สธ.สกัดยุงลายตะเข็บกทม.-เหนือ-พื้นที่ท่องเที่ยว
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
สธ.ห่วงปลายฝน ต้นหนาว ทำยุงลายชุม จัดทัพจิตอาสากำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำ สกัดไข้เลือดออก เน้นพิเศษ พื้นที่ตะเข็บกทม.-เหนือตอนบน-กลางตอนล่าง พื้นที่ท่องเที่ยว เผยทั้งปีป่วย6หมื่นคน ดับ80ราย ครึ่งหนึ่งเป็นผู้ใหญ่
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนส์ กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องการทำโครงการจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ “พัฒนาสิ่งแวดล้อมและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ว่า เรื่องนี้กระทรวงจะเข้าไปร่วมดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน2กิจกรรมคือ1.จิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม โดยให้สสจ.สั่งการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) อาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต่าง ในการสำรวจและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายวันละ1หมู่บ้าน ดำเนินการระหว่าง วันที่12-23ต.ค. และ2.ให้การสนับสนุนรถพยาบาลและจิตอาสาสาธารณสุข ไปดูแลการปรับปรุงคลองเปรมประชากร และคลองรังสิตประยูรสาน ระหว่างวันที่14-22ต.ค.นี้
ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสมในประเทศไทยประมาณ6หมื่นคน น้อยกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเทียบเท่าการระบาดใหญ่เมื่อปี2558ส่วนผู้เสียชีวิตประมาณ80ราย กว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้ใหญ่ นอกจากนี้สถานการณ์การป่วยในช่วงที่ผ่านๆ ถือว่าลดลงเรื่อยๆ คาดว่าเป็นผลมาจากการทำจิตอาสาปราบยุงลาย หมู่บ้านที่มีการระบาดลดลงจาก400กว่าแห่ง เหลือประมาณ200กว่าแห่ง แต่ช่วงนี้เป็นปลายฝน ต้นหนาว ทำให้หลายพื้นที่มีน้ำขังและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ทำให้มียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ เช่นอำเภอที่มีการระบาดอยู่ที่349แห่ง ที่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษคือกรุงเทพมหานคร บริเวณพื้นที่รอยต่อกับจังหวัดปริมณฑล พื้นที่ภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง เป็นต้น ก็หวังว่าโครงการจิตอาสาครั้งนี้จะช่วยควบคุมสถานการณ์ได้ดี
“จำนวนผู้ป่วยถ้าดูกันเป็นรายสัปดาห์จะพบว่าสถานการณ์ดีขึ้น เดิมเคยมีผู้ป่วย5-8พันคน ก็ลดเหลือ2-3พันคน แต่ในส่วนของพื้นที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะภาคตะวันออกนั้นตอนนี้ก็ได้กำชับให้โรงแรม และหน่วยบริการสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลเรื่องของการกำจัดขยะ ทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เพราะฉะนั้นขอให้มั่นใจ เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ตามสะดวก แต่ก็ขอให้ดูแลตัวเองด้วยระวังอย่าให้ยุงกัด ทายากันยุง” นพ.สุวรรณชัย กล่าว