07 มิ.ย. 64 19,759 ครั้ง จากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไวรัสมีการแพร่เชื้อระหว่างคน โดยผ่านการติดเชื้อจากละอองเสมหะจากการไอ ตั้งแต่ประมาณธันวาคม 2562 ที่ประเทศจีน ต่อมาการระบาดก็ได้แพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลก
02 มิ.ย. 64 1,985 ครั้ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เตรียมความพร้อมใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ เจ้าของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ครูผู้ดูแลเด็ก และกลุ่มผู้ปกครอง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 พร้อมแนวทางปฏิบัติการดูแลเด็กและครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
21 พ.ค. 64 2,532 ครั้ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำใช้ 4 แนวทางปฏิบัติการดูแลเด็กและครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ ให้ยึดหลักการดูแลเด็กไม่แยกจากครอบครัว พร้อมสนับสนุนสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยใช้ Thai stop COVID Plus ประเมินความเสี่ยงและเฝ้าระวังป้องกันโควิด-19
03 พ.ค. 64 3,181 ครั้ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยปรับรูปแบบการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันของเด็กเล็กลดการสัมผัสป้องกันโควิด-19 จัดเตรียมอุปกรณ์การแปรงฟัน โดยให้แปรงฟันแบบมีระยะห่าง ใช้แก้วน้ำ 2 ใบ ใส่น้ำสะอาด และไว้บ้วนฟองและบ้วนน้ำสะอาด พร้อมส่งเสริมการแปรงฟันด้วยสูตร 2–2-2 ป้องกันฟันผุ
27 เม.ย. 64 2,776 ครั้ง กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ห่วงเด็กและครอบครัวที่มีการติดเชื้อโควิด-19 จึงมีมาตรการเน้นย้ำ และเฝ้าระวังเพื่อป้องกันมิให้ติดเชื้อเพิ่ม
19 มี.ค. 64 2,190 ครั้ง กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แนะผู้ปกครองดูแลสุขภาพของลูก ในช่วงเปิดเทอม ป้องกันจากโรคตาแดง โรคมือเท้าปาก โรคอุจจาระร่วง โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคไข้เลือดออก
18 มี.ค. 64 2,421 ครั้ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยอากาศร้อนจัด ลดเวลาให้เด็กทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อป้องกันโรคลมร้อน หรือโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) พร้อมแนะพ่อแม่ ผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด
05 มี.ค. 64 2,176 ครั้ง กระทรวงสาธารณสุข จัดทำเกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตของเด็กอายุ 6-19 ปี ชุดใหม่ เพื่อเป็นเกณฑ์อ้างอิง ที่ใช้ในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของเด็ก ร่วมกับภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนสุขภาพมุ่งสู่เป้าหมายให้เด็กไทยในศตวรรษ ที่ 21 ฉลาด ดี มีทักษะ แข็งแรง
19 ก.พ. 64 5,496 ครั้ง เด็กที่มีความต้องการพิเศษ คือหนึ่งในกลุ่มเปราะบางที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ เพื่อเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของประเทศ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ดังนั้นการมีพัฒนการทางด้านร่างกายจึงกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษ สามารถดูแลตนเองได้มากขึ้น เมื่อเข้าสู่วันที่เติบโตข้างหน้า และจะต้องได้รับการประสานดูแลเป็นอย่างดีจากโรงเรียน ครูผู้สอน รวมถึงผู้ปกครอง ซึ่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็พร้อมดูแลและสนับสนุนด้านเงินทุน เพื่อให้มีหลักสูตรอบรมการสอนกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ (ประเภทบกพร่องทางสติปัญญา) เพื่อให้โรงเรียนนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม ผ่าน "โครงการการสร้างเสริมสุขภาวะให้กับเด็กที่มีความต้องการพิเศษด้วยการใช้กิจกรรมทางกายเป็นสื่อ"
18 ก.พ. 64 3,812 ครั้ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ให้เด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย แปรงฟันนาน 2 นาที ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ให้สะอาด ทั่วทั้งปาก ทุกซี่ ทุกด้าน เพื่อป้องกันฟันผุ
18 ก.พ. 64 1,581 ครั้ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมรณรงค์ "อาหารตามวัยสำหรับเด็กแรกเกิด – 5 ปี” เพื่อสร้างความรอบรู้ให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ในการส่งเสริมด้านโภชนาการสำหรับเด็กได้รับอาหารที่เหมาะสมกับวัย ในสัดส่วนและปริมาณเพียงพอ เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตเต็มศักยภาพ สูงดีสมส่วน และพัฒนาการสมวัย
03 ก.พ. 64 1,538 ครั้ง กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แนะผู้ปกครอง สังเกตลูกน้อย หากพบอาการขาดสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทำ ซุกซนมากกว่าเด็กปกติ พูดจาไม่หยุด และหุนหัน พลันแล่น อาจเข้าข่ายโรคสมาธิสั้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธี
25 ม.ค. 64 2,004 ครั้ง กรมกิจการเด็กและเยาวชนรุกพัฒนาแอปพลิเคชันคุ้มครองเด็ก ดึง อปท.คัดกรองเบื้องต้น
22 ม.ค. 64 3,368 ครั้ง กรมการแพทย์ โดย รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) แนะพ่อ แม่ ผู้ปกครอง หากมีบุคคลในครอบครัวมีประวัติตาเหล่ ตาเข หรือสังเกตเห็นบุตรหลานมองวัตถุสิ่งของดวงตาทั้ง 2 ข้างไม่สัมพันธ์กัน อย่านิ่งนอนใจเพราะตาเหล่ ตาเขหายเองไม่ได้ แต่รักษาให้หายได้ หากพบตั้งแต่เนิ่น ๆ ควรเข้ารับการตรวจโดยจักษุแพทย์
21 ม.ค. 64 1,598 ครั้ง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะในช่วงหน้าหนาวนี้ระวังเด็กป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก ขอให้ผู้ปกครองดูแลและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดในช่วงที่เด็กหยุดเรียนอยู่บ้านเนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด 19 ส่วนโรงเรียนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงและเปิดเรียนตามปกติ ขอให้เคร่งครัดมาตรการคัดกรองเด็กก่อนเข้าเรียน หากมีอาการไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย เจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็กๆ บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า หรือตุ่มแผลในปาก ควรพาไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป
18 ม.ค. 64 6,363 ครั้ง เวลาคุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน มีความเป็นไปได้ที่เชื้อโรคต่าง ๆ อาจติดมาตามเสื้อผ้า และร่างกาย ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้านคุณพ่อคุณแม่ควรรีบไปล้างมือ ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า หรือทางที่ดีควรอาบน้ำก่อนไปสัมผัสใกล้ชิดลูก เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคไปติดลูก