาจากเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์เเละสารเสพติดในกลุ่มนักศึกษาพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ภาพประกอบจากโครงการป้องกันปัญหาจากเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์เเละสารเสพติดในกลุ่มนักศึกษาพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่