Healthy Routine เคล็ดไม่ลับ สุขภาพดีได้ทุกวัน

                    ที่มา : เว็บไซต์ YOUNG HAPPY 

แฟ้มภาพ

                    ในทุก ๆ ช่วงเวลาของแต่ละวัน ล้วนเป็นโอกาสทองของการดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง ผ่านกิจวัตรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราทำทุกวันจนเป็นนิสัยได้ โดยไม่ต้องรอคอยให้ความเจ็บป่วยหรือโรคภัยมาเยือนเสียก่อน เพื่อเปิดรับสุขภาพที่ดีอย่างเต็มที่ ขอนำเสนอเทคนิคการดูแลสุขภาพดี ๆ ที่ทำได้ตั้งแต่ตื่นลืมตาถึงเวลาเข้านอน รับรองว่าทำตามได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่สร้างความแข็งแรงให้กายและใจของวัยเก๋าอย่างแน่นอน

                    1. จุดเริ่มต้นสุขภาพดี เริ่มที่มื้อเช้า

                    เติมพลังตัวเองให้พร้อมด้วยมื้อเช้า เพราะขณะที่เรานอนหลับนั้น ท้องของเราจะว่างจากอาหารและสูญเสียน้ำไปประมาณ 8-10 ชั่วโมง ทำให้ร่างกายต้องการสารอาหารในช่วงเช้ามากกว่าช่วงเวลาอื่น หากละเลยมื้อเช้าหรือกินมื้อเช้าน้อยเกินไป ก็จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่สำคัญไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ร่างกายอ่อนแอ และยังเป็นสาเหตุของโรคอ้วนและเบาหวานอีกด้วย หลังตื่นนอนควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 1 แก้ว เพื่อฟื้นฟูร่างกาย และไม่พลาดที่จะกินมื้อเช้าด้วยเมนูที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ในสัดส่วนเหมาะสม ได้แก่ แป้งไม่ขัดสีอย่างข้าวกล้อง ผักและธัญพืช โปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา หรือเสริมด้วยนมขาดมันเนย น้ำเต้าหู้

                    2. รับแดดช่วงสาย หัวใจแข็งแรง

                    ช่วงเวลา 7-9 โมงเช้า เป็นช่วงเวลาของแสงแดดอ่อน ๆ ที่อุดมไปด้วยวิตามินดี ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจ ระบบประสาทและสมอง หลังมื้อเช้า ขอแนะนำให้ไปยืดเส้นยืนสายเดินเล่นเบา ๆ รับแสงแดดอ่อน ๆ เท่านี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของวันที่ดีแล้ว

                    3.เติมพลังไปต่อ ด้วยมื้อกลางวัน

                    การเลือกมื้อกลางวันก็สำคัญไม่แพ้มื้อเช้า เพราะร่างกายต้องดูดซึมสารอาหารในช่วงนี้ไปใช้มากที่สุด ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ไม่ต่างจากมื้อเช้า แต่อาจลดปริมาณจากมื้อเช้าลงมานิดหน่อย เน้นเมนูที่ให้สารอาหารครบคุณค่า ปรุงด้วยกรรมวิธีลวก ต้ม นึ่ง อบ  เพื่อลดการใช้น้ำมัน เช่น ก๋วยเตี๋ยวหมูสับน้ำใส แกงจืดตำลึงหมูสับ ต้มจับฉ่าย เลี่ยงอาหารทอด แกงกะทิต่าง ๆ  หากรู้สึกเบื่ออาหาร กินได้น้อย ลองดื่มน้ำสมุนไพรหวานน้อย เช่น น้ำมะตูม น้ำใบเตย น้ำขิง แทนน้ำเปล่า คู่กับมื้ออาหารจะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารให้เพิ่มมากขึ้น

                    4. ‘น้ำ’ ตัวช่วยสำคัญระหว่างวัน

                    ในระหว่างวัน เราสูญเสียพลังงานและน้ำไปกับการทำกิจกรรมต่าง ควรดื่มน้ำระหว่างวันให้เพียงพอ โดยปริมาณที่แนะนำคือ 8 แก้ว ซึ่งสามารถแบ่งดื่มในแต่ละช่วงของวันได้ เช่น หลังตื่นนอน 1 แก้ว ก่อนและหลังมื้อเช้า 2 แก้ว ก่อนและหลังมื้อกลางวัน 2 แก้ว จิบบ่อย ๆ ระหว่างวัน หลังมื้อว่างและก่อนเข้านอน น้ำจะเข้าไปปรับสมดุลการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย และยังทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้น เปล่งประกาย สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

                    5. ยืดเส้นยืดสาย ผ่อนคลายยามเย็น

                    ช่วงเย็นของแต่ละวันเป็นช่วงที่ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีที่สุด และเหมาะที่จะทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น เดินเล่น หรือออกกำลังกายตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกกินมื้อเย็นเบา ๆ ในปริมาณไม่มากเท่ามื้อเช้าและกลางวัน เน้นสารอาหารที่ประโยชน์ต่อสุขภาพ กินผลไม้เสริมวิตามินซี ในมื้อเย็นนี้ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เพราะจะทำให้นอนไม่หลับได้ และไม่ควรกินดึกเกินไป สุดท้าย อย่าลืมหลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน อ่านหนังสือหรือทำสมาธิผ่อนคลายจิตใจ  และดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ ก่อนนอน เช่น นมขาดมันเนย หรือเครื่องดื่มธัญพืชที่ไม่มีน้ำตาล จะช่วยให้หลับฝันดี เต็มอิ่ม พร้อมตื่นมารับวันใหม่

                    เพราะสุขภาพที่ดี ไม่ได้เกิดขึ้นได้ในวันเดียว แต่การเริ่มต้นดูแลสุขภาพด้วยกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ในทุกวัน ก็เหมือนการเก็บออมสะสมสุขภาพกายและใจที่จะมอบดอกผลเป็นความสดชื่น แข็งแรงสมวัยให้วัยเก๋าในวันข้างหน้าแน่นอน

Shares:
QR Code :
QR Code