Page 99 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 99








ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๗ ส�านักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้อง

เรียนรวม ๔๖,๔๑๙ ราย (เฉลี่ยปีละ ๘,๐๐๐ ราย) แบ่งประเภทการร้องเรียนเป็น ๓ ประเภทตามล�าดับที่มีการ
ร้องเรียนมากที่สุด ได้แก่ (๑) ประเภทบริการร้อยละ ๓๗ (๒) ประเภทอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยร้อยละ

๓๒ และ (๓) ประเภทสินค้าอุปโภคและบริโภคร้อยละ ๓๑ ๖๒

ประเด็นการร้องเรียนของผู้บริโภคนอกเหนือจาก สคบ. และ อย. ยังมีหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งท�าหน้าที่
รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคในเรื่องที่อยู่ในอ�านาจหน้าที่ของหน่วยงานนั้น เช่น เรื่องเกี่ยวกับคุณภาพและ

มาตรฐานสินค้า มีส�านักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นหน่วยรับผิดชอบ ปัญหาราคา
สินค้าอุปโภคบริโภค มีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยรับผิดชอบ ปัญหาด้านโทรคมนาคม
มีส�านักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

เป็นหน่วยรับผิดชอบ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละหน่วยงานก็ยังพบการร้องเรียนจากผู้บริโภคจ�านวนมาก เกี่ยวกับ
ปัญหาความเดือดร้อนในด้านต่างๆ จากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่า แม้จะมีหน่วยงานที่
ท�าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคในด้านต่างๆ อยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิได้

เท่าที่ควร สถิติการร้องเรียน จึงยังคงมีในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

นอกเหนือจากหน่วยงานรัฐดังกล่าว มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) ซึ่งเป็นองค์กรภาคเอกชน
ไม่แสวงหาก�าไรได้ให้ข้อมูลว่า ในปี ๒๕๕๙ มีเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภคมาที่ มพบ. (รวมถึงเครือข่ายใน ๔๔

จังหวัด) รวมทั้งสิ้น ๓,๖๒๒ เรื่อง เป็นปัญหาด้านบริการสุขภาพและสาธารณสุข ๖๘๐ เรื่อง ปัญหาด้าน
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ๔๕๐ เรื่อง โดยในส่วนของการเยียวยาหรือแก้ปัญหาให้กับผู้มาร้องเรียนนั้น ในปี ๒๕๕๘
๖๓
มพบ. และเครือข่าย ได้รับเรื่องร้องเรียนรวม ๒,๔๘๕ เรื่อง ซึ่งสามารถช่วยเหลือกระทั่งสิ้นสุดการด�าเนินการ

แล้ว ๑,๓๙๒ เรื่อง หรือเกินกว่าครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ ๕๖) แสดงให้เห็นความส�าคัญและศักยภาพขององค์กร
๖๔
ผู้บริโภคภาคประชาชน ในการช่วยเหลือดูแลผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม

๓.๒ บทบัญญัติด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ในรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. ๒๕๖๐

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งผ่านการลงประชามติในปี ๒๕๕๙ และได้รับ แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑

พระราชทานประกาศใช้เมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๐ มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคโดยตรง
ใน ๒ มาตรา คือ

มาตรา ๔๖ บัญญัติว่า“สิทธิของผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครอง บุคคลย่อมมีสิทธิรวมกัน

จัดตั้งองค์กรของผู้บริโภคเพื่อคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค องค์กรของผู้บริโภคตามวรรคสองมีสิทธิ
รวมกันจัดตั้งเป็นองค์กรที่มีความเป็นอิสระ เพื่อให้เกิดพลังในการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค
โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดตั้ง อ�านาจในการเป็นตัวแทนของผู้บริโภค และ 97

การสนับสนุนด้านการเงินจากรัฐ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ”






๖๒ ระบบคุ้มครองผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ ส�านักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
๖๓ http://www.posttoday.com/social/general/475031 (สืบค้นเมื่อ ๘ เม.ย. ๒๕๖๐)
๖๔ รายงานผลการด�าเนินงานโครงการสร้างความเข้มแข็งกลไกการคุ้มครองผู้บริโภค ปีที่ ๑ (๒๕๕๙)
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104