อย่าโยนบาปให้เพศหญิงทารกถูกทิ้ง…ผู้ชายต้องรับผิดชอบ

 

อย่าโยนบาปให้เพศหญิงทารกถูกทิ้ง...ผู้ชายต้องรับผิดชอบ

 

ข่าวสารบนหน้าสื่อฉายภาพความชำรุดของสังคม…

27 ส.ค.:ช็อก! ศพเด็ก 2 เดือน ถูกฝังดินกลิ่นเหม็นคลุ้ง

26 ส.ค.:สาว 18 เหยื่อข่มขืนทิ้งลูกแรกเกิดหนีอายเข้ากรุง

25 ส.ค.:ตะลึง ศพเด็กทารกหมกส้วมโรงพยาบาล

24 ส.ค.:สลด! ทารกถูกทิ้งมดยุงรุมกัด… ฯลฯ

ความบกพร่องทางศีลธรรมคือบาปกรรมที่ถูกผลักให้เพศหญิงเป็นผู้แบกรับ”การคลอดทารกแล้วทิ้ง”จะเด็ด เชาวน์วิไลผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลยืนยันว่า ปัญหาการทอดทิ้งทารกส่วนใหญ่สาเหตุมาจากเพศชาย ด้วยความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างชาย-หญิง คือโซ่ตรวนล่ามไม่ให้ปัญหาได้รับการคลี่คลาย

จะเด็ด อธิบายว่า การทอดทิ้งทารกสะท้อนถึงความไม่พร้อมมีบุตร หากพิจารณาจากสถิติแล้วจะพบว่าเกิดจากการเกี่ยวโยงกับความสัมพันธ์ของชายและหญิงที่ไม่เท่าเทียมกันด้านสถานะทางสังคม โดยมูลเหตุของปัญหาแบ่งออกเป็น2 ส่วน คือ 1.ถูกหลอก ในที่นี้หมายถึงผู้หญิงที่ถูกผู้ชายหลอกมีเพศสัมพันธ์ (เต็มใจ) และ 2.ถูกข่มขืน (ไม่เต็มใจ)

สำหรับการหลอกเพื่อมีเพศสัมพันธ์ข้อมูลมัดแน่นเพศชายคือตัวการ ทั้งการหลอกด้วยข้ออ้างความรักโดยไม่ป้องกันหรือหลอกให้เป็นภรรยาคนที่ 2 โดยผู้หญิงไม่รู้ตัว ซึ่ง 2 ปัจจัยนี้ทำให้เกิดสภาวะไม่พร้อมมีบุตร นำมาสู่การทำแท้ง หรือการทอดทิ้งทารกในที่สุด

“ต้องเข้าใจว่าเมื่อผู้หญิงไม่มีทางเลือกก็ต้องทำ สังคมต้องมีความเข้าใจให้ถูกต้องว่าไม่ใช่เป็นเพราะแม่ใจยักษ์ หรือผู้หญิงนิสัยไม่ดีปล่อยเนื้อปล่อยตัว” จะเด็ด ระบุ

อย่างไรก็ตาม จากสถิติร้องเรียนที่มูลนิธิได้รับและเข้าไปช่วยเหลือ เกินกว่าครึ่งมีสาเหตุมาจากผู้ชายที่ไม่รับผิดชอบส่วนความเข้าใจร่วมของสังคมที่มองว่าเพศหญิงไม่มีการศึกษา ไม่มีการป้องกันห่างไกลความเจริญ…มีปริมาณที่น้อยมาก

“ความชุกของสถานการณ์กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งประเทศ ไม่เกี่ยวว่าเป็นชุมชนเมืองหรือชุมชนชนบท ระดับความรุนแรงของสถานการณ์เท่าๆ กัน” จะเด็ด ให้ข้อมูล

ขณะที่การแก้ปัญหาในปัจจุบันเป็นไปอย่างผิดที่ผิดทาง มุ่งแต่รณรงค์ให้ผู้หญิงป้องกันตัวเอง ดังนั้นสิ่งแรกที่ภาครัฐและภาคประชาสังคมต้องร่วมกันทำ คือเปลี่ยนวิธีการมองปัญหา โดยต้องเลิกโยนความผิดให้กับเพศหญิง และเลิกปลูกฝังเรื่องผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้าเป็นผู้นำครอบครัว ขณะที่ผู้หญิงต้องเป็นช้างเท้าหลัง เป็นแม่บ้านที่ดี เพราะสิ่งนี้คือค่านิยมให้เพศชายมีอำนาจเหนือเพศหญิง

นอกจากนี้ ควรตรากฎหมายกำหนดบทลงโทษเอาผิดผู้ชายด้วย เพราะปัญหาการทอดทิ้งทารก หรือการทำร้ายทารก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ถูกผู้ชายทอดทิ้งไปขณะตั้งครรภ์ และผู้หญิงเหล่านี้มักเกิดภาวะซึมเศร้าจนท้ายที่สุดก็มาลงที่เด็ก

ด้าน ณัฐยา บุญภักดีผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ผู้ทำงานด้านอนามัยเจริญพันธุ์ผู้หญิงมานานกว่า 15 ปี ฉายภาพเพิ่มว่าตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มของวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยปัจจุบันมีเด็กสาวที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเฉลี่ยวันละ360 ราย

ณัฐยา บอกว่า อัตราการตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้นแปรผันตามสัดส่วนของประชาชนที่เพิ่มขึ้น แต่การตั้งครรภ์ของแม่ที่อายุยังน้อยสะท้อนถึงปัญหาที่สุกงอม สืบเนื่องมาจากในอดีต 10-15 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการเตรียมความพร้อมเรื่องเพศศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ

“เมื่อ10-15 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่เคยวางระบบรองรับเรื่องนี้เมื่อเวลาผ่านไปจนเด็กเหล่านั้นโตขึ้น ปัญหาก็เริ่มสุกงอมและแสดงผลให้เห็นในปัจจุบัน หากเริ่มวางระบบป้องกันและเยียวยาให้ครอบคลุมในตอนนี้ กว่าจะได้ผลก็คงต้องรออีก 5-10 ปีข้างหน้า แต่ถ้ายังไม่เริ่ม เวลาก็จะทอดยาวออกไปอีก” ณัฐยา ระบุ

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

Shares:
QR Code :
QR Code