สานพลังเครือข่ายหริภุญชัย ต้านน้ำเมา บุญหลวงเมืองปลอดเหล้า

 

สานพลังเครือข่ายหริภุญชัย ต้านภัยน้ำเมา บุญหลวงเมืองปลอดเหล้า
 
เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน เครือข่ายประชาคมงดเหล้าจังหวัดลำพูนได้ร่วมกันจัดมหกรรม “สานพลังเครือข่ายหริภุญชัย ต้านภัยน้ำเมา บุญหลวงเมืองปลอดเหล้า” ภายในงานมี 6 อำเภอ 3 หน่วยงานเข้าร่วมงานกว่า 200 คนร่วมกันจัดงานนิทรรศการนำเสนอโครงการคนต้นแบบลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การลดค่าใช้จ่ายในงานศพ และอีกหลายโครงการ
 
นายภุชงค์ โพธิกุฏสัย รองผู้ว่าจังหวัดลำพูน
 
โดยการนี้ นายภุชงค์ โพธิกุฏสัย รองผู้ว่าจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดงาน และได้กล่าวถึงการแต่งเมืองลำพูนในเป็นเมืองบุญหลวงด้วย การเลือกแก้ไขปัญหาในงานบุญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เครือข่ายสามารถทำได้และขยายไปยังงานบุญอื่นๆ ให้ปลอดเหล้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอน การสร้างเสริมกลุ่มแกนนำขยายเครือข่ายรณรงค์ตัวอย่างไปยังชุมชนต่างๆ การมีส่วนร่วมของชุมชน พระสงฆ์ และสถาบันการศึกษาที่เล็งเห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเนื่องมาจากเครือข่ายภาคีงดเหล้าจังหวัดลำพูนมีต้นทุนตัวอย่างและศักยภาพความเข้มแข็งสูงที่จะสามารถทำให้งานบุญของลำพูนให้เป็นเมืองบุญหลวงโดยไม่มีเหล้า
 
ภายในงานได้มีการมอบโล่รางวัล แก่ชุมชนที่สามารถลดค่าใช้จ่ายในงานศพ โดยที่ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งมีทั้งหมด 6 ชุมชน ประกอบด้วยบ้านศรีดอนชัย บ้านม่วงน้อย บ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว บ้านหลุก บ้านศรีบุญยืน และบ้านทาปลาดุก พร้อมกันนี้ได้มีการมอบประกาศนียบัตรเสริมสร้างกำลังใจ ให้แก่บุคคลต้นแบบที่สามารถลด ละ เลิกเหล้าได้ 6 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอบ้านธิ อำเภอทุ่งหัวช้าง อำเภอลี้ อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอป่าซาง และอำเภอแม่ทา เป็นจำนวนทั้งหมด 42 คน
 
เสวนา สานพลังเครือข่ายหริภุญชัย ต้านภัยน้ำเมา บุญหลวงเมืองปลอดเหล้า
 
ในงานมหกรรมฯครั้งนี้ได้มีการจัดเวทีเสวนา “สานพลังเครือข่ายหริภุญชัย ต้านภัยน้ำเมา บุญหลวงเมืองปลอดเหล้า” ขึ้น ซึ่งมีการดำเนินกิจกรรมโดย อาจารย์นพพร นิลณรงค์ ได้ตั้งคำถามแก่ผู้เข้าร่วมงานว่า “กินเหล้าแล้วเสียอะไร” ทางผู้เข้าร่วมงานได้ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่ากินเหล้าแล้วมักจะเสีย “เสียเมีย เสียเพื่อนบ้าน เสียเงิน เสียเวลา เสียอนาคตและเสียทุกอย่างที่มีในชีวิต”
 
ผู้เข้าร่วมเสวนา นายวิภูสิต อินทะจักร บุคคลต้นแบบเลิกเหล้า ได้กล่าวถึงการดื่มสุรามาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นนั้น เป็นสาเหตุเนื่องมาจากครอบครัวขาดความอบอุ่น จึงชอบไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนอยู่เป็นประจำ “กินเหล้าไม่มีเงิน พ่อแม่คนอื่นๆ สั่งห้ามคบ เสียแฟน และโดนไล่ออกจากงาน”  หลังจากปัญหาดังกล่าว จึงได้เริ่มลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และร่วมเข้าค่ายบำบัดการเลิกเหล้า 5 วัน ทำให้สามารถเลิกเหล้าได้อย่างถาวร นอกจากนี้ นายวิภูสิต ยังได้ฝากข้อคิดแก่ผู้ร่วมงานต่ออีกว่า โรงเรียนควรปลูกฝัง ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษและปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ่อแม่ควรให้กำลังใจและเป็นที่ปรึกษาเมื่อลูกมีปัญหา 
 
จากนั้น นายประเสริฐ มูลงาม ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านธิ และเป็นบุคคลต้นแบบนักรณรงค์ ได้กล่าวต่อถึงการก่อตั้งกลุ่มชนะใจตนเอง กลุ่มคนใจแข็ง ซึ่งกลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มที่สามารถเลิกเหล้าได้จริงและยังสามารถชักชวนบุคคลอื่นๆ ที่ติดเหล้ามาเข้าร่วมกลุ่มได้อีกด้วย จากนั้นก็ยังได้จัดตั้งคณะกรรมการและดำเนินกิจกรรมลดค่าใช้จ่ายในงานศพได้ถึง 20 หมู่บ้านจาก 36 หมู่บ้าน พร้อมกับผลักดันให้เป็นระดับอำเภอ
 
“ใน 3 ปีข้างหน้า จะผลักดันให้ไม่มีเหล้าดื่มในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาและงานศพของชุมชนอีก 10 หมู่บ้าน รวมไปถึงร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 20 ร้าน ที่ไม่ขายเหล้าในเทศกาลและวันสำคัญต่างๆ ทางศาสนา” นายประเสริฐ กล่าว
 
แข่งขันโต้วาที มีแฟนขี้เหล้า ทุกข์กว่ามีแฟนเจ้าชู้
 
นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีการ แข่งขันโต้วาทีขึ้นในหัวข้อ “มีแฟนขี้เหล้า ทุกข์กว่ามีแฟนเจ้าชู้” โดยกลุ่มเครือข่ายเยาวชนจากโรงเรียนจักรคำคณาธรจังหวัดลำพูน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการดื่มแอลกอฮอล์ และการทำตัวเจ้าชู้เป็นสาเหตุให้เกิดความทุกข์ แก่ผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 คน
 
เรื่อง: ขจรพลกฤษฏ์  จันทร์แสง ทีมสนับสนุนประชาคมภาคเหนือตอนบน
 
 
 
 
 
ที่มา: สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
Shares:
QR Code :
QR Code