“SEAPAC 2025” รวมพลังอาเซียนขยับกาย สสส. – ภาคีฯ ปักธง Roadmap ตั้ง Physical Activity Hub เพิ่มกิจกรรมทางกาย ลด NCDs ในอนาคต

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

ภาพประกอบจาก สสส.

ปกข่าว“SEAPAC 2025” รวมพลังอาเซียนขยับกาย สสส. - ภาคีฯ ปักธง Roadmap ตั้ง Physical Activity Hub เพิ่มกิจกรรมทางกาย ลด NCDs ในอนาคต

                    ปักธง Roadmap อาเซียน ยกระดับความร่วมมือกิจกรรมทางกายสู่อนาคต สสส. สานพลัง ม.มหิดล-ทีแพค เปิดเวที “SEAPAC 2025” รวมพลัง 14 ชาติอาเซียนขยับกาย ไทยนำร่องตั้ง “Physical Activity Hub” ศูนย์กลางขับเคลื่อนกิจกรรมทางกายระดับภูมิภาค สสส. ชูแนวทางเพิ่มการเคลื่อนไหว 150 นาที/สัปดาห์ ลดโรค NCDs เสริมสุขภาพดี-อายุยืนยาว ตั้งเป้าผลักดันคนไทยมีกิจกรรมทางกายเพิ่ม 75% เดินหน้าสร้างสังคมกระฉับกระเฉง เท่าเทียม ยั่งยืน

                    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พ.ย. 2568 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการสัมมนาด้านกิจกรรมทางกายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2025 (South-East Asia Physical Activity Conference 2025 – SEAPAC 2025) ระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย. 2568 ซึ่งจัดประชุมเป็นครั้งแรก โดยมีบุคลากรด้านกิจกรรมทางกายที่สำคัญทั้งระดับโลก เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วม 700 คนจาก 14 ประเทศ

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส.

                    ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. มุ่งลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) โดยเฉพาะการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดีตลอดช่วงชีวิต จากรายงานสถานการณ์การมีกิจกรรมทางกายของประชากรไทย ในรอบ 12 ปี (ปี 2555-2566) พบคนไทยมีระดับการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอต่ำกว่า 70% ซึ่งการประชุมครั้งนี้ คือก้าวแรกของความร่วมมือในการสร้างศูนย์กลางกิจกรรมทางกาย (Physical Activity Hub – PA) เพื่อเป็นกลไกกลางในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางกาย โดยมีเป้าหมายสำคัญ 1. ระดับบุคคล ควรเพิ่มการมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลาง 150–300 นาทีต่อสัปดาห์ หรือระดับหนักอย่างน้อย 85 นาทีต่อสัปดาห์ 2. ระดับประเทศ ควรยกระดับอัตราการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอจาก 68% เพิ่มเป็น 75% 3. ระดับภูมิภาคและโลก ควรลดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทุน และนโยบายสนับสนุน

                    “ไทยมีความพร้อมในการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนทั้งด้านวิชาการ งานวิจัย เชื่อมต่อข้อมูล และผลักดันให้เกิดกิจกรรมทางกายของประชากรในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งการยกระดับกิจกรรมทางกายถูกหยิบยกมาหารือในเวที SEAPAC 2025 แต่ละประเทศได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการและผลการวิจัย นวัตกรรมใหม่ การออกแบบโมเดลที่มีความหลากหลายของการมีกิจกรรมทางกาย ที่นำไปสู่การพัฒนานโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ส่งเสริมให้ประชาชนในภูมิภาคสามารถเข้าถึงและมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาว โดยคาดว่าในระยะ 10-20 ปี โรค NCDs จะลดลง สุขภาพประชาชนโดยรวมจะดีขึ้น ประชากรมีอายุยืนขึ้น สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยั่งยืน” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

รศ.ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) 

                    รศ.ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค)  กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ไทยได้นำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรมทางกายที่ครอบคลุมยุทธศาสตร์ที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ 1. ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น (Active People) ผ่านการสื่อสาร การออกแบบกิจกรรม และการสร้างความเข้าใจที่เหมาะสมกับบริบท 2. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเคลื่อนไหวของทุกคนอย่างเท่าเทียม (Active Environment) 3. สร้างค่านิยมทางสังคมและวัฒนธรรมที่สนับสนุนให้การเคลื่อนไหวเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต (Active Society) 4. พัฒนาระบบสนับสนุนที่เข้มแข็ง (Active System) เช่น ฐานข้อมูล งานวิจัย และนวัตกรรม เพื่อใช้เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันนโยบายและการดำเนินงานด้านกิจกรรมทางกายอย่างยั่งยืน

                    “SEAPAC 2025 ถือเป็นก้าวสำคัญของการรวมพลังในภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและยังเป็นเวทีเริ่มต้นของความร่วมมือระยะยาว ที่จะต่อยอดสู่การพัฒนา Roadmap ด้านกิจกรรมทางกายของอาเซียน และติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องทุก 3 ปี เพื่อสร้างสังคมที่กระฉับกระเฉง และเท่าเทียมในระดับภูมิภาค และมีการนำเสนอผลงานวิชาการ 110 ผลงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshops) e-Exhibition Showcase เปิดพื้นที่ให้เกิดการเรียนรู้และแรงบันดาลใจร่วมกัน ช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านกิจกรรมทางกาย เพื่อเชื่อมโยงภาคีและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ กิจกรรม Innovation Pitching สำหรับเยาวชนและนักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อนำเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ด้านกิจกรรมทางกายและหาแนวทางต่อยอดสู่การพัฒนาในอนาคต ภายใต้แนวคิด Healthy Active Meeting เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้เคลื่อนไหวระหว่างการเรียนรู้ ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมอย่างกระฉับกระเฉงและสร้างสรรค์” ดร.ปิยวัฒน์ กล่าว

                    ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก Professor Mark S. Tremblay จาก Active Healthy Kids Global Alliance มาร่วมปาฐกถาพิเศษว่าด้วยบทบาทสำคัญของงานวิจัยและเครือข่ายทางวิชาการในการขับเคลื่อนนโยบายที่อิงหลักฐานเชิงประจักษ์ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาวะของประชาชนในระดับโลก พร้อมสะท้อนมุมมองต่อความท้าทาย ช่องว่าง และโอกาสใหม่ ๆ ของการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://seapac2025.org/

Shares:
QR Code :
QR Code