Page 234 - บันทึกความจงรัก-02.indd
P. 234
ของพระองค์อยู่ดีกินดี เมื่อถึงพระบรมมหาราชวังแล้ว ผมจะเข้าไปกราบพระบรมศพ
ของพระองค์ท่านเพื่อแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ตอบแทนที่พระองค์ทรงมีพระ-
มหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรตลอดมา” เขากล่าวด้วยความตื้นตัน
เจ้าตัวออกเดินทางจากบ้านพักตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๙ ใช้เส้นทาง
ลัดจาก อ.ปะค�าเข้า อ.โนนสุวรรณ เพื่อเข้าสู่ถนนสาย ๒๔ โชคชัย-เดชอุดม ต่อไปยังถนน
มิตรภาพ ในระหว่างทางก็แวะพักค้างคืนตามตู้ยามต�ารวจในเส้นทางผ่าน มีเจ้าหน้าที่
มูลนิธิกู้ภัยฯ ประสานส่งต่อดูแลไปตามเส้นทาง ซึ่งตลอดเส้นทางมีผู้พบเห็นได้จัดหาน�้า
ดื่ม อาหาร สิ่งของจ�าเป็นไปมอบให้เป็นระยะ มีคนเข้ามาแสดงความชื่นชมและให้ก�าลังใจ
ลุงปาน ขอให้เดินทางสู่จุดหมายปลายทางอย่างที่ตั้งใจ
ก�าลังใจเป็นสิ่งส�าคัญที่สุดในการปฏิบัติหน้าที่หรือกระท�ากิจธุระใดๆ ก็ตาม ลุงปาน
บอกว่าตนได้รับมาโดยตลอดจากพระองค์ท่าน ท�าให้ตลอดระยะเวลาในการด�าเนินชีวิต
ที่ผ่านมา สร้างขวัญและก�าลังใจให้กับตนเป็นอันมาก ในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความดี
ตอบแทนคุณพระองค์
-
ผู้บกพร่องทางสายตาจ�านวน ๓๐๐ คนและจิตอาสา ๑๐๐ คน จากสมาคมนักเรียน
เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพฯ ภายใต้การด�าเนินงานของมูลนิธิช่วยคนตาบอด
แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ คนตาบอดจ�านวนมากช่วยกัน
เดินจูงมือกันอย่างช้าๆ โดยมีจิตอาสาคอยดูแลอย่างทั่วถึง ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้เข้ากราบ
สักการะพระบรมศพ
นายช่วง โพธิรัญ อายุ ๖๘ ปี ผู้บกพร่องทางสายตาจาก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
ในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพฯ กล่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงมี
พระมหากรุณาธิคุณกับคนพิการ โดยเฉพาะคนตาบอด ครั้งหนึ่งเสด็จพระราชด�าเนิน
พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ไปพระราชทาน
234