สสส.ดันสอนว่ายน้ำเป็น นำร่อง 10 จ. ฝึกว่ายน้ำ-ช่วยชีวิต
ชี้ลดการจมน้ำตาย เหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็ก
สสส.จับมือสถาบันการพลศึกษา เปิดหลักสูตรว่ายน้ำเป็น 10 จังหวัดนำร่อง ฝึกว่ายน้ำ-ช่วยชีวิต ภายใน 12 ชั่วโมง ลดการจมน้ำตาย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทย
นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ กล่าวว่า การจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยแต่ละปีจะมีเด็กไทยเสียชีวิตจากการจมน้ำกว่า 1,500 คน หรือ เฉลี่ยวันละ 4 คน ในจำนวนเด็กที่เสียชีวิตพบว่าว่ายน้ำไม่เป็นถึงร้อยละ 50-80 ซึ่งแหล่งที่พบว่าเกิดการจมน้ำและเสียชีวิตบ่อยที่สุดมักเกิดขึ้นห่างจากบ้านเด็ก เพียง 100 เมตรเท่านั้น และส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับเด็กในพื้นที่นอกเขตเมือง
นพ.อดิศักดิ์ กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลระดับชุมชน พบว่า มีเด็กอายุ 5-15 ปี ไม่ถึง 1 ใน 4 ที่ว่ายน้ำเป็น สอดคล้องกับผลสำรวจของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ที่สำรวจพฤติกรรมและทัศนคติต่อการว่ายน้ำของเด็กและผู้ปกครอง ในกลุ่มตัวอย่าง 4,776 คน จาก 13 จังหวัดพบว่า ในจำนวนเด็กและผู้ใหญ่อย่างละ 100 คน ว่ายน้ำไม่เป็นถึง 44 คนเท่ากัน โดยกว่าร้อยละ 55 ต้องการพาบุตรหลานที่ว่ายน้ำไม่เป็นไปหัดว่ายน้ำ และอีกร้อยละ 45 ที่ไม่ได้พาไปเนื่องจากไม่มีเวลา ไม่มีใครสอน และละแวกบ้านไม่มีสถานที่ว่ายน้ำ ดังนั้นการว่ายน้ำเป็น จึงเป็นทักษะสำคัญขั้นพื้นฐานของเด็กที่จำเป็นต้องเรียนรู้อย่างยิ่งเพื่อเอาชีวิตรอด และยังถือเป็นการลดค่าใช้จ่ายของรัฐจากความสูญเสียจากการลงทุนทางการศึกษาและสุขภาพสำหรับเด็ก
นายสมพงษ์ ชาตะวิถี อธิการบดีสถาบันการพลศึกษา กล่าวว่า โครงการเด็กไทยว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้ ร่างกายแข็งแรง ภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และสถาบันการพลศึกษา ได้มีการจัดทำหลักสูตรเด็กไทยว่ายน้ำเป็นได้เร็วขึ้น โดยปกติหลักสูตรที่สอนจะใช้เวลาประมาณ 15-18 ชม. จึงจะว่ายเป็นได้ในขั้นต้น แต่หลักสูตรนี้สามารถย่นระยะเวลาการฝึกเหลือ 12 ชม. พร้อมกับฝึกทักษะการช่วยชีวิต ซึ่งได้มีการฝึกอบรมครูผู้สอนว่ายน้ำจากวิทยาเขตทั้ง 10 แห่ง ใน10 จังหวัดนำร่องที่เกิดอุบัติเหตุการจมน้ำสูงที่สุด ประกอบด้วย วิทยาเขตเชียงใหม่ พิษณุโลก อุดรธานี ชัยภูมิ กระบี่ ชุมพร นครปฐม สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา และกทม. พร้อมกับเปิดสอนว่ายน้ำสำหรับเด็กโดยสอบถามการสมัครเรียนได้ที่สถาบันการพลศึกษา ซึ่งในช่วงปิดภาคเรียนนี้ได้มีเด็กผ่านหลักสูตรแล้วไม่ต่ำกว่า 6,000 คน
นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส คณะกรรมการกองทุนสสส. กล่าวว่า อุปสรรคสำคัญที่ทำให้เด็กไทยว่ายน้ำไม่เป็นเพราะไม่มีโอกาสเข้าถึงสระว่ายน้ำ โครงการ“ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้ ร่างกายแข็งแรง” จึงต้องการส่งเสริมให้เด็กได้ออกกำลังกายและลดอุบัติเหตุการเสียชีวิต โดยใช้สระว่ายน้ำฝึกสอนจากสระว่ายน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่ของหน่วยงานรัฐรวมถึงแหล่งน้ำธรรมชาติดัดแปลงให้เป็นสระว่ายน้ำเคลื่อนที่ทั้งบนบกและในน้ำ เช่น การจัดทำสระว่ายน้ำเคลื่อนที่ การสร้างกระชังเพื่อเป็นสระว่ายน้ำเทียมสำหรับการฝึกสอนตามแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยตั้งเป้าหมายให้เด็กในพื้นที่กว่า 50,000 คน สามารถว่ายน้ำช่วยเหลือตัวเองได้ และพัฒนาผู้สอนว่ายน้ำ กว่า 1,000 คน เพื่อเป็นพี่เลี้ยงพัฒนาผู้สอนอื่นๆให้เพิ่มขึ้น พร้อมกับส่งเสริมให้ชุมชนในพื้นที่เป้าหมายมีศักยภาพในการจัดระบบส่งเสริมการว่ายน้ำสำหรับเด็ก
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
Update 06-05-52