WHO ชูระบบสุขภาวะไทยเข้มแข็งสุด
ที่มา: มติชนออนไลน์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
สสส.เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้นำการสร้างเสริมสุขภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ WHO ชูระบบสุขภาวะไทยเข้มแข็งสุด
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้นำการสร้างเสริมสุขภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นพันธกิจที่ดำเนินการภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สสส.กับองค์การอนามัยโลก สำนักงานภูมิภาคเอเชียใต้-ตะวันออก (World Health Organization, South-East Asia Region Office : WHO-SEARO) ในการสร้างความเข้มแข็งด้านงานสร้างเสริมสุขภาพเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้-ตะวันออก ในระหว่างปี 2558-2560 โดยมี 7 ประเทศในภูมิภาคเข้าร่วมประชุม
โดย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน ว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นภัยคุกคามของโลก เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรในภาคพื้นเอเชียใต้-ตะวันออก สูงเป็นอันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 55 ของการตายทั้งหมด หรือเกือบ 8 ล้านคนต่อปี ส่งผลกระทบต่อประเทศรายได้ต่ำ และปานกลางอย่างมาก ถือเป็นความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการ
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า ไทยถือเป็นต้นแบบของประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้-ตะวันออก ที่ประสบความสำเร็จในการมีกองทุน สสส. ดูแลสุขภาวะของประชาชน หลายประเทศนำไทยเป็นแบบอย่าง ซึ่งองค์การอนามัยโลกให้การชื่นชม สสส. เป็นต้นแบบสร้างเสริมสุขภาพ มีการทำงานสร้างเสริมสุขภาวะเป็นประเทศแรกๆ ในภูมิภาค ทำให้มีประสบการณ์ถ่ายทอดแก่เพื่อนสมาชิก ซึ่งผลงานสสส.ตลอด 15 ปี มีมากมายไม่ใช่มีเพียงเรื่องเหล้า บุหรี่ แต่ครอบคลุมการมีสุขภาพ กาย ใจ และการสร้างสังคมที่ดี องค์การอนามัยโลกเห็นความสำเร็จของสสส. และเห็นว่าประเทศไทยทำได้ ประเทศอื่นๆ ก็น่าจะทำได้ด้วย จึงให้ไทยเป็นต้นแบบและเป็นศูนย์กลางในการพัฒนางานสร้างเสริมสุขภาพของประชากรในภูมิภาคแก่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะการสร้างกลไกและรูปแบบนวัตกรรมการเงินการคลังเพื่องานสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญให้ประเทศต่างๆ มีงบประมาณเฉพาะนำมาใช้ทำงานสร้างเสริมสุขภาพ
นายสุวจี กู๊ด ผู้ประสานงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพและปัจจัยกำหนดสุขภาพทางสังคม องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียใต้-ตะวันออก กล่าวว่า ระบบสุขภาวะของไทย มีความเข้มแข็งที่สุดในภูมิภาคนี้ มีการทำงานร่วมกันโดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับองค์กรที่ดำเนินงานใน 3 ด้าน คือ 1.ด้านหลักประกันสุขภาพ ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม 2.ด้านนโยบาย คือ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และ 3.ด้านการสร้างเสริมสุขภาพคือ สสส. มีประสบการณ์การทำงานสร้างเสริมสุขภาพยาวนานกว่าหลายประเทศในภูมิภาคนี้ เป็นศูนย์กลางและเป็นต้นแบบถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ประเทศอื่นๆ ที่เป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายไปสู่ภาคปฏิบัติและขับเคลื่อนสังคม สสส. ถือเป็นตัวอย่างที่ดีช่วยให้แต่ละประเทศเกิดแรงบันดาลใจในการทำงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพ