EARTH DAY 2012

 EARTH DAY 2012


หัวเรื่องวันนี้ ขออนุญาตใช้ภาษาอังกฤษ เพราะชื่อ EARTH DAY แปลเป็นภาษาไทยได้หลายอย่าง ฝรั่งเขาใช้ earth-โลก เฉยๆ แปลตรงๆ ว่า “วันโลก” ส่วนทางไทย เห็นเขาแปลกันมานานแล้วว่า “วันคุ้มครองโลก” เมื่อแปลอย่างนั้น คนฟังย่อมคิดต่อไปว่า “โลก”กำลังอ่อนแอหรือกำลังตกอยู่ในอันตราย จึงต้องมีใครออกมา “คุ้มครอง” หากแปลว่า”วันรักษ์โลก” คนฟังก็ย่อมคิดต่อว่า เราต้องช่วยกันรักษาสภาพโลกเอาไว้อย่างนี้ คืออนุรักษ์เอาไว้ หากแปลว่า “วันฟื้นฟูโลก” คนฟังย่อมคิดว่าโลกเสื่อมโทรมไปมาก แย่ลงเลวลง จึงต้องช่วยกันฟื้นฟู ให้ดีเหมือนเดิมหากแปลว่า “วันเปลี่ยนแปลงโลก” คนฟังย่อมคิดต่อว่า นี่กำลังเรียกร้องให้เรา “ปฏิวัติ !”


สรุปแล้ว น่าจะใช้ “วันโลก” เฉยๆ แล้วจะให้ผู้คนรู้สึกอย่างไรจะชักจูงให้ผู้คนทำอะไร ค่อยเติมท้ายขยายความต่อ


ซึ่งจริงๆ แล้ว พลโลกควรจะคิดทั้งสามด้านที่กล่าวไปแล้ว คือต้องช่วยกันคุ้มครอง ช่วยกันอนุรักษ์ ช่วยกันฟื้นฟู และช่วยกันเปลี่ยนแปลง


นัยสุดท้ายนั้น อาจทำให้คนเข้าใจผิดได้ ก็ไหนบอกให้คุ้มครองอนุรักษ์แล้ว จะมาเปลี่ยนแปลงอะไรอีกที่ให้เปลี่ยนแปลงหมายถึง ทางด้านกายภาพของโลกนั้น ให้ฟื้นฟูสภาวะตามธรรมชาติ ทางด้านจิตใจมนุษย์นั้น ให้เปลี่ยนแปลงจิตใจมนุษย์ลดทอนกิเลส


เปลี่ยนให้รู้จัก “รักษ์โลก-รักพลโลก” พูดตรงๆ ก็คือ “อภิทุน”ที่หากำไรจากการทำลายธรรมชาติ ต้องเปลี่ยนแปลง ต้องอนุรักษ์อย่าไปทำลายธรรมชาติ


จะเปลี่ยนจุดนี้ได้ ต้องมีจิตใจรักมนุษยชาติ รักพลโลกก่อน


22 เมษายน ของทุกปี ฝรั่งเขากำหนดให้เป็น “วันโลก” เริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกาเมื่อ พ.ศ.2513 นัยว่าเริ่มจากการรณรงค์ให้ชาวอเมริกันร่วมกันพิทักษ์คุ้มครองโลกให้อยู่รอดปลอดภัยจากภัยต่างๆ เวลาพูดถึง “วันโลก” หรือ “วันคุ้มครองโลก” ผู้คนมักจะนึกถึงแต่ด้านอนุรักษ์ธรรมชาติ อาจจะเป็นเพราะตั้งแต่เริ่มแรกมี “วันโลก” ที่สหรัฐอเมริกา


เมื่อ 27 ปีก่อน มีนักอนุรักษ์ธรรมชาติกลุ่มหนึ่งได้จัดให้มีการแสดงพลังครั้งใหญ่ เพื่อปลุกเร้าจิตสำนึกเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับวันยิ่งถูกมนุษย์ทำลาย ในการแสดงพลังครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมกว่า 20 ล้านคนและปรากฏขึ้นตามเมืองใหญ่ๆ เกือบทั้งสหรัฐฯ แล้วสงครามที่ทำลายชีวิตมนุษย์อยู่ทุกวันเล่า อาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่ทำให้พลโลก 99% ถูกขูดรีดถูกเอารัดเอาเปรียบเล่า เราไม่ต้องคุ้มครองชีวิตมนุษย์และคุณภาพชีวิตของพลโลกชั้นล่างหรือถ้าพลโลกคิดได้กว้างครอบคลุมทั้งหมดก็ยิ่งดี แต่การเคลื่อนไหวขององค์กรต่างๆ นั้น ไม่จำเป็นต้องเรียกร้องสูงเกินไป เราเริ่มจากเรื่องเล็กๆ ใกล้ๆ ตัวก่อน แต่ควรต้องทำทันที อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง


ยกตัวอย่างเรื่องเล็กๆ แต่ปัญหาใหญ่มาก คือปัญหาขยะในทุกชุมชนเราเคยเขียนเตือนมานานแล้วว่า การจัดการขยะเป็นหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันของทุกคน หากโยนภาระให้หน่วยเก็บขยะของเทศบาลหรือหน่วยงานอื่นฝ่ายเดียว ไม่มีทางแก้ไขปัญหาขยะสำเร็จหรอก


และก็อย่านึกว่าปัญหาขยะเป็นปัญหาของสังคมเมืองใหญ่ๆ เท่านั้นในอนาคตอันใกล้นี้ ชุมชนในประเทศไทยจะกลายเป็นชุมชนเมืองกันหมดจะเกิดปัญหาการจัดการขยะในทุกตำบล อบต., เทศบาล จะจัดการกับขยะที่ล้นตำบลกันอย่างไร


ในโอกาส “วันโลก” ปีนี้ ขอเรียกร้องเรื่องขยะเรื่องเดียว ช่วยกันคิด ช่วยกันทบทวน ช่วยกันวางแผนบริหารจัดการให้ดีเถิดและอย่าลืมจุดสำคัญที่สุดคือต้องทำให้พลเมืองไทยทุกคนมีความรับผิดชอบถือเรื่องจัดการขยะอย่างถูกต้องเป็นหน้าที่พลเมือง


         


 


 


ที่มา: บทบรรณาธิการจากหนังสือพิมพ์สยามรัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code