Page 102 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 102








๔.๒ สถานการณ์ด้านขยะมูลฝอย ๖๘


ในช่วงปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนทั่วประเทศมีเพิ่มขึ้นทุกปีคือ ๒๔.๗๓ ๒๖.๗๗
๒๖.๑๙ และ ๒๖.๘๕ ล้านตัน ตามล�าดับ โดยปี ๒๕๕๘ มีอัตราการเกิดขยะมูลฝอยเฉลี่ย ๑.๑๓ กิโลกรัม/คน/
วัน ซึ่งขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นทั้งหมด ได้รับการเก็บขนเพื่อนำาไปกำาจัดรวม ๑๕.๔๙ ล้านตัน (ร้อยละ ๕๘)

โดยกำาจัดได้อย่างถูกต้องเพียง ๘.๓๔ ล้านตัน (ร้อยละ ๓๑) มีการน�าไปใช้ประโยชน์ ๔.๗๔ ล้านตัน (ร้อยละ

100 ๑๘) ใน ๓ ลักษณะ ได้แก่ (๑) การใช้ประโยชน์โดยการรีไซเคิล (๒) การใช้ประโยชน์จากขยะอินทรีย์ และ (๓)
การแปรรูปมูลฝอยให้เป็นพลังงาน โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ๔,๕๔๕ แห่ง หรือร้อยละ ๕๙
ของ อปท. ทั้งหมด ที่ให้บริการเก็บขนและรวบรวมขยะมูลฝอยเพื่อน�าไปก�าจัดและสามารถก�าจัดได้ถูกต้อง
ตามหลักวิชาการ ร้อยละ ๕๔ ของปริมาณขยะที่เก็บขนได้ ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ ๔๖ ถูกน�าไปก�าจัดโดย

ไม่ถูกต้อง เช่น การเผากลางแจ้ง และลักลอบทิ้งในพื้นที่สาธารณะ ฯลฯ

๔.๓ การปนเปื้อนของมลพิษจากอุตสาหกรรม : กรณีศึกษาการปนเปื้อนสารปรอทในเขต
อุตสาหกรรม ๖๙

ในปี ๒๕๕๘ รายงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่า มีจ�านวนสะสมของโรงงานอุตสาหกรรม

ทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๓๕
รวม ๑๓๙,๘๒๑ แห่ง และข้อมูลจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทย
มีนิคมอุตสาหกรรม ๔๗ นิคม ใน ๑๕ จังหวัด กระจายอยู่ในทุกภาค
แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เนื่องจากประเทศไทย ยังไม่มีการรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์มลพิษจากอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ

ในที่นี้ จึงได้น�ากรณีศึกษาเกี่ยวกับการปนเปื้อนของสารปรอทในพื้นที่อุตสาหกรรมแห่งหนึ่งมาน�าเสนอ
เพื่อแสดงให้เห็นสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกันในพื้นที่อุตสาหกรรมอื่นๆ

จากผลการศึกษาประเมินสถานการณ์สารปรอทระดับโลกเมื่อปี ๒๕๔๕ โดยโครงการสิ่งแวดล้อม

แห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ปลาทั่วโลกมีสารปรอทปนเปื้อนในปริมาณที่ก่อผลเสียต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิต
(UNEP 2002) ประกอบกับการตรวจวิเคราะห์เส้นผมเพื่อประมาณระดับสารปรอทอินทรีย์ (เมทิลเมอร์คิวรี่)
ที่สะสมในร่างกายมนุษย์ถือเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับว่าเชื่อถือได้ และการได้รับสารปรอทอินทรีย์ (เมทิล

เมอร์คิวรี่) ส่วนใหญ่มาจากการบริโภคปลา (Grandjean, Weihe et al. 1998); (Harada, Nakachi
et al. 1999); (Knobeloch, Gliori et al.2007); (Myers, Davidson et al. 2000) ผลเสียของการมี
สารปรอทอินทรีย์สะสมในร่างกายมากเกินค่าปลอดภัย คือการท�าให้เกิดอาการและโรคมินามาตะ

มูลนิธิบูรณะนิเวศ ซึ่งได้รับการร้องขอจากประชาชนใน อ�าเภอท่าตูม จังหวัดปราจีนบุรี ให้ศึกษา

เกี่ยวกับมลพิษในพื้นที่ เนื่องจากตลอดระยะเวลากว่า ๑๐ ปีที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่ได้ร้องเรียนเรื่องมลพิษ
ทางอากาศ น�้า และเสียง รวมทั้งฝุ่นถ่านหินจากกองเก็บถ่านหินแบบเปิดของโรงไฟฟ้า นอกจากนั้น ยังมี






๖๘ แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ ส�านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๖๙ รายงานการศึกษา “พื้นที่ปนเปื้อนสารปรอทของประเทศไทยแหล่งโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงผลิตเยื่อกระดาษ ต�าบลท่าตูม อ�าเภอศรีมหาโพธิ
จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายงานการศึกษาในโครงการรณรงค์เพื่ออนาคตอันปลอดสารปรอท เครือข่ายระหว่างประเทศว่าด้วย
การก�าจัดสารพิษตกค้างยาวนานในสิ่งแวดล้อม (International POPs Elimination Network : IPEN) โดย มูลนิธิบูรณะนิเวศ (ประเทศไทย)
สมาคมอาร์นิกา (สาธารณรัฐเช็ก) และคณะท�างานด้านโลหะหนัก เครือข่ายระหว่างประเทศว่าด้วยการก�าจัดสารพิษตกค้างยาวนาน
ในสิ่งแวดล้อม, มกราคม ๒๕๕๖.
   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107