“มุมงาม น้ำท่วม” งานศิลป์สะท้อนน้ำใจไทย
คงไม่ใช่เรื่องผิดเพี้ยนนักจากผลการจัดอันดับของมูลนิธิการกุศลของสหรัฐอเมริกา หรือซีเอเอฟ (caf) ที่ได้ยกให้ประเทศไทยติดเป็นอันดับที่ 9 ของประเทศที่ใจบุญที่สุดในโลก สิ่งต่างๆ จากวิกฤติอุทกภัยที่ผ่านมาต่างเป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีของมวลน้ำใจไทยที่ช่วยเหลือกันยามตกทุกข์ได้ยาก
ดั่งภาพตัวอย่างที่เห็นภายในงาน “มุมงาม น้ำท่วม” ของทางสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิเยาวชนเพื่อการพัฒนา มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว และเครือข่ายละครดีดี๊ดี ที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมสะท้อนความสวยงามของน้ำใจคนไทยที่เกิดขึ้นยามเผชิญวิกฤติอุทกภัย ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 16-18 ธ.ค. ที่ผ่านมา
โดยภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมการจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย ภาพวาด รวมถึงการแสดงละคร “น้ำใจสายน้ำ” จากกลุ่มของเหล่าจิตอาสาและเยาวชนผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมรับบริจาคเงินช่วยเหลือยอดบุคคลใจบุญที่ต่อสู้ช่วยเหลือผู้อื่นในเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา อย่างอาจารย์สารี สุพรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยา ที่แปรสภาพโรงเรียนเอกชนของตัวเองให้กลายเป็นศูนย์พักพิง รับดูแลชาวบ้านมากกว่า 300 ชีวิต
ภก. สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) หนึ่งในพ่องาน ผู้เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการจัดงานครั้งนี้จนประสบผลสำเร็จ เผยว่า การจัดงานนิทรรศการภาพวาดและภาพถ่าย รวมถึงการแสดงละครภายในงานนี้ เป็นเหมือนการถ่ายทอดเรื่องราวของฟ้าหลังฝนในเชิงของการให้กำลังใจ ผ่านมุมมองของเด็กและจิตอาสาที่มีประสบการณ์ตรงจากการเกิดเหตุอุทกภัย
“ผู้ที่มาชมจะเห็นและสัมผัสได้จากภาพถ่าย และโดยเฉพาะภาพวาดที่สื่อถึงความมีน้ำใจจนเกิดเป็นแรงบันดาลใจ สอดคล้องกับความต้องการของเราที่อยากทำให้คนเป็นคนดีมีน้ำใจ นำไปสู่การสร้างจุดแข็งของสังคมไทย”
ภก.สงกรานต์ยังบอกด้วยว่า การจัดงานในครั้งส่วนหนึ่งยังเป็นการเชิดชูน้ำใจความดีของ อ.สารี สุพรรณ ผู้เป็นอีกหนึ่งบุคคลตัวอย่างของคนดีในสังคมไทย ที่ต้องแบกภาระความเดือดร้อนของผู้อื่นในการดูแลให้ที่อยู่ที่กิน สู้ด้วยทุนทรัพย์ของตนเองเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน ทั้งที่ตัวเองก็ประสบปัญหาจากเหตุอุทกภัยเช่นเดียวกัน
ด้าน ถิระวัฒน์ พันธุ์ม่วง หรือต่อ นักศึกษาคณะศิลปกรรมชั้นปีสุดท้าย จาก ม.ราชภัฏสวนสุนันทา เล่าว่า ผลงานของตัวเขาที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้มีมากถึง 40 ภาพด้วยกัน โดยล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่เกิดจากแรงบันดาลใจที่หลากหลายแง่มุมที่มีต่อปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่มุมที่แสดงถึงความมีน้ำใจของคนไทย จึงอยากให้คนทั่วไปที่มาชมภาพของตนได้เกิดความรู้สึกประทับใจที่มีต่อประเทศไทย ที่สามารถรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจนเป็นประเทศที่น่าอิจฉาที่สุดได้
“ถ้าให้เลือกภาพที่ผมชอบที่สุดที่นำมาจัดแสดงในงานนิทรรศการนี้ ผมขอเลือกภาพของตลาดถนนคนเดินที่โคราช ที่มีนักศึกษาแสดงดนตรีเปิดหมวกและเดินเรี่ยไรเงินบริจาคช่วยน้ำท่วม ซึ่งแม้ตัวพื้นที่จะไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม แต่บรรยากาศในเวลานั้นก็สื่อได้เป็นอยากดีของการแสดงน้ำใจ ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนกว่า ผมจึงเลือกที่จะวาดภาพนี้และนำมาจัดแสดง”
น้องต่อยังบอกด้วยว่า จากความคิดที่อยากทำอะไรสักอย่างที่เป็นประโยชน์ จึงได้นำเอาเทคนิคการวาดรูปของตัวเองที่ได้ร่ำเรียนมาไปสอนให้เด็กๆ วาดรูป สะท้อนมุมมองความคิดของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นที่ รร.ประเทืองทิพย์ฯ และชุมชนตำบลขุนศรี ซึ่งการไปช่วยเหลือคนอื่นเองนั้นยังทำให้จิตใจตัวเราเองดีขึ้นด้วย จากเมื่อก่อนเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ดื่มเหล้า ดูดบุหรี่ ใช้ชีวิตไปวันๆ แต่เมื่อเกิดวิกฤติน้ำท่วม และได้ทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม ก็ได้ทำให้หันมาสนใจเรื่องจิตอาสามากขึ้น จนตอนนี้ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเหล้าอีกเลย
ส่วน อรษา พัฒนจกิจพูนผล หรือออย หนูน้อยจาก รร.ประเทืองทิพย์วิทยา ที่ได้นำผลงานภาพวาดซึ่งได้วาดในช่วงที่ต้องเป็นผู้ประสบภัยกับเพื่อนๆ อยู่ที่ศูนย์อพยพ รร.ประเทืองทิพย์วิทยา บอกว่า ผลงานของตัวเขาเองที่ชื่อว่า “tequila” มาจากคำในภาษาสแปนิช ที่แปลว่าฉันรักเธอ จึงได้นำเอาชื่อนี้มาเปรียบเปรยกับมุมน้ำใจของคนไทยที่รักใคร่สามัคคีกันยามที่ลำบาก แม้ต้องเศร้าโศกแค่ไหน ฉันก็ยังช่วยเหลือเธอ ฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน ดั่งเหตุการณ์ที่นำมาบันทึกไว้ในภาพเขียนของตัวเขาเอง ที่ในขณะนั้นแม้โรงเรียนที่เป็นศูนย์อพยพจะมีน้ำท่วมสูงเพียงใด แต่ก็ได้มีพี่ๆ กลุ่มจิตอาสาขับรถกระบะมาเปิดเวทีแสดงละครหุ่นมือให้เด็กๆ ในศูนย์อพยพได้ดูกันกลางน้ำเลย ทำให้เกิดเป็นความประทับใจจนต้องบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น
ปิดท้ายด้วยผลงานของ ชนินทร์ จันทรดี จิตอาสาที่ได้เก็บบันทึกภาพถ่ายในมุมต่างๆ ช่วงที่เกิดวิกฤติอุทกภัย เล่าว่า ภาพที่นำมาจัดแสดงภายในงานนี้ของตัวเขาเป็นภาพที่ถ่ายขึ้นระหว่างที่ลงพื้นที่ไปทำงานเป็นจิตอาสา จากการที่ได้ลงไปในพื้นที่ประสบภัยต่างๆ และได้เห็นภาพของการแสดงออกทางอารมณ์ที่ต่างกันไปของผู้ประสบภัยที่ต้องใช้ชีวิตอยู่คู่กับน้ำ ประกอบกับนิสัยรักการถ่ายภาพอยู่แล้ว จึงได้ถ่ายเก็บไว้มากมาย อย่างภาพของคนที่ต้องย้ายขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน ในแต่วันเขาคนนั้นก็จะออกมานั่งชะเง้อรอคอยถุงยังชีพอยู่ที่ริมระเบียง หรือภาพของน้ำเมา ทั้งขวดเหล้า ขวดเบียร์ ที่ในยามปกติของเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความสุข ที่เมื่อน้ำท่วมสิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่ต้องการเลย
“ภาพถ่ายของผมจึงเป็นการแสดงถึงชีวิตของคนในอารมณ์ต่างๆ ทั้งสุขและเศร้า คละเคล้ากันไป จากการที่น้ำเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต โดยภาพเหล่านี้ยังเป็นเหมือนสิ่งเตือนใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้เป็นอย่างดี”
ทั้งนี้ แม้งานนิทรรศการและกิจกรรม “มุมงานน้ำท่วม” จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่เราก็อยากเก็บภาพมุมงานเหล่านี้มาให้ได้ชมกัน เพื่อแสดงออกถึงมุมของน้ำใจอันดีงามที่แปรเปลี่ยนมาเป็นงานศิลป์ที่ลงตัว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพส