กลุ่ม ‘คนไทย’ 77 จังหวัด เสนอปัญหาคนไทย หวังเกิดผลเป็นรูปธรรม
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2554 โครงการคนไทยร่วมกับภาคีหลายภาคส่วน อาทิ ภาคประชาชน เอกชน สาธารณสุข ฯลฯ จัดงานรวมพลัง “คนไทย” ฟัง พูด คิด ทำ อย่างเป็นระบบ ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มต้นนำร่องผ่าน 2 กิจกรรมหลัก “คนไทยมอนิเตอร์” และ “เสวนาคนไทย” พร้อมนำเสียงสะท้อนของประชาชนทั่วประเทศ 100,000 ราย จาก 77 จังหวัด เพื่อให้เกิดผลในเชิงปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
นางดารณี เจริญรัชต์ภาคย์ ประธานสมาคมวิจัยการตลาดโลก (esomar) และที่ปรึกษากิติมศักดิ์สมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คณะทำงานให้ความสำคัญต่อการสำรวจความอยู่ดีมีสุขของประชาชนไทยทั่วประเทศ โดยจะดำเนินกิจกรรม “คนไทยมอนิเตอร์” ประกอบด้วยแนวคิด 3 ข้อคือ
1. รับฟังประชาชนอย่างมีระบบ ผ่านกระบวนการที่เป็นมาตรฐานสากล
2. ตั้งโจทย์รับฟังปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า การเจริญเติบโตของประเทศไม่สามารถเน้นที่เศรษฐกิจหรือ gdp ของประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ต้องให้ความสำคัญกับด้านคุณภาพชีวิตของสังคมเป็นหลัก
3. สร้างโอกาสให้คนไทยทุกภาคส่วนแสดงความคิดเห็นร่วมกัน โดยการสำรวจครั้งนี้จะทำในเชิงปริมาณ สัมภาษณ์เสียงประชาชน 100,000 คนครอบคลุม 77 จังหวัด ซึ่งการสำรวจจะเข้าถึงประชาชนใน 4 มิติหลัก ได้แก่ คุณภาพชีวิต-ความเป็นอยู่ ทัศนคติ-ความเชื่อมั่น การพัฒนาประเทศ-ท้องถิ่นที่อยู่อาศัย และปัญหาด้านสังคม – ความเป็นอยู่ที่ประสบอยู่
ด้าน นางสาววิริยา วรกิตติคุณ นายกสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาสังคมมักไม่ฟังคนไทยด้วยกัน ซึ่งการสำรวจครั้งนี้ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่จะเปิดรับฟังเสียงของคนไทยทุกภาคส่วน ดังนั้นมาตรการในการควบคุมคุณภาพถือเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยใช้มาตรฐานของสมาคมวิจัยโลกเป็นเกณฑ์ในการกำหนดพื้นที่ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง เพื่อให้คนไทยมีโอกาสพูดและรับฟังอย่างเป็นระบบ
“ในการสำรวจครั้งนี้เป็นการสำรวจครั้งยิ่งใหญ่ เป็นครั้งแรกที่มีการรวมพลังของบริษัทวิจัยในระดับสากลทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย โดยได้เริ่มต้นทำการสำรวจตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 และคาดว่าจะสามารถวิเคราะห์ผลวิจัยเสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคม 2554เพื่อนำไปสู่กระบวนการคิดและการปฏิบัติอย่างเป็นระบบต่อไป”
ขณะที่ ผศ.ดร.กฤตินี ณัฎฐวุฒิสิทธิ์ นักวิชาการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ กล่าวว่า ผลของการวิจัยครั้งนี้ จะขยายผลสู่การปฏิบัติ ผ่านเวที “เสวนาคนไทย” ซึ่งต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานการรับฟังเสียงประชาชน โดยอาศัยกลไกสำคัญ 4 ขั้นตอน ฟัง พูด คิด ทำ และเมื่อทำความเข้าใจร่วมกันในสิ่งที่ทำแล้ว จะนำไปสู่การช่วยกันคิดว่า สังคมจะทำอะไรได้บ้างในการเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้น สุดท้ายสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การลงมือทำอย่างเป็นระบบ ในเบื้องต้นได้มีการเชื่อมต่อกับวงเสวนาที่สำคัญไว้หลายระดับด้วยกัน คือ การเสวนาเชิงประเด็น คือ เสวนาตามประเด็นหลักที่สะท้อนความเป็นอยู่ดีมีสุของสังคม ภายใต้วงสานเสวนา “the network forum” โดยมีเจ้าภาพหลักคือกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์ส่งเสริมพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม ซึ่งจะมีขึ้น 12 ครั้ง ในทุกเดือน ตั้งแต่ ต.ค. 54 – ก.ย. 55
ดร.ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ ประธานสภาธุรกิจไทย – สหภาพยุโรป กล่าวในฐานะภาคีภาคธุรกิจ ว่า การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน มีอัตราการแข่งขันค่อนข้างสูง เมื่อนักธุรกิจหันไปให้ความสนใจการแข่งขันแต่เพียงอย่างเดียว ทำให้ลืมเรื่องการทำงานเพื่อสังคมไป
ซึ่งยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการละเลยและไม่ได้พูดคุยกับภาคประชาสังคม จนกระทั่งคิดได้ว่า สังคมก็เหมือนน้ำ นักธุรกิจก็เปรียบเสมือนปลา หากน้ำที่ตนอาศัยอยู่เน่าเสีย ไม่ว่าปลาชนิดไหนก็อยู่ไม่ได้ก็ต้องตาย โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาภาคธุรกิจประสบปัญหาทั้งจากภายนอกและภายในประเทศ หากไม่จับมือร่วมกันขับเคลื่อนเดินหน้า ประเทศชาติคงไปไม่ถึงไหน ในขณะที่จะภูมิภาคจะเกิดเป็นประชาคมอาเซียน อย่าว่าแต่จะแข่งขันกับสิงคโปร์ แต่ประเทศไทยอาจต้องเดินตามหลังเวียดนาม
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน