สสส.-ภาคีฯ ปลูกเมล็ดพันธุ์ความปลอดภัย เคลื่อนถนนปลอดภัยยั่งยืน ตั้งศูนย์เด็กเล็กต้นแบบ 38 แห่ง 7 จ.

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

ภาพประกอบจาก สสส.

ปกข่าว สสส.-ภาคีฯ ปลูกเมล็ดพันธุ์ความปลอดภัย เคลื่อนถนนปลอดภัยยั่งยืน ตั้งศูนย์เด็กเล็กต้นแบบ 38 แห่ง 7 จ.

                    ครูศูนย์เด็กเล็กทั่วไทย ขยายผลปลูกฝัง “เมล็ดพันธุ์ความปลอดภัย” สสส.-ภาคี 4 ภูมิภาค สร้างวัฒนธรรมถนนปลอดภัย เด็ก-ครู-ผู้ปกครองสวมหมวกนิรภัยเพิ่มเฉลี่ย 80-100% เกิดศูนย์ต้นแบบ 38 แห่ง โรงเรียน 5 แห่ง ครอบคลุม 20 อำเภอใน 7 จังหวัด รุกยกระดับ “อำเภอถนนปลอดภัย” 18 ตำบล 6 อำเภอ เชื่อมกลไกท้องถิ่น-นโยบาย สู่ถนนปลอดภัยยั่งยืน

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

                    นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวภายในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “การเดินทางของเมล็ดพันธุ์แห่งความปลอดภัยทางถนน บ่มเพาะ ผลิใบ เพื่อหยั่งรากสู่ทิศทางการขับเคลื่อนงานโดยใช้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นฐาน” ว่า กิจกรรมในครั้งนี้เป็น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานโครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบความปลอดภัยทางถนน ระยะที่ 4 และโครงการยกระดับและขยายผลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบความปลอดภัยทางถนนและการดูแลสุขภาวะ ที่สสส.ได้ขับเคลื่อนงานความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 โดยใช้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) เป็นฐานในการปลูกฝังวินัยจราจรตั้งแต่วัยปฐมวัย ก่อนขยายผลสู่โรงเรียน ครอบครัว ชุมชน และนโยบายท้องถิ่น เพื่อให้ความปลอดภัยทางถนนเกิดขึ้นจริงอย่างยั่งยืน ไม่เพียงขับเคลื่อนเรื่องถนนปลอดภัย แต่ยังบูรณาการกับการดูแลสุขภาวะของเด็ก ครอบครัว และชุมชน เช่น การลดปัจจัยเสี่ยงจากบุหรี่และสุรา สร้างความปลอดภัยบนถนนและสุขภาวะที่ดีควบคู่กันไป

                    “การปลูกฝังวินัยจราจรต้องเริ่มตั้งแต่วัยเด็กเป็นฐานราก ซึ่ง ศพด. ที่เข้าร่วมโครงการในพื้นที่ต่าง ๆ มีความสำเร็จที่เป็นนรูปธรรม เช่น มีการปรับถนน ติดตั้งไฟส่องสว่างและสัญญาณไฟกระพริบ รณรงค์หมวกนิรภัยครบ 100%  ผ้าป่าหมวกนิรภัย รวมถึงสร้าง ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community – PLC) ของครูที่เข้มแข็ง พร้อมใช้สื่อพื้นบ้าน เช่น หนังตะลุง–มโนราห์ และถนนจำลองให้เด็กฝึกปฏิบัติจริง” นพ.พงศ์เทพ กล่าว

                    นางกชกร ชิณะวงศ์ ผู้รับผิดชอบ โครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบความปลอดภัยทางถนน ระยะที่ 4 กล่าวว่า โครงการฯ ได้คัดเลือกพื้นที่เป้าหมายครอบคลุม 3 ภูมิภาค 6 อำเภอ 18 ตำบล โดย ได้แก่ ภาคเหนือ  อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ และ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ภาคใต้  อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช พิจารณาจากทั้งระดับความเสี่ยงและความพร้อมของบุคลากร ฐานงาน และฐานใจ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ทั้งการจัดการจุดเสี่ยงในชุมชน การพัฒนาครูแม่ข่าย 41 คน ขยายศูนย์ต้นแบบ 16 แห่ง และจัดการจุดเสี่ยงกว่า 120 จุด ตลอดจนการสร้างถนนจำลองเพื่อการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย” ถือเป็นการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความปลอดภัยให้หยั่งรากในครอบครัวและชุมชน ก่อนจะขยายผลอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นวัฒนธรรมถนนปลอดภัยของอำเภอและจังหวัด

                    นายชิษนุวัฒน์ มณีศรีขำ ผู้รับผิดชอบโครงการยกระดับและขยายผลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบความปลอดภัยทางถนนและการดูแลสุขภาวะ กล่าวว่า โครงการฯ ครอบคลุมพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก รวม 7 จังหวัด 20 อำเภอ ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.สมุทรสาคร จ.อ่างทอง จ.นครปฐม จ.กาญจนบุรี และ จ.ราชบุรี ทำให้เกิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบ 38 แห่ง โรงเรียน 5 แห่ง ครูและบุคลากร 137 คน ผู้ปกครอง 960 ได้รับการพัฒนาทักษะความปลอดภัยทางถนน เกิดเครือข่ายอาสาจราจร 143 คน เด็กปฐมวัยและประถมกว่า 1,500 คนมีพัฒนาการเหมาะสม ผ่านการเรียนรู้โดยใช้ หลักการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และ หลักสูตรไฮสโคป (High Scope) ช่วยกระตุ้นให้เด็กเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง จากการทำงานของทุกส่วนทำให้การสวมหมวกนิรภัยและคาดเข็มขัดนิรภัยเพิ่มขึ้น โดยผู้ปกครองใน พื้นที่เดิม 3 จังหวัด เพิ่มขึ้น 97% ส่วนใน พื้นที่ใหม่ 11 จังหวัดขยายผล เพิ่มขึ้น 65% ขณะที่ครูและเด็กใน ศพด. ทุกพื้นที่สวมหมวกนิรภัย 100%

                    นายเพิ่มศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ นายอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า อำเภอดอยเต่าเป็น 1 ใน 6 อำเภอที่เข้าร่วมโครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบความปลอดภัยทางถนน โดยได้จัดการจุดเสี่ยงกว่า 20 จุด ปรับปรุงถนน ติดตั้งไฟส่องสว่างและสัญญาณไฟกระพริบ พร้อมรณรงค์สวมหมวกนิรภัยให้ครูและเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจนมีการสวมหมวกนิรภัยครบ 100% และในกลุ่มผู้ปกครองมีอัตราการสวมหมวกเพิ่มขึ้นกว่า 97% ถือเป็นความสำเร็จที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างต้นแบบถนนปลอดภัยในพื้นที่ ทั้งนี้ อำเภอดอยเต่ายังขยายผลไปยังโรงเรียนและครอบครัว ทำให้เกิดศูนย์ต้นแบบความปลอดภัย เพิ่ม 16 แห่ง และพัฒนาครูแม่ข่าย 20 คน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการปลูกฝังวินัยจราจรตั้งแต่วัยเด็ก

                    นายวรเทพ วารินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผักแพว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า อบต.ผักแพวได้ดำเนินการสร้างถนนจำลองให้เด็กกว่า 200 คน ได้เรียนรู้การข้ามถนนและใช้สัญญาณไฟจราจรจริง พร้อมอบรมอาสาจราจรกว่า 30 คน และรณรงค์สวมหมวกนิรภัยในครอบครัวจนมีการปฏิบัติเพิ่มขึ้นกว่า 65% ส่งผลให้จำนวนจุดเสี่ยงอันตรายในชุมชนลดลงอย่างเป็นรูปธรรมนอกจากนี้ ยังได้พัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่เป็นศูนย์ต้นแบบความปลอดภัยทางถนน รวมทั้งสร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ครอบครัว และชุมชน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นวัฒนธรรมถนนปลอดภัยของอำเภอกันทรารมย์

 

Shares:
QR Code :
QR Code