24 มิ.ย. 67 974 ครั้ง “สมศักดิ์” ชู “ชุมชนล้อมรักษ์” กุญแจสำคัญแก้ปัญหายาเสพติดแบบยั่งยืน พลิกวิกฤตสู่โอกาส เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ใช้กลไก พชอ. บำบัด เยียวยา ให้โอกาสกลับตัว สร้างคุณค่า ตอบแทนชุมชน สสส. เดินหน้าเต็มสูบ ชวนภาคีสร้างเสริมสุขภาพ สานพลังสู้ภัยยาเสพติด
24 พ.ค. 67 3,903 ครั้ง การติดยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน มักจะเนื่องมาจากครอบครัว ไม่เป็นสุขมีความขัดแย้ง หรือปล่อยปละละเลยจนถูกชักจูงไปเสพได้ง่าย
20 เม.ย. 67 811 ครั้ง “อยุธยา” ขานรับนโยบายเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย “ชลน่าน” เผย มีเครือข่าย “ชุมชนล้อมรักษ์” เข้มแข็ง ปี 66 ผู้ป่วยยาเสพติดสมัครใจบำบัดมากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ สสส. สานพลังภาคี สร้างพื้นที่ปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด 25 แห่ง 48 จังหวัด เกิดแกนนำ 1,527 หมู่บ้าน/ชุมชน สู่การจัดการปัญหายาเสพติดขยายผลสู่พื้นที่ชุมชนทั่วประเทศ
25 มิ.ย. 64 4,491 ครั้ง กรมการแพทย์โดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) เตือนภัยการเสพยาและสารเสพติดทุกชนิดไม่ช่วยให้หายเครียด ระวังพบปัญหาอื่นแทน แนะ 3 งด ลดเสี่ยงโควิด งดดื่มสุรา งดสูบบุหรี่ งดเสพยาและสารเสพติดทุกชนิด พร้อมใช้ชีวิตแบบ New Normal
04 มี.ค. 64 1,798 ครั้ง กรมการแพทย์โดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) เตือนการรวมกลุ่มดื่มสังสรรค์และใช้ยาเสพติดอันตรายอาจถึงขั้นเสียชีวิต เสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 พร้อมแนะสุภาพสตรีที่จะเข้าร่วมกลุ่มสังสรรค์ต้องระมัดระวังตนเองให้มาก
19 ม.ค. 64 22,061 ครั้ง กรมการแพทย์โดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) เตือนไดอาซีแพม ส่วนผสมในเคนมผง ใช้เกินขนาดอันตรายถึงตาย ผู้ลักลอบจำหน่ายหรือครอบครองหรือใช้ประโยชน์มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
14 ม.ค. 64 21,081 ครั้ง ปัญหายาเสพติดนับเป็นปัญหาสำคัญของสังคมที่ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมามากมาย ทั้งปัญหาอาชญากรรมเศรษฐกิจ การทำร้ายร่างกาย การทะเลาะวิวาท รวมทั้งปัญหาด้านสุขภาพด้วย ดังนั้น หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนจึงพยายามป้องกัน และแก้ไขปัญหานี้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
13 ม.ค. 64 4,087 ครั้ง กรมการแพทย์โดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) เตือนภัยกลุ่มวัยรุ่นนิยมทดลองสิ่งแปลกใหม่ “ยาเคนมผง” ออกฤทธิ์รุนแรง อันตรายอาจถึงตายได้แม้เสพครั้งแรก
19 มิ.ย. 63 5,490 ครั้ง ผลสำรวจยาเสพติดของไทยที่ตัวเลขลดลง เป็นผลมาจากประเทศไทยรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี มีประกาศเคอร์ฟิว ทำให้การขนส่งลำเลียงยาเสพติดยากขึ้น ช่วยสกัดการซื้อขายยาเสพติด รวมทั้งมาตรการล็อกดาวน์ ปิดสถานบันเทิงที่อาจเป็นแหล่งขายยา และมาตรการรักษาระยะห่าง ลดการมั่วสุม ดังนั้น หากไทยมีแผนต่อเนื่องเพื่อให้ยาเสพติดเข้าถึงประชาชนยากขึ้น และนำผลศึกษาใช้พัฒนาแนวทางเฝ้าระวังจะส่งผลดีต่อสังคมและสุขภาพคนไทยในภาพรวม
18 มิ.ย. 63 8,974 ครั้ง ข้อมูลจากศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) ระบุว่า ในช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 มีผู้ใช้สารเสพติดรวมถึงแอลกอฮอล์และบุหรี่ลดลงอย่างมาก จากกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่ใช้สารเสพติดร้อยละ 4.6 เป็นผู้ใช้สารเสพติดประเภทใบกระท่อมลดลงถึง 1 ใน 3 หรือ ร้อยละ 39 ดื่มแอลกอฮอล์ลดลงร้อยละ 56.4 สูบบุหรี่ลดลงร้อยละ 28.1 สาเหตุหลักที่ทำให้ใช้สารเสพติดลดลงนั้นมาจากมาตรการ Social distancing การรักษาระยะห่างทางสังคม และส่วนหนึ่งมาจากการที่ไม่ได้มีกิจกรรมพบปะสังสรรค์ ประกอบกับมาตรการจากภาครัฐที่ให้กักตัวอยู่บ้าน รวมทั้งการซื้อขายมีความยากขึ้น ทำให้ลดปัจจัยเสี่ยงที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
25 ธ.ค. 62 5,028 ครั้ง ห่วงใยประชาชนโดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ เตือนภัยวัยรุ่นเสพยาเคในปริมาณมากร่วมกับสารเสพติดอื่นๆ หรือผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจทำให้เสียชีวิตได้ แม้เพียงเสพครั้งแรก
15 มี.ค. 62 15,299 ครั้ง 15 หน่วยงานผนึกกำลังเฝ้าระวังป้องกัน คนไทยห่างไกลอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติด
26 มิ.ย. 61 5,755 ครั้ง วัยรุ่นทั่วไทยผุดสื่อรณรงค์ สู้ภัยยาสูบ-ยาเสพติด เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประจำปี 2561 สสส. เผย เยาวชนที่สูบบุหรี่มีโอกาสพัฒนาเสพยาเสพติดชนิดอื่นมากกว่าคนไม่สูบถึง 17 เท่า แถม 7 ใน 10 คน จะติดบุหรี่ไปตลอดชีวิต สธ.-สสส. และภาคีเครือข่าย เร่งรณรงค์สร้างกระแสไม่สูบ-เลิกสูบ ผ่านโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน
11 มิ.ย. 61 4,062 ครั้ง ที่มา : MGR Online รพ.สวนสราญรมย์ ทำโฮมสเตย์เป็นชุมชนบำบัด “ผู้เสพยา” พร้อมสร้างอาชีพ ลดการเสพซ้ำได้ 70% รพ.สวนสราญรมย์ บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาและอาการทางจิตอยู่ในภาวะสงบ ด้วยชุมชนบำบัดแบบโฮมสเตย์ จัดที่พักคล้ายรีสอร์ต เน้นดูแลทั้งกาย จิต วิญญาณ สังคม และสร้างอาชีพ ใช้เวลา 4 เดือน ร้อยละ 70 ไม่กลับไปเสพซ้ำ มีอาชีพรายได้ พร้อมเป็นแหล่งศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยม รพ.สวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้ป่วยจิตเวชที่พักรักษาใน รพ.สวนสราญรมย์ วันละ 350 คน ร้อยละ 40 มาจากการใช้สารเสพติด เพิ่มขึ้นจากช่วง 5 ปีก่อนประมาณ 2 เท่า ทั้งนี้ รพ.สวนสราญรมย์ ได้จัดระบบบริการฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดที่ผ่านการบำบัดในระยะถอนพิษยา และอาการทางจิตอยู่ในภาวะสงบแล้ว โดยใช้กระบวนการชุมชนบำบัดแบบโฮมสเตย์ สถานที่พักฟื้นเป็นบ้านพัก 2 ชั้น คล้ายรีสอร์ต ร่มรื่น เป็นธรรมชาติ อิสระ มี 9 หลัง หลังละ 10 เตียง ให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตร่วมกันเสมือนเป็นบ้านของตนเอง ฝึกให้ผู้ป่วยมีความรับผิดชอบ มีแบบแผนการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม มีคุณภาพชีวิตที่ดี นับเป็นการบำบัดฟื้นฟูที่อยู่ในระดับพรีเมียมแห่งเดียวในประเทศ หรือดีที่สุดในอาเซียนก็ว่าได้ “การฟื้นฟู ฝึกอาชีพให้กับผู้ป่วย จะเน้นตามความสามารถของผู้ป่วย โดยยึดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เช่น งานเกษตรกรรม การปลูกผัก เลี้ยงหมู เลี้ยงปลา เพื่อให้มีรายได้ สร้างความภาคภูมิใจตนเอง ซึ่งได้ผลดีมาก และทุกคนจะได้รับการฝึกสติและสมาธิจากทีมสหวิชาชีพ เพื่อป้องกันการกลับไปใช้สารเสพติดซ้ำ ใช้เวลารักษาฟื้นฟู 4 เดือน จากการติดตามผู้ป่วยที่กลับไปอยู่กับครอบครัวในชุมชนร้อยละ 60-70 สามารถเลิกเสพยาได้ มีงานทำ มีอาชีพและมีรายได้ต่อเนื่อง" น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวและว่า รพ.พร้อมเป็นแหล่งศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในงานประชุมยาเสพติดโลกประจำปี 2561 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีหลายประเทศสนใจจะมาศึกษาดูงาน เพราะประสบความสำเร็จสูง ผู้ผ่านการบำบัดไม่หันกลับไปเสพยาซ้ำสูงกว่าร้อยละ 85 นพ.จุมภฎ พรมสีดา ผู้อำนวยการ รพ.สวนสราญรมย์ กล่าวว่า โรคจิตเวชที่พบได้บ่อยในผู้ที่ใช้ยาเสพติด คือ โรคจิตเภท พบได้ร้อยละ 70 รองลงมา คือ โรคซึมเศร้าและโรคบุคลิกผิดปกติแบบต่อต้านสังคม ก้าวร้าว ทำร้ายคนอื่นพบได้ประมาณร้อยละ 30 ในการบำบัดฟื้นฟู ขณะนี้มีบ้านพักทั้งหมด 9 หลัง รับได้ 60 คน มีพยาบาลดูแลตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบการติดตามผลการรักษาหลังจำหน่าย 1 ปี การบำบัดฟื้นฟูฯ จะทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม จิตวิญญาณ และอาชีพ ใช้เวลาที่เกิดประโยชน์และมีรายได้ เพื่อสร้างความมั่นใจและภาคภูมิใจให้ผู้ป่วย เนื่องจากผู้ที่ติดยาส่วนใหญ่จะขาดโอกาสในการประกอบอาชีพ ที่สำคัญ ได้ให้ครอบครัวเข้ามาร่วมทำครอบครัวบำบัด 7 - 8 ครั้งด้วย นพ.จุมภฎ กล่าวว่า สำหรับกลุ่มของผู้ป่วยได้เปิดโอกาสให้ระดมสมองและร่วมกันตั้งกฎเหล็ก 6 ข้อที่ทุกคนต้องเคร่งครัดปฏิบัติตามในการใช้ชีวิตร่วมกัน คือ 1. ไม่ใช้สารเสพติดทุกชนิด 2. ไม่ทะเลาะวิวาท 3. ไม่มีเพศสัมพันธ์ 4. ห้ามลักขโมย 5. ไม่ออกนอกสถานบำบัด และ 6. พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น โดยทุกเช้าจะมีการฝึกสติ หลังเคารพธงชาติ และก่อนนอนทุกวัน และฝึกทำสมาธิขณะทำกิจกรรมกลุ่มทุกประเภท สวดมนต์ทุกวันพระใหญ่ สร้างพลังความเข้มแข็งจิตใจ การดำเนินชีวิตอย่างมีสติ โดยแผนดำเนินการต่อไป รพ. จะสร้างอาชีพให้ผู้ผ่านการบำบัดที่ยังไม่มีอาชีพ และส่งฝึกงานในสถานประกอบการต่างๆ ใน จ.สุราษฎร์ธานี และใกล้เคียง