บ้าน-โรงเรียนปลอดบุหรี่ ของขวัญล้ำค่าสำหรับลูกหลาน
เทศกาลแลกเปลี่ยนของขวัญ เพื่อเป็นการอวยพรให้เกิดความสุข สมบูรณ์ และ เจริญในธนสารสมบัติ สุขภาพวิถี ค่อยๆผ่านเลยมาเป็น วันที่ 6 แห่งเทศกาลแล้ว
แต่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง หรือ คนในครอบครัว ในสังคมเดียวกันจะมีใครนึกถึง ของขวัญอันสำคัญยิ่งกับเด็กๆบ้างหรือไม่
ของขวัญดังกล่าวคือ การมอบ สิ่งที่ดีในชีวิตให้เกิดขึ้นกับ เด็กเล็กๆ เพื่อให้ แกเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ ปราศจากโรคร้าย ซึ่งของขวัญดังกล่าวนี้คือ การสร้างบรรยากาศที่ปลอดควันบุหรี่ให้กับเด็กๆ เพราะ ควันบุหรี่ ที่ ผู้ใหญ่กำลัง พ่นใส่บรรยากาศอยู่นี้ มีส่วนสร้าง ความหายนะให้กับเด็กๆอย่างมหาศาล ดังข้อมูลจาก นักวิชาการ นายแพทย์ และ ผู้เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
คุณหมอประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ให้ความรู้ว่าโดยตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า มีคนไทยที่ได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มือสองจากที่บ้านถึง 7.4 ล้านครัวเรือน จากจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 18.2 ล้านครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 40.8 ในจำนวนนี้เป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ 2.28 ล้านคน ซึ่งเด็กเล็กๆ ที่เป็นลูกหลานของเรา น่าสงสารมากที่จะต้องเป็นโรคที่ร้ายแรงจากการได้รับควันบุหรี่ จึงอยากให้ช่วยกันส่งเสริมค่านิยมให้กับบ้านและโรงเรียนปลอดบุหรี่ และอยากให้สื่อมวลชนช่วยกันส่งข่าวสารถึงครอบครัวต่างๆ ที่ จะทำให้บ้านและโรงเรียน เป็นเขตปลอดบุหรี่ อย่างจริงจัง
พญ.นัยนา ณีศะนันท์ กุมารแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ชี้ให้เห็นถึง งานวิจัยมากมายที่ระบุว่า ควันบุหรี่เป็นอันตรายต่อเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา โดยพบว่า เด็กที่ได้รับควันบุหรี่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เมื่อเด็กคนนั้นเติบโตขึ้นจะมีพฤติกรรมซนกว่าเด็กปกติ และมีระดับสติปัญญาต่ำกว่าปกติอีกด้วย นอกจากนี้ ควันบุหรี่ยังมีผลกระทบด้านสุขภาพในด้านต่างๆ เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้รับควันบุหรี่ ได้แก่ มีโอกาสเกิดหลอดลมตีบ 1.31 เท่า ทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่นหลอดลมอักเสบและปอดบวมสูงกว่าเด็กทั่วไป และ จะมีอาการโรคหืดรุนแรง เป็นโรคติดเชื้อของหูส่วนกลางบ่อยมากขึ้น และในระยะยาวจะมีพัฒนาการของปอดต่ำกว่าเด็กปกติ
สำหรับการร่วมมือกัน รณรงค์เพื่อให้ สังคมโดยเฉพาะ บ้านแ ล โรงเรียนปลอดบุหรี่ มีผู้ให้ความเห็นในหลายประการดังต่อไปนี้
คุณสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการสถาบันการ์ตูนไทยมูลนิธิเด็ก ให้เหตุผลเกี่ยวกับการจะนำ ตัวการ์ตูนมาสร้างเขตปลอดบุหรี่ให้กับโรงเรียนและครอบครัวว่า การ์ตูนจะเป็นส่วนสำคัญของการสร้างทัศนคติไม่สูบบุหรี่ให้กับเด็กตั้งแต่ยังเล็กๆ อย่างเช่นควรมีการนำการ์ตูนมาใช้เป็นสื่อการสอนส่งเสริมสร้างค่านิยมปลอดบุหรี่ให้กับเด็กๆ ในโรงเรียน เพราะการ์ตูนเป็นสื่อมหัศจรรย์ การ์ตูนบางเรื่องไม่ต้องมีคำบรรยาย อาศัยพลังของภาพและเสียงประกอบ ก็สามารถทำให้เด็กรับรู้จดจำเรื่องราวต่างๆ ที่นำเสนอได้ดี ด้วยกลไกทางจิตวิทยาของเด็ก เด็กจะมองตนเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เด็กจึงคิดในเรื่องที่เหนือธรรมชาติ และมองเห็นว่าอะไรที่เคลื่อนไหวได้ล้วนมีชีวิต การ์ตูนจึงมีอิทธิพลต่อเด็กด้วยเหตุนี้ จึงอยากฝากให้โครงการบ้านปลอดบุหรี่ จัดทำหนังสือการ์ตูนที่เกิดจากการมีส่วนร่วมระหว่างคุณครูกับเด็กเพื่อใช้ เป็นสื่อสอนเด็กในประเด็นรณรงค์บ้านปลอดบุหรี่
อาจารย์แสงทอง ธาตุเสถียร ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนบัว กรุงเทพฯ กล่าวว่า ผมเห็นว่าเรื่องโรงเรียนปลอดบุหรี่เป็นมาตรการทางสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่จะกล่อมเกลาให้เด็กมีทัศนคติเป็นคนไม่สูบบุหรี่ในอนาคต จึงอยากเห็น โรงเรียนปลอดบุหรี่อย่างชัดเจน และ ควรผูกโยงเรื่องบ้านปลอดบุหรี่ไปด้วย เพราะการจะป้องกันเด็กให้ได้ดีต้องให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของเราด้วย ซึ่งโรงเรียนของเรา ได้ส่งเสริมให้บุคลากรไม่สูบบุหรี่ในโรงเรียน และส่งไปฝึกอบรมดูงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนางาน และยังมีการประเมินผลและพัฒนาโครงการนี้อย่างต่อเนื่องและจริงจังโดยมีฝ่ายบริหารเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด
อาจารย์วาม ดุลยากร ผู้อำนวยการโรงเรียนบรรจงรัตน์ จ.ลพบุรี กล่าวว่า โครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่ที่เกิดขึ้นนั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือเล่มเล็กๆ ที่ชื่อว่า “คู่มือโรงเรียนอนุบาลปลอดบุหรี่” เพราะในหนังสือเล่มนี้ทำให้เห็นพิษภัยควันบุหรี่ที่มีต่อเด็กๆ และยังทำให้เราได้เข้าใจว่าคุณครูนั้นมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างค่านิยมไม่สูบบุหรี่ให้กับเด็กๆ ตั้งแต่ยังเล็ก และสามารถส่งเสริมให้เด็กเล็กๆ มีบทบาทสำคัญในการทำให้บ้านปลอดบุหรี่ได้อีก โดยเฉพาะตนเองเป็นผู้บริหารของโรงเรียนอนุบาล ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ถ้าผู้บริหารเห็นชอบกับนโยบายปลอดบุหรี่ในโรงเรียนจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายในเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อเนื่อง จึงอยากให้ผู้บริหารแต่ละโรงเรียนได้ดำเนินโครงการนี้ด้วยการสร้างนโยบายที่มีความชัดเจน สร้างการมีส่วนร่วมทั้งบุคลากรและผู้ปกครอง และที่สำคัญคือเราจะช่วยหล่อหลอมสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับเด็ก ผลที่ได้จากการดำเนินโครงการนี้ นอกจากเด็กๆ จะปอดสะอาดแล้วยังเป็นการปลูกฝังค่านิยมไม่สูบบุหรี่ให้กับเด็กๆ และครอบครัวของเขาอีกด้วย
ด้วยเจตนาของแต่ละคน แต่ละกลุ่ม ในการจัดทำ โครงการ โรงเรียนและบ้านปลอดบุหรี่ เกิดขึ้นโดย มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ที่มีปรารถนาอยากเห็น และอยากให้ สังคมไทย สร้างสิ่งที่ดีๆให้กับลูกหลาน เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่อนาคตของชาติ ในการ ฉลอง ปีเสือใหญ่ ที่กำลังจะสำแดงฤทธิ์ให้คนในชาติได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ที่น่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีกับ พลเมือง และ ประเทศไทย
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
Update: 06-01-53
อัพเดทเนื้อหาโดย: กิตติยา ธนกาลมารวย