สสส. ผนึกกำลังภาคี รณรงค์…ร้านอินเตอร์เน็ตปลอดภัยและสร้างสรรค์
ระวังเด็ก “เหยื่อ” ออนไลน์ภัยร้ายสังคม
อินเตอร์เน็ตโลก “ออนไลน์” ที่มีทั้งสาระความรู้ สามารถย่อโลกทั้งโลกมาอยู่ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ แต่ในทางกลับกันเครือข่ายออนไลน์ช่องทางนี้ หากนำไปใช้ในทางที่ผิดก็ทำให้เกิดโทษตามมาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ โดยเฉพาะเยาวชน หากไม่ได้รับการแนะนำที่ถูกต้องอาจตกเป็น “เหยื่อ” ได้…..
จากข่าวที่ถูกนำเสนอตามหน้าหนังสือพิมพ์ กรณีเด็กชายถูกละเมิดทางเพศภายในร้านอินเตอร์เน็ตที่ติดฟิล์มกรองแสงทึบ ไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ เป็นประเด็นที่สังคม ต้องเข้ามาแก้ไขและดูแลอย่างเร่งด่วน ร้อนหูมาถึงสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่นิ่งนอนใจเรื่องนี้ไม่ได้ จึงได้จับมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล และกลุ่มผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ต หารือร่วมกันเพื่อส่งเสริมให้ร้านอินเตอร์เน็ตเป็นร้านปลอดภัยและสร้างสรรค์
นายพงศ์ธร ชนะจิต เลขาธิการกลุ่มเครือข่ายร้านอินเตอร์เน็ตไทย เล่าว่า ในขณะนี้มีร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เข้าจดทะเบียนกับกระทรวงวัฒนธรรมแล้ว 24,000 ร้าน มีจำนวนคอมพิวเตอร์ 3 แสนกว่าเครื่อง โดยทุกหนึ่งอาทิตย์ มีเด็กเข้าใช้บริการร้านอินเตอร์เน็ตกว่า 3 แสนคนต่อชั่วโมง ดังนั้น หากเด็กใช้สื่อในทางสร้างสรรค์จะเกิดเป็นพลังมหาศาลในการพัฒนาประเทศ แต่โอกาสเสี่ยงย่อมมีมากเช่นกัน
“ในการพัฒนาให้เกิดร้านเกมคาเฟ่ที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีหลักเกณฑ์ที่สำคัญ 4 ประการ คือ มุ่งเน้นการคุ้มครองเด็ก เยาวชน เป็นสำคัญ, การพัฒนาเกณฑ์มาตรฐานของร้านเกมที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์บนพื้นฐานของกฎหมายและการประกอบการเพื่อสังคม, เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาร้านเกม และเน้นการส่งเสริมบรรยากาศของการลงทุนให้กับร้านเกม”นายพงศ์ธร กล่าว
ดังนั้น ร้านอินเตอร์เน็ตที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็นมิตรกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ย่อมได้รับความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการและผู้ปกครอง พัฒนาให้ร้านอินเตอร์เน็ตเป็นร้านที่ดี ถูกกฎหมาย สามารถอยู่กับสังคมโดยเป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าระวังความปลอดภัยความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน
ผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ จึงหารือกับ สสส. และภาคี เพื่อกำหนดเกณฑ์ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ปลอดภัย เป็น 2 แนวทาง คือ แนวทางการอนุญาตประกอบการแบ่งเป็นความปลอดภัยทางด้านกายภาพของร้าน เช่น ทำเลที่ตั้งต้องปลอดภัยและสามารถมองเห็นจากด้านนอกอย่างชัดเจน ตั้งเงื่อนไขบริการ ห้ามสูบบุหรี่ สารเสพติด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมเลียนแบบ ทั้งผู้ประกอบการต้องดูแลความสงบเรียบร้อย ป้องกันการเล่นพนัน การเข้าเว็บไม่เหมาะสม
และการกำหนดเวลาเพื่อคุ้มครองเด็กและเยาวชน คือ ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าใช้บริการหลังเวลา 14.00 น. ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ในกรณีวันหยุดราชการและวันหยุดปิดภาคเรียนให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าใช้บริการในช่วงเวลาหลัง 10.00 น. นอกจากนี้ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้บริการหลังเวลา 20.00 น. ของทุกวัน ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้ใช้บริการหลังเวลา 22.00 น. ของทุกวัน และไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมคอมพิวเตอร์เกินกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน
ด้าน นายอิทธิพล ปรีติประสงค์ อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงนิยามของอินเตอร์เน็ตสร้างสรรค์และปลอดภัยว่า ร้านอินเตอร์เน็ตปลอดภัย หมายถึง ร้านอินเตอร์เน็ตที่ปฏิบัติตามกฎที่ พ.ร.บ.กำหนด แต่สิ่งที่เป็นมากกว่าความปลอดภัยก็คือ ความสร้างสรรค์ สร้างสรรค์โดยการคืนกำไรสู่สังคม เช่น การส่งเสริมวันครอบครัว โดยครอบครัวใดมาใช้บริการจะได้ลดราคาพิเศษ หรือส่งเสริมซอฟท์แวร์เพื่อการศึกษาในร้าน เชื่อมต่อการศึกษาระหว่างร้านอินเตอร์เน็ต โรงเรียน และสถาบันครอบครัว
หากสามารถพัฒนาร้านอินเตอร์เน็ตปลอดภัยและสร้างสรรค์สู่ชนบทและแบ่งปันความสร้างสรรค์แก่เยาวชนในชนบท เพื่อเปิดโอกาสและความเท่าเทียมในการเรียนรู้การศึกษาผ่านอินเตอร์เน็ต ให้เด็กได้ใช้บริการเพื่อพัฒนาศักยภาพทางการศึกษา หากทำให้เด็กชนบทรู้จักวัฒนธรรมการใช้ไอซีทีอย่างสร้างสรรค์ จะสามารถช่วยยกระดับการแข่งขันระดับประเทศได้อย่างแน่นอน
ตัวแทนเยาวชนในเครือข่ายครอบครัวร่มเกล้า เด็กหญิงนฤพรรณ ทัตราคม หรือ น้องมด นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชลาดกระบัง กล่าวว่า ตนมีความจำเป็นต้องใช้บริการร้านอินเตอร์เน็ตบ่อยครั้ง เพื่อพิมพ์รายงาน ซึ่งก็เลือกใช้บริการเฉพาะร้านที่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก แต่ร้านเหล่านี้มีจำนวนน้อย หากเจอร้านที่มืด เปิดไฟสลัว วัยรุ่นมั่วสุมเยอะ ก็จะหลีกเหลี่ยง เนื่องจากกลัวที่จะเข้าร้านอินเตอร์เน็ตเพียงลำพัง หากโครงการร้านอินเตอร์เน็ตปลอดภัยและสร้างสรรค์ทำได้อย่างทั่วถึง จะก่อประโยชน์ต่อความปลอดภัยและความสร้างสรรค์ ของเด็กและเยาวชน
แหล่งเรียนรู้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มีบทบาทต่อการพัฒนาและผลิตคน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคนไทยให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม…..
เรื่องโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์ Team Content www.thaihealth.or.th
Update 12-05-51