กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ…

สุรินทร์ ต้นแบบกีฬาปลอดเหล้า

 

          เป็นที่ทราบกันดีว่า “กีฬา” มีแต่คุณประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่เพียงแต่ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดี เพราะนอกจากจะเป็นการสานสัมพันธ์ ก่อให้เกิดมิตรภาพ ความสามัคคีจากการร่วมแรงร่วมใจในการแข่งขันแล้ว ยังทำให้รู้จักการเสียสละ รู้แพ้รู้ชนะ และรู้อภัย

 

          ทั้งหมดนี้เป็นพื้นฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข

 

          แต่การจัดแข่งขันกีฬาอาจไม่บรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้นได้ หากมีความรุนแรงจากการทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้นในสนามแข่งขัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เชียร์กีฬาที่มักดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเมามายและขาดสติจนเกิดการชกต่อยและตีกัน กลายเป็นการแข่งขันที่นำไปสู่การแตกความสามัคคีมากกว่า

 

          ด้วยเหตุนี้การจัด “การแข่งขันกีฬาชุมชนปลอดเหล้าปลอดความรุนแรง” จึงเกิดขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้ “โครงการพัฒนาเครือข่ายลดเหล้าลดความรุนแรง พื้นที่จังหวัดสุรินทร์” ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลตระแสง, ศูนย์ประสานงานเครือข่าย ลด ละ เลิก เหล้าตำบลตระแสง

 

กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ…

 

          นายปกรณ์ เนตรอนุวัฒน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกระแสง (อบต.ตระแสง) จังหวัดสุรินทร์ เล่าถึงที่มาของแนวคิดการจัดการแข่งขันกีฬาชุมชนปลอดเหล้าปลอดความรุนแรงว่า เดิมในตำบลตระแสงมีการรณรงค์ ลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว โดยร่วมกับทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เนื่องจากเห็นว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุของปัญหาสังคมทั้งหมด ไม่ว่าปัญหาครอบครัว ปัญหาเยาวชน และอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นต้น จึงได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง และที่ตำบลตระแสงมีการจัดแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดประจำตำบลทุกปี ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่าง 12 หมู่บ้านในตำบลตระแสง ในแต่ละปีจะมีชาวบ้านทั้งลูกเด็กเล็กแดงไปจนถึงผู้ใหญ่มาร่วมกิจกรรมนี้ ถึงไม่ได้เป็นผู้แข่งขันก็เป็นผู้เชียร์ จึงเห็นว่าน่าจะนำการรณรงค์ลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผนวกในกิจกรรมนี้ด้วย

 

          นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตระแสง กล่าวยอมรับว่า ในปีที่ผ่านๆ มา มักจะมีผู้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มในระหว่างดูการแข่งขันด้วย เพื่อทำให้รู้สึกสนุกสนานยิ่งขึ้นเวลาเชียร์ ไม่ใช่เหล้าขาวก็เบียร์ ดื่มไปเมาไม่มีสติ เอะอะโวยวาย แม้ว่าที่ตำบลตระแสงจะไม่ถึงขั้นทะเลาะเบาะแว้ง ต่อยตีกันจนเลือดตกยางออกเหมือนกับบางสนามแข่งขันที่เคยเห็น แต่ดูแล้วก็ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีต่อเด็กและเยาวชนที่มาร่วมดูกีฬาด้วย ดังนั้นเมื่อตนได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตระแสง จึงหยิบยกเรื่องนี้มาทำ เพราะไม่อยากให้ลูกหลานในตำบลเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากที่มี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่กำหนดช่วงเวลาและสถานที่ห้ามดื่ม ส่งผลให้ปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในตำบลตระแสงลดลง

 

          และเมื่อพูดถึง “กีฬา” กับ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” นายปกรณ์ แสดงความเห็นว่า เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกัน เพราะกีฬาเป็นกิจกรรมที่ดี เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แต่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากดื่มแล้วจะทำให้เสียเวลามากกว่า เวลาที่มีควรนำมาทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทั้ง 2 สิ่งนี้จึงไม่สามารถเดินควบคู่ไปกันได้ ทำให้ในการจัดการแข่งขันกีฬาประจำตำบลตระแสงจะไม่มีการสนับสนุนงบประมาณจากผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยทาง อบต. จะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณแทนร่วมกับหมู่บ้านต่างๆ เพื่อให้เป็นการแข่งขันกีฬาที่ปราศจากยาเสพติดร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งยังเป็นตำบลต้นแบบที่สามารถจัดการแข่งขันกีฬาที่ปลอดเหล้าและความรุนแรงได้

 

          สำหรับการแข่งขันกีฬาจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กีฬาระดับยุวชน เยาวชน และผู้ใหญ่ โดยปีนี้แข่งขันในกีฬา 4 ประเภท ได้แก่ ฟุตบอลชาย-หญิง ตระกร้อชาย-หญิง เปตองชาย-หญิง และวอลเล่ย์บอลชาย-หญิง ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงระยะเวลา 2 เดือน ระหว่างวันที่ 16 มกราคม-7 มีนาคม ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ และในปีต่อไปจะขยายการแข่งขันในกีฬาประเภทอื่นๆ เพิ่ม เพื่อเปิดให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็ง

 

          “ปีที่ผ่านมา ผมก็เห็นบางคนยังดื่มเหล้าในระหว่างการเชียร์กีฬาอยู่แต่แอบๆ ดื่ม ไม่กล้าดื่มให้เห็นชัดเจนเหมือนเมื่อก่อน ส่วนใหญ่จะเทเหล้าใส่ขวดพลาสติกแบบขุ่นแล้วนำมาดื่ม เพราะเริ่มอายและไม่อยากให้คนเห็นว่ากินเหล้า แสดงให้เห็นแนวโน้มปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันทางผู้จัดได้เตรียมน้ำเปล่าและเครื่องดื่มอื่นๆ ไว้บริการให้ผู้ร่วมงานดื่มแทน ดังนั้นในปีนี้เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ผู้เชียร์กีฬา และชาวบ้านทุกคนจะไม่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มในบริเวณพื้นที่จัดแข่งขันกีฬา และจะขยายโครงการนี้ไปยังตำบลอื่นๆ ใน จังหวัดสุรินทร์ต่อไป” นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตระแสง กล่าว

 

          ด้าน นางอนงค์ สานุสันต์ แกนนำเครือข่ายองค์กรงดเหล้าตำบลตระแสง กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ ได้ทำงานลด ละ เลิกสุราต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พยายามเสนอแนวคิดจัดการแข่งขันกีฬาประจำตำบลปลอดเหล้าปลอดความรุนแรงมาตลอด แต่พึ่งได้รับการตอบรับจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคนใหม่ที่เห็นความสำคัญ และเท่าที่ดูการแข่งขันเมื่อวันที่ 16-17 มกราคม ที่ผ่านมา เราได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี ไม่มีการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่ม ทำให้นักกีฬามีความรู้สึกที่ดีและมีกำลังใจที่จะแข่งขัน เพราะในปีที่ผ่านๆ มา เวลาที่คนเชียร์ดื่มเหล้าแล้ว และหากยิ่งมีการพนันแข่งขัน เวลานักกีฬาคนไหนเล่นไม่ได้ มักจะมีการตะโกนด่าทอ ทำให้การแข่งขันกีฬาดำเนินไปด้วยบรรยากาศที่ไม่ดี แถมบางครั้งยังมีการต่อยตีกัน

 

          “การแข่งขันกีฬาปลอดเหล้าปลอดความรุนแรงทำให้การแข่งขันกีฬามีความสนุกมากขึ้น ทำให้การแข่งขันกีฬาต่อต้านยาเสพติดเป็นกีฬาที่ปลอดยาเสพติด ทั้งปลอดเหล้าและการพนันจริงๆ ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย หากใครดื่มก็จะถูกมอง เรียกว่าเป็นการใช้มาตรการสังคม ทั้งนี้ตำบลตระแสงไม่ได้เป็นพื้นที่ไม่มีคนดื่ม แต่ทำให้การดื่มเป็นไปตามกาลเทศะมากขึ้น และไม่เมาโวยวาย อาละวาด ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเหมือนแต่ก่อน และตั้งแต่ดำเนินโครงการลด ละ เลิกสุรา สามารถช่วยให้สังคมในตำบลตระแสงน่าอยู่มากขึ้น” นางอนงค์ กล่าว

 

          หลังจากนี้ไปต้นแบบ “การแข่งขันกีฬาเพื่อต่อต้านยาเสพติด” ที่ปลอดเหล้า ปลอดความรุนแรงของตำบลตระแสง จะขยายไปสู่พื้นที่อื่นๆ ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

 

 

Update 03-02-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code