ประมวลภาพ สสส. ลงพื้นที่ดูงานการจัดการสุขภาวะชุมชน อบต.ปากพูน
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ยกย่อง อบต.ปากพูน เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เป็นตัวอย่างขับเคลื่อนสุขภาวะท้องถิ่นให้เกิดความยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าขยายให้ครอบคลุมองค์กรปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศ
คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายสมพร ใช้บางยาง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 3 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ศึกษาดูงานด้านชุมชน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ “ตำบลสุขภาวะ” ขององค์การบริหารส่วนตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เยี่ยมชมการให้บริการของสถานีอนามัยปากพูน ยกระดับสู่ตำบลสุขภาวะ เป็นการบริการสาธารณสุขพื้นฐาน และ one stop service รูปธรรมความสำเร็จของระบบอาสาสมัคร เยี่ยมชมการจัดการสุขภาวะคนบนหลังวัวในฟาร์มสาธิตการเลี้ยงวัว โดยมีนายธนาวุฒิ ถาวรพราหมณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปากพูน รายงานถึงการดำเนินงานการจัดการสุขภาวะแบบครบวงจร โดย อบต. ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่เลี้ยงวัว เช่าที่ว่างของชาวบ้านปลูกหญ้าเอง นำหญ้ามาอบแห้งเป็นก้อน เพื่อเตรียมไว้ใช้ในช่วงน้ำท่วม มีศูนย์ผสมเทียม มีการขยายพันธุ์ต่างๆ ด้วยตนเองมาเป็นพันธุ์พื้นเมือง ทำให้สมาชิกภายในกลุ่มมีอาชีพ สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้
ด้าน น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการสร้างสุขภาวะในพื้นที่และชุมชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สาเหตุที่สสส.เลือกพื้นที่อบต.ปากพูนเพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมการจัดการสุขภาวะโดยชุมชน เนื่องจากตำบลปากพูนเป็นชุมชนที่มีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับองค์กรปกครองท้องถิ่นอื่นๆ โดยศูนย์ฝีกอบรมการจัดการสุขภาวะโดยชุมชน จะมีการพัฒนาหลักสูตร เพื่ออบรมเพื่อนอบต.ในเบื้องต้นจำนวน 20 แห่ง เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์ฝึกเช่นเดียวกับอบต.ปากพูน แต่ใช้ชุดความรู้ตามบริบทของแต่ละภูมิภาค โดยเป้าหมายการทำงานของสสส.ที่ไปสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาการจัดการสุขภาวะโดยชุมชน มีอยู่ 3 ด้าน คือ 1. เพื่อให้ชุมชนสามารถจัดการกับปัญหาง่ายๆด้วยตัวของชุมชนเอง เช่น ระบบการดูแลผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุในชุมชน 2. เพื่อให้เกิดการวางระบบการมีชีวิตที่มีสุขภาพดี อาหารปลอดภัย เกษตรที่รักสิ่งแวดล้อม และ 3. การสนับสนุนให้เกิดผู้นำใหม่ๆ ซึ่งคาดหวังให้เกิดผู้นำในทุกกลุ่มเช่นเดียวกับที่ปากพูน ที่มีผู้นำในกลุ่มคนพิการ การจัดสวัสดิการชุมชน เพื่อให้การทำงานในแต่ละด้านเกิดความยั่นยืน ทั้งนี้ในปี 2552 ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนาแหล่งฝึกอบรมไม่ต่ำกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ
จากนั้นคณะฯ เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้การจัดการศึกษาเพื่อชีวิตและสังคม ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในโครงการวัยใส หัวใจชุมชน จะมีเด็กนักเรียนในพื้นที่ใช้เวลาว่างในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์มาทำกิจกรรมร่วมกัน โดยให้เด็กเขียนโครงการที่จะศึกษาเรียนรู้เอง เช่น เด็กอยากเรียนรู้เรื่องเครื่องบิน ทางศูนย์ฯ จะเชิญวิทยากรจากชมรมเครื่องบินเล็กนครศรีธรรมราช มาฝึกสอนให้ มีการสอนให้เด็กเรียนรู้การปลูกผัก ทำปุ๋ยด้วยตนเอง และสาธิตการปลูกข้าวในแปลงสาธิตนาความมั่นคงของชาติ ข้าวความมั่นคงแห่งชาติ จากนั้นเยี่ยมชมการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลพลังงานทดแทน ฟังบรรยายสรุปการขับเคลื่อนงานตำบลสุขภาวะ ภายใต้โครงการพัฒนาเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อการจัดการสุขภาวะ
นายสมพร ใช้บางยาง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความมุ่งมั่นร่วมกันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.ในการขับเคลื่อนสุขภาวะของชุมชนท้องถิ่นว่า จะต้องประกอบด้วย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง อบต. และเทศบาล ซึ่งมีหน้าที่หลักดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต โดยมีส่วนราชการคอยให้คำแนะนำสนับสนุนและกำกับดูแล ในส่วนของกำนันผู้ใหญ่บ้าน ยังคงมีบทบาทภารกิจตามกฎหมายปกครองท้องที่ และที่สำคัญคือ ภาคประชาชน ทั้ง 4 ส่วนที่กล่าวมานี้ จะต้องร่วมขับเคลื่อนสุขภาวะของชุมชนให้เกิดความยั่งยืน โดย อบต.ปากพูน มีพัฒนาการการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเป็นอย่างมาก สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ตัวอย่างแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีก 19 แห่งจากทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมเป็นเครือข่ายการเรียนรู้นำร่อง นำแนวคิดการมีส่วนร่วมของ อบต.ปากพูน เป็นตัวอย่างปรับใช้ให้เข้ากับสภาพพื้นที่ โครงการนี้เริ่มจัดทำตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา มีเป้าหมายขยายเครือข่ายเรียนรู้ฯ ให้ครอบคลุมองค์ปกครองท้องถิ่นทั้งหมดกว่า 7,000 แห่งต่อไป
นายธนาวุฒิ ถาวรพราหมณ์ นายก อบต.ปากพูน กล่าวว่า การขับเคลื่อนสุขภาวะตำบลของ อบต.ปากพูน เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาชน ส่วนราชการ และนักวิชาการในพื้นที่ ร่วมกันหาวิธีการดูแลประชาชนตั้งแต่แรกเกิด ให้มีสุขภาพร่างกาย สติปัญญาที่สมบูรณ์ ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาช่วยในการเรียนรู้ มีการจัดการที่ดี มีฐานข้อมูล ที่เป็นระบบ
ซึ่งอาจารย์อุไร จเรประพาฬ อาจารย์ประจำสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมทีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของชุมชนปากพูน เพื่อประมวลผลและวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาสุขภาพของชุมชน ยังไม่เป็นระบบมากนักและยังไม่สามารถนำมาใช้เพื่อการออกแบบวิธีการทำงานและออกแบบกิจกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพของชุมชนได้อย่างครอบคลุม เมื่อสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ได้เข้ามาเป็นภาคี ร่วมดูแลสุขภาพประชาชนจึงได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพครอบครัวและชุมชน (fap) มาใช้ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนในตำบลได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดเก็บข้อมูล และนำข้อมูลบันทึกลงในโปรแกรม fap เพื่อประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล หลังจากนั้นนำข้อมูลคืนสู่ชุมชนโดยใช้เวทีประชาคมให้ประชาชนได้รับรู้ และเลือกปัญหาที่ได้จากฐานข้อมูล ซึ่งอาจจะมีการเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพื่อที่จะร่วมกันกำหนดเป็นโครงการและเป็นแผนพัฒนาสุขภาพในระดับตำบล นำไปสู่การพัฒนาสุขภาวะของตำบลที่เป็นรูปธรรม
จากกระบวนการทำงานดังกล่าวเป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการบันทึก ช่วยให้การจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลของแต่ละครอบครัว/ชุมชนทำได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบมากขึ้น ทำให้เห็นข้อมูลพื้นที่ในเชิงกายภาพ ประชากร ความเป็นอยู่ และสามารถสะท้อนสภาพปัญหาของพื้นที่ออกมา เช่น การเจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้พิการ รายได้น้อย ว่างงาน คุณภาพการศึกษา เป็นต้น ข้อมูลนี้จะนำไปสู่การแยกกลุ่มประชากรเป้าหมาย เพื่อการกำหนดปัจจัยในการกำหนดสุขภาพของชุมชน ทำให้เกิดการออกแบบกิจกรรมและโครงการต่างๆ ตามมา เช่น การส่งเสริมกิจกรรมการออกกำลังกาย โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ป่วยเรื้อรัง การพัฒนาศูนย์สุขภาพชุมชน การบูรณาการความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถนำเสนอผลการดำเนินงานโดยได้จัดทำเป็นชุดความรู้ที่เรียกว่า “การจัดการสุขภาวะโดยชุมชนตำบลปากพูน” เพื่อให้ตำบลเครือข่ายได้ร่วมเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง เช่น “ระบบฐานข้อมูลเพื่อการจัดการสุขภาวะโดยชุมชน” ซึ่งเป็นชุดความรู้ที่กล่าวถึงวิธีการใช้ฐานข้อมูลในการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อกำหนดโครงการแผนพัฒนาสุขภาพของตำบล และนำแผนลงสู่การปฏิบัติจริงโดยประชาชนเป็นผู้ดำเนินการ หรือ “อาสาพัฒนาสุขภาพตำบลปากพูน” ซึ่งเป็นชุดความรู้ที่กล่าวถึงระบบการทำงานของอาสาสมัครในตำบลที่ได้ทำงานเพื่อจัดการสุขภาวะโดยชุมชน ฯลฯ ซึ่งชุดความรู้ต่างๆ เหล่านี้สามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการจัดทำแผนพัฒนาสุขภาวะของชุมชนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
update 10-06-52
อัพเดทงานโดย : ฤทัยรัตน์ ไกรรอด