24 ม.ค. 68 1,360 ครั้ง PM คือ ฝุ่นละอองที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ มีอนุภาคขนาดเล็ก หรือมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 10 ไมครอนลงมา (PM10) ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได
24 ม.ค. 68 1,454 ครั้ง การป้องกันฝุ่น PM 2.5 จะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากมลพิษทางอากาศและช่วยดูแลสุขภาพในระยะยาว รู้จัก 5 วิธีป้องกันตนเองจากฝุ่น pm 2.5
18 พ.ย. 66 7,909 ครั้ง สสส. สานพลังภาคีฯ จัดประชุมระดับชาติ ถกปัญหาฝุ่น PM2.5 ผลักดันนโยบายอากาศสะอาด คุ้มครองระบบสุขภาพ รับสถานการณ์ภัยแล้ง
20 ก.พ. 66 1,977 ครั้ง ฝุ่นภาคเหนือยังวิกฤติ!! สสส.-กรมอนามัย-WHO สานพลังเปิดตัวนวัตกรรม “ห้องปลอดฝุ่น” รับมือ PM2.5 ป้องกันกระทบต่อสุขภาพ เร่งนำร่องใช้ในกลุ่มเด็กเล็กเป็นกลุ่มแรก ก่อนเดินหน้าขยายผลปกป้องกลุ่มเสี่ยงให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
28 ม.ค. 66 1,598 ครั้ง สสส. - กทม. สานพลังภาคีเครือข่าย 25 องค์กร แก้ไขปัญหาฝุ่นเมืองหลวง ร่วมปกป้องสุขภาพประชาชนจาก PM2.5 ปัจจัยเสี่ยงก่อมะเร็งและโรคระบบทางเดินหายใจ
06 ต.ค. 65 1,965 ครั้ง เราต่างทราบกันดีว่าฝุ่น PM2.5 หากเข้าไปสะสมในปอด แทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายไปทั่วร่างกาย อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ต้นตอของปัญหาก็มาจากการเผาไร่นา ทำการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคอีสานของไทย เมื่อหลีกเลี่ยงจากปัญหาฝุ่นที่เกิดขึ้นไม่ได้ ก็จะต้องตั้งรับ เตรียมความพร้อม และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด เพื่อคืนอากาศที่สะอาดและปลอดภัยให้กับสังคม
13 ม.ค. 64 2,045 ครั้ง แถลงข่าวของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศด้านผลกระทบต่อสุขภาพ (ศกพ.ส.) เกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ผลกระทบต่อสุขภาพและมาตรฐานประสิทธิภาพของหน้ากากในการป้องกัน PM2.5 ร่วมกับ รศ.พานิช อินต๊ะ วิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในวันที่ 1-10 มกราคม พบว่าภาพรวมส่วนใหญ่อยู่ในระดับไม่เกินค่ามาตรฐาน ยกเว้นในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บางจังหวัดที่พบค่าเกินมาตรฐาน ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร และหนองคาย โดยค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบสถานการณ์ PM2.5 ในช่วงเดือนธันวาคม 2562-วันที่ 9 มกราคม 2563 กับเดือนธันวาคม 2563-วันที่ 9 มกราคม 2564 พบว่า ค่าเฉลี่ย PM2.5 ในกรุงเทพฯและปริมณฑลลดลงถึงร้อยละ 42 ทั้งจากปริมาณการจราจรและจุดความร้อนในประเทศลดลง ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพของประชาชน