Happy Workplace เริ่มต้นปีอย่างมีสติ
เรื่องโดย ฐิติพร โยทาพันธ์ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจาก Facebook Live Happy Workplace Talk ครั้งที่ 2 หัวข้อ “การใช้สติของมนุษย์เงินเดือน กับวิถีชีวิตใหม่”
ภาพโดย ชยวี ลิ้มถาวรรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
เข้าสู่ช่วงเริ่มต้นปีใหม่ 2565 เวลาผ่านมากว่า 2 อาทิตย์แล้ว เชื่อว่าหลายคนตั้งปณิธานการใช้ชีวิตในด้านต่าง ๆ ทั้งการทำงาน การเงิน วางแผนการใช้ชีวิต ครอบครัว รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเองในทุก ๆ ด้าน ให้ดีขึ้นเพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่การจะไปให้ถึงสิ่งที่มุ่งหวังไว้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเครื่องมือสำคัญนั่นก็คือ สติ เพราะไม่ว่าชีวิตจะเจอกับปัญหาอะไร การมีสติจะนำพาให้ทุกคนฝ่าฟันทุกวิกฤตที่เกิดขึ้นในชีวิตให้ผ่านพ้นไปได้ในทุกเรื่อง
คำว่า สติ ในเชิงจิตวิทยา คือ จิตขั้นสูงกว่า จิตที่สงบ จิตที่มั่นคง ปล่อยวาง เมตตาและให้อภัย ถ้าเรามีสติ จะช่วยให้เราดูแลสุขภาพ การเงิน การทำงาน ทั้งชีวิตส่วนตัว ครอบครัว หากเรามีสติก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสิ่งเหล่านี้ให้ดีขึ้น การมีสติจึงเป็นทักษะที่สามารถนำมาใช้ได้กับทุกเรื่อง โดยเฉพาะการทำงานและการพัฒนาองค์กร
นพ. ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานต์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต และที่ปรึกษาโครงการสร้างสุขและจิตสำนึกด้วยโปรแกรมสติในองค์กร (Mindfulness In Organization : MIO) กล่าวถึงการสร้างเสริมสุขภาพจิตในที่ทำงาน ว่า เริ่มต้นปีอย่างมีสติ ปีนี้เป็นปีที่เราต้องกอบกู้ทุกอย่างจากวิกฤต หลังจากที่เราต้องเผชิญกับโควิด-19 มากว่า 2 ปี ปีนี้เราคงทราบดีว่าปัญหาของโควิด-19 มีแนวโน้มที่ควบคุมได้ แต่ว่าผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ยังส่งผลกระทบมากทั้งกับตัวเราเองและผู้อื่น โดยเฉพาะเรื่องรายได้ ปีนี้จึงเป็นปีที่ต้องกอบกู้วิกฤตของตัวเราเองและครอบครัว แล้วก็ชุมชมและองค์กรที่เราทำงานอยู่ หลักของการกอบกู้วิกฤตที่สำคัญ ก็คือ สติ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องทำความเข้าใจเรื่องของสติให้ถ่องแท้ และดูว่าสตินั้นจะสามารถช่วยเหลือตัวเราเองและองค์กรได้อย่างไร
“การที่เราทำงานด้วยจิตขั้นสูง คือ การมีสติ สมาธิ ทำให้คุณค่าภายในของเรางอกงาม ทำให้การใช้ชีวิตและการทำงานของเรามั่นคงยิ่งขึ้น เพราะการมีสติ สมาธิขั้นสูง เป็นจิตที่เราสมารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ ช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีคุณภาพ มีพลังงานที่ดี มีความคิดเชิงบวก ทำงานอย่างมีความสุข ยอมรับการเปลี่ยนแปลง รู้จักเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส การฝันฝ่าทุกอุปสรรคจากวิกฤติที่เกิดขึ้น ขอย้ำว่า เราทุกคนจะผ่านพ้นไปได้ ถ้าเรามีสติ” นพ.ยงยุทธ กล่าว
นอกจากนี้ นพ. ยงยุทธ ยังได้แบ่งปันแนวความคิดเกี่ยวกับการใช้สติกับการทำงานเพิ่มเติม ดังนี้
“สติ” กับการทำงาน – ขับเคลื่อนองค์กร
กล่าวกันว่า “องค์กรที่มีวิสัยทัศน์ที่ดี จะพัฒนาคนควบคู่ไปกับความสำเร็จขององค์กร”
ตน / ตัวเรา : การมีสติ มีความใส่ใจในงานทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ทำงานอย่างมีพลังและมีความสุขกับงานที่ทำ
ทีม : สติทำให้การทำงานร่วมกันอย่างมีมิตรไมตรี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เป็นผู้รับฟังและผู้พูดที่ดี ฝึกให้เป็นคนคิดบวกเมื่อเจอกับปัญหา
องค์กร : การมีสติ ทำให้คนในองค์กรเรียนรู้ เป็นกัลยาณมิตรในการสนทนา มีการประชุมด้วยสติ อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ มีความคิดในแง่บวก รับฟังอย่างมีสติ สามารถแก้ไขปัญหาขององค์กรให้ผ่านไปได้ สติจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้พัฒนาไปสู่ความสำเร็จได้เร็วขึ้น
5 ข้อ ผลลัพธ์ที่ดีของการมี “สติ”
- สติ เปลี่ยนความคิดลบ ให้เป็นความคิดบวกได้
- สติ ทำให้เรารู้สึกตัว ว่ากำลังทำอะไร รู้สึกอย่างไร
- สติ ทำให้ควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก รู้สึกตัวตลอดเวลา ไม่เป็นคนอารมณ์ร้อน ใจเย็น
- สติ ช่วยให้เข้าใจสภาพปัญหา และยอมรับ รับรู้ถึงการเกิดขึ้น เปลี่ยนแปลงไป ไม่ยึดติด จิตปล่อยว่าง มองโลกในแง่บวก
- สติ ช่วยให้เรามีทางออกในการแก้ไขปัญหา นำพาให้ผ่านพ้นทุกอุปสรรค
สำหรับองค์กรใดที่สนใจหลักสูตรการสร้างสุขด้วยสติในองค์กร สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Facebook : สร้างสุขด้วยสติในองค์กร หรือเว็บไซต์ที่ www.thaimio.com
การมีสติ เป็นพื้นฐานของจิตใจที่เข็มแข็ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ สสส. และภาคีเครือข่ายร่วมกันขับเคลื่อนให้คนไทยมีสุขภาวะที่ครบทั้ง 4 ด้าน กาย จิต ปัญญา สังคม เพราะการมีสติคือส่วนหนึ่งของการสร้างสุขภาวะที่ดีทางจิตใจ เสริมสร้างพลังใจให้เข้มแข็งพร้อมสู้ทุกวิกฤต