‘Workability Thailand’ หนุนคนพิการมีงานทำ

ยกระดับความสามารถคนพิการสู่การมีงานทำ ครอบคลุมทั้งภาคการผลิต ภาคการค้า และภาคการบริการ


'Workability Thailand' หนุนคนพิการมีงานทำ thaihealth


เพื่อเป็นการสร้างงานให้กับคนพิการพร้อมยกระดับพัฒนาขีดความสามารถศักยภาพของคนพิการ ให้มีโอกาสทำงานในสังคมเทียบเท่าคนทั่วไป กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต คนพิการจึงได้ร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เมืองพัทยา กิจการเพื่อสังคมไนส์คอร์ป และ Workability Thailand (WTH) พร้อมด้วยเครือข่ายองค์กรกลุ่มภาคธุรกิจ ชั้นนำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดสัมมนา ความสามารถในการมีงานทำของคนพิการ ระดับภูมิภาคเอเชีย 2015 "Workability Asia Conference 2015" ภายใต้ แนวคิด "Together We Can Make the Difference" ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ของเอเชียในการขับเคลื่อนความร่วมมือ เอกชนในมิติการเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจด้วยการบริหารจัดการด้านคนพิการอย่างมีประสิทธิภาพ (First Business Forum for Competitive Disability Management)


นายสุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ ประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคม เพื่อคนพิการและผู้ด้อยโอกาสไทย (Workability Thailand) กล่าวว่า Workability Thailand หรือสมาคมผู้ประกอบกิจการ เพื่อสังคมเพื่อคนพิการและผู้ด้อยโอกาส ไทยจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสมาคม การค้า พ.ศ.2509 และอยู่ในการควบคุม ดูแลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยมีเป้าประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ วิสาหกิจ/กิจการเพื่อสังคมเพื่อคนพิการและผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศไทยและส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบวิสาหกิจ/กิจการประเภทที่เกี่ยวกับการส่งเสริมคนพิการ ในภาคการผลิต ภาคการค้า และภาคการบริการ


สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุ ประสงค์เพื่อเป็นการชู 3 กลไกสำคัญในการ สร้างงานคนพิการเพื่อสร้างขีดความสามารถ ทางธุรกิจ โดยประกอบไปด้วย 1. กระบวนการจัดปรับกลยุทธ์และกระบวนการทางธุรกิจ (Customization Employment) 2.การส่งเสริมรูปแบบความร่วมมือของภาคเอกชนเพื่อจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคมเพื่อคนพิการ (Corporate Social Enterprise) 3.การขยาย เทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อสนับสนุนคนพิการ สู่การเข้าสู่การมีงานทำอย่างมีประสิทธิภาพ (Assistive Technology & Communication) เพื่อมุ่งขับเคลื่อนการเสริมสร้างความเข้มแข็ง และยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของภาคส่วนกิจการเพื่อสังคมเพื่อคนพิการและผู้ด้อยโอกาสให้เป็นกลไกสำคัญในการสร้างโอกาสและบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนสู่การสร้างงานแก่ คนพิการและคนด้อยโอกาสอย่างยั่งยืน


ภายในงานสัมมนายังได้มีการแสดง ผลงานนิทรรศการต่างๆ เกี่ยวกับการฝึกอาชีพของคนพิการ โดยมีหลายองค์กรได้นำผลงาน และผลิตภัณฑ์ที่มาจากฝีมือของคนพิการ นำมาโชว์และจำหน่าย เพื่อให้เห็นว่าผลงานของ คนพิการก็มีคุณภาพและสวยงามเช่นกัน


นายนิมิตร จันทฤทธิ์ เจ้าของกิจการนิมิตรจิวเวลรี่ เล่าให้ฟังว่า คนพิการมีหลากหลาย รูปแบบทั้งการเคลื่อนไหว ตาบอด สติปัญญา ความสามารถก็แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความถนัด สำหรับตนป่วยเป็นโรคโปลีโอ มีความพิการ ขาข้างซ้ายลีบ ได้รับโอกาสได้เข้าไปเป็นลูกจ้าง สถานประกอบการร้านจิวเวลรี่มาก่อน สั่งสมประสบการณ์เกือบ 20 ปี ก่อนที่จะไปศึกษาต่อที่โรงเรียนอาชีวะพระมหาไถ่ จบมาก็ไป เป็นพนักงานด้านเอกสารที่โรงพยาบาลเวชธานี หลังจากนั้นก็ลาออกแล้วมาทำธุรกิจตัวเอง เกี่ยวกับจิวเวลรี่


"โอกาสของคนพิการนั้นขึ้นอยู่กับหน่วยงานว่าจะเปิดโอกาสให้คนพิการได้ทำงานหรือไม่ อยากขอโอกาสให้คนพิการได้ลองทำงาน ได้แสดงความสามารถและศักยภาพ ดูก่อนสามารถว่าทำได้หรือไม่ได้ เพราะบางอย่าง คนพิการก็สามารถทำได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอแค่ได้ฝึกฝนเรียนรู้ไปก่อน เนื่องจาก คนพิการอาจมีข้อจำกัดในการทำงานซึ่งจะ ช้ากว่าคนปกติ 30% อยากให้เข้าใจตรงจุดนี้และยอมรับ หยิบยื่นโอกาสให้คนพิการ โดย บางรายอาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษ หรือช่วยเหลือ คนพิการอย่างเต็มความสามารถก่อน แล้วค่อยประเมินผลว่าพวกเขาเหล่านั้นควรได้ทำงานต่อไปหรือไม่


อยากฝากถึงคนพิการว่าอย่าเพิ่งท้อ พยายามต่อสู้กับความจริง หมั่นออกสังคม และเรียนรู้จากสังคมภายนอก อยากทำอะไรก็ต้องพยายามทำให้ถึงที่สุด อย่าหยุด ให้คิด ตลอดเวลาว่าเราต้องทำได้ ไม่อยากให้ท้อ ไม่อยากให้อยู่กับบ้าน อยากให้เปิดโอกาสให้เรียนรู้กับสังคมภายนอกให้เยอะๆ อยากให้ คิดอยู่เสมอว่า จงช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด และเป็นภาระคนอื่นให้น้อยที่สุด"


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code