หญิงหมดประจำเดือนเสี่ยงกระดูกพรุน
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์
แพทย์เตือนหญิงหมดประจำเดือนเสี่ยงกระดูกพรุน ควรรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียมสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้เหมาะสม
นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ภาวะกระดูกพรุนส่วนใหญ่เกิดจากการเสื่อมถอยของร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้นในผู้สูงอายุจึงต้องระหว่างเรื่องกระดูกเปราะ แตก หักง่าย ทั้งนี้โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน เนื่องจากมีการเสื่อมสภาพการทำงานของรังไข่ เกิดการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน เลือดประจำเดือนจะขาดหายไป โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่ ผมแห้ง หลุดร่วงง่าย ผิวบาง เครียดง่าย หงุดหงิด ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ประจำเดือนผิดปกติจนขาดหายไปในที่สุด ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน โดยเมื่อหมดประจำเดือนแล้วจะสูญเสียมวลกระดูกอย่างรวดเร็วใน 5 ปีแรก ทำให้กระดูกหักง่าย โดยเฉพาะกระดูกสันหลัง สะโพก และข้อมือ ทำให้มีปัญหาการเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกาย มักมีอาการปวดหลัง ตำแหน่งที่ปวดไม่ชัดเจนและอาจปวดร้าวไปข้างใดข้างหนึ่ง กระดูกหลังยุบตัว หลังค่อม ความสูงลดลง หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาที่เหมาะสม ไม่ควรซื้อยามารับประทานเองเพราะอาจมีส่วนประกอบของสารสเตียรอยด์ทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุนมากขึ้น
นพ.ธีรพล กล่าวอีกว่า สำหรับทางเลือกในการการดูแลภาวะกระดูกพรุนโดยไม่ต้องใช้ยา คือการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียมสูง อาทิ ผลิตภัณฑ์จากนม กุ้งแห้ง ปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งกระดูก ถั่วต่างๆ เต้าหู้ งาดำ ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักคะน้า ใบชะพลู ใบยอ เป็นต้น ลดอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด ไขมันมาก เช่น เนื้อสัตว์ กะทิ เพราะไขมันจะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม นอกจากนี้ควรออกกำลังกายที่มีการลงน้ำหนัก เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ในช่วงเช้าเพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดีธรรมชาติจากแสงแดดก็จะช่วยทำให้มวลกระดูกแข็งแรงขึ้น งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาโรคที่อาจมีผลให้สูญเสียมวลกระดูกได้เร็วขึ้น เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ ไตวาย เป็นต้น นอกจากนี้ควรปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านพักให้เหมาะสม มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการลื่นล้มที่อาจส่งผลให้ผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุนเกิดความพิการได้