Bangkok Car Free Day 2012 รวมพลังนักปั่นเพื่อทางจักรยาน

 

เดี๋ยวนี้ใครไม่ปั่นจักรยานอาจถูกมองว่าเชย ล้าสมัยเอาได้ง่ายๆเพราะมองไปทางไหนก็เห็นจักรยานเต็มท้องถนนไปหมด ตั้งแต่หนุ่มสาวออฟฟิศปั่นไปทำงาน พ่อบ้านแม่บ้านปั่นออกกำลังกาย-จ่ายตลาด ตลอดจนหมู่วัยรุ่นอวดโฉมรถคู่ใจสีสันสะดุดตา

Bangkok Car Free Day 2012 รวมพลังนักปั่นเพื่อทางจักรยาน

Bangkok Car Free Day 2012 งานใหญ่ประจำปีที่ไม่ควรพลาดนอกจากจะเป็นการสร้างจิตสำนึกช่วยกันลดการใช้รถยนต์ หันมาใช้จักรยานและระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ เพื่อรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนแล้ว ยังถือเป็นการรวมพลังครั้งสำคัญของนักปั่นชาวกรุงอีกด้วย

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าทุกวันนี้มีรถจดทะเบียนสะสมอยู่ในกรุงเทพมหานครถึง 7 ล้านคัน ขณะที่ท้องถนนในเมืองสามารถรองรับปริมาณรถได้เพียง 1.6 ล้านคันเท่านั้น

นั่นหมายความว่ามีปริมาณรถมากกว่า 4.4 เท่าของถนนเลยทีเดียว

เบื่อกันบ้างไหมเวลานั่งหลังพวงมาลัยบนรถที่ติดแหง็กนานหลายชั่วโมงในแต่ละวัน

 ด้วยความเซ็งสุดขีดกับปัญหาการจราจรติดขัดบวกกับอยากประหยัดค่าเดินทาง ผสมผสานความคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ใฝ่หาความรื่นรมย์ในชีวิตทั้งหมดนี้ผลักดันให้หลายคนตัดสินใจหันมาปั่นจักรยานกันอย่างจริงจัง จนกลายเป็นกระแสระบาดไปทั่วเมือง

ถามว่าเดี๋ยวนี้มีคนปั่นกันเยอะแค่ไหน?”พูดง่ายๆ ทุกครั้งที่ออกจากบ้านก็จะเห็นจักรยานบนถนนเสมอ”

ประโยคสั้นๆ แต่ฉายภาพให้เห็นแจ่มชัดถึงความนิยมปั่นจักรยานของคนกรุงเทพฯ โดย แนน-นนลนีย์ อึ้งวิวัฒน์กุล นักปั่นสาว ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Bangkok Bicycle Campaign แฟนเพจอันโด่งดังในเฟซบุ๊ก

เธอใช้จักรยานเป็นพาหนะหลักในชีวิตประจำวันมานาน 4 ปีแล้ว

“น่าชื่นใจมากที่เห็นคนหันมาปั่นจักรยานกันเยอะขึ้น มีทุกแนว กลุ่มผู้ใหญ่ที่อยากสุขภาพแข็งแรง ปั่นใกล้บ้าน ออกกำลังกายจ่ายตลาด พวกที่ใช้ปั่นไปทำงาน อย่างกลุ่มเมาท์เทนไบค์ จักรยานพับ วัยรุ่นก็ชอบปั่นเสือหมอบ ฟิกซ์เกียร์ไปเรียน เขามองว่าช่วยประหยัดในการเดินทาง ยังไม่นับรวมคนที่ปั่นเพื่อเป็นการพักผ่อนในวันหยุดอีก เดี๋ยวนี้ทุกเขตมีกลุ่มจักรยานเป็นของตัวเอง ร้านจักรยานทั้งใหญ่เล็กมีมากกว่า 50 แห่ง แล้วช่วง 2-3 ปีนี้ ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ก็เริ่มมีการโพสต์ภาพสวยๆ ของนักปั่น จักรยานเท่ๆ กดไลค์ แชร์ต่อกันไป จนกลายเป็นสังคมของคนรักจักรยานที่กว้างขวางและมีพลังมากขึ้นทุกที”

แต่ถึงอย่างนั้น นนลนีย์ ก็ยอมรับว่าถนนหนทางสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการปั่นจักรยานในกรุงเทพฯ ยังไม่มีอะไรใหม่ ซ้ำยังแย่ลงกว่าเดิมด้วย

“พื้นผิวถนน ฟุตปาท สะพานน้อยใหญ่ต่างๆ ก็เก่าแก่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา มีหลุมบ่อ ขรุขระฝาท่อไม่เรียบร้อย เลนจักรยานก็ยังไม่มี ทางเท้าเต็มไปด้วยแผงลอย รถไฟฟ้าใต้ดินนำขึ้นได้แต่จักรยานประเภทพับ ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุญาตจักรยานทุกประเภท ไม่มีที่จอดรถปลอดภัย ทัศนคติของคนขับรถยนต์ก็ยังมองว่าจักรยานไม่สมควรมาใช้ถนนใหญ่ สรุปแล้ว กรุงเทพฯ ยังไม่พร้อมที่จะเป็นเมืองจักรยาน ตราบใดที่ยังไม่มีเส้นทางและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับจักรยานที่ชัดเจน”

อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้ ทางมูลนิธิโลกสีเขียวร่วมกับเครือข่ายจักรยานอื่นๆ กำลังจะออกแผนที่สำหรับเส้นทางจักรยานในกรุงเทพฯ

“ข้อมูลทั้งหมดมาจากเหล่านักปั่นทุกเขตช่วยกันลงพื้นที่สำรวจเส้นทาง สามารถบอกได้ว่าเส้นไหนทางเรียบ โล่งสะดวก มีซอยเชื่อมต่อมีทางลัด เส้นไหนถนนปลอดภัย รถไม่เยอะ เส้นไหนถนนไม่เรียบร้อย ควรหลีกเลี่ยง เรียกได้ว่าเป็นแผนที่เส้นทางจักรยานในกรุงเทพฯ ฉบับแรกที่สมบูรณ์ที่สุดเลย”แนน บอกอย่างตื่นเต้นในวาระใกล้จะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. สิ่งที่เธอและกลุ่มผู้ปั่นจักรยานอยากฝากให้พิจารณาเป็นอันดับแรกคือ ที่จอดรถจักรยานปลอดภัยและสะพานลอยที่มีทางลาดสำหรับเข็นจักรยานขึ้นลง

“ตอนนี้คนปั่นจักรยานเยอะมาก นับหมื่นคนเลยก็ได้ แต่หลายคนยังไม่กล้าปั่นออกจากซอยบ้านไปไกล กลัวอันตราย กลัวรถหาย ถ้ามีที่จอดรถจักรยานปลอดภัยในที่ทำงาน ตามที่สาธารณะ มีเจ้าหน้าที่ดูแล จะแลกบัตร หรือเก็บเงินก็ได้ เชื่อว่าคนจะอุ่นใจและกล้าใช้จักรยานในการเดินทางมากขึ้น”

ยอดตัวเลขของนักปั่นจักรยานที่พุ่งสูงขึ้นทุกปี ยังวัดได้จากการมาลงทะเบียนร่วมงานใหญ่อย่าง Bangkok Car Free Day 2012 ซึ่งจัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 12 แล้ว

“ยอดผู้มาร่วมงานเพิ่มขึ้นทุกปี นับแต่วันแรกมีแค่หลักร้อย เพิ่มเป็นหลักพัน พอมาสองปีที่แล้วมีนักปั่นร่วมงาน 3,000 คัน ปีถัดมาเพิ่มเป็น 6,000 คันส่วนปีนี้น่าดีใจมากมีผู้ลงทะเบียนมาร่วมงานมากถึง 1.1 หมื่นคันสถิติใหม่เลย ยังไม่นับคนที่จะทยอยมาเพิ่มในวันนั้นอีกนะ”

เป็นคำบอกเล่าอย่างอารมณ์ดีของ มงคล วิจะระณะ หรือที่ผู้คนในแวดวงสองล้อเรียกอย่างคุ้นเคยว่า น้าหมี อุปนายกสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย หัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดงาน Bangkok Car Free Day 2012 นี้

น้าหมี เล่าว่า กว่า 12 ปีที่จัดงาน เสียงของนักปั่นจักรยานค่อยๆ ดังขึ้นทีละนิด ก่อนจะกลายมาเป็นเสียงตะโกนกึกก้องทรงพลังเหมือนเช่นวันนี้

“จริงๆ แล้ว เมื่อก่อนวัตถุประสงค์หลักของงานเราอยากให้คนลดใช้รถยนต์หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน จักรยานเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งเท่านั้น แต่สมัยนี้ที่นับวันคนปั่นจักรยานยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นไม่หยุด จุดมุ่งหมายสำคัญจึงเปลี่ยนมาเป็นการเรียกร้องให้มีเส้นทางจักรยานที่ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในกรุงเทพฯ”

เส้นทางจักรยานในฝันของนักปั่นชาวกรุงจะเกิดขึ้นได้ ประกอบด้วย 3 ปัจจัย คือ พลังของสิงห์นักปั่น ไอเดียของผู้ออกแบบเส้นทางจักรยาน และอำนาจจากทางภาครัฐที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันนโยบายให้เป็นจริง

“การแสดงพลังของพวกเราผู้ขับขี่จักรยานในงานนี้ จะแสดงถึงความสามัคคี ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบ่งสีแบ่งค่าย เรามีความคิดจะเสนอให้มีเส้นทางจักรยานในวงแหวนรอบใน รวมระยะทาง 46 กิโลเมตร (จรัญสนิทวงศ์-พระราม 3-คลองเตยสุขุมวิท-เพชรบุรีตัดใหม่-แยก อสมท-รัชดาภิเษกวิภาวดีรังสิต-วงศ์สว่าง) ประกาศถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สมัยหน้าด้วย”

พวกเราสนับสนุนนโยบายสิ่งแวดล้อม มีเส้นทางที่ปลอดภัย ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่อผู้ขับขี่จักรยาน เน้นเรื่องการปลูกต้นไม้ลดมลพิษ เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนกรุงเทพฯ”

นี่คือน้ำเสียงจริงจังหนักแน่นของนักปั่นตัวพ่อ

ท่ามกลางกระแสนิยมของการปั่นจักรยานที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

ถึงเวลาแล้วที่ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองควรเลิกขายฝันเรื่องกรุงเทพฯ เมืองจักรยาน แล้วลงมือประชุมวางแผน สร้างถนน ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เอื้อเฟื้อแก่ผู้ขับขี่จักรยานเสียที

เชื่อเถอะว่าเมื่อถึงวันนั้นสิงห์นักปั่นทั้งหลายจะรักท่าน

Bangkok Car Free Day 2012 ปีนี้มีอะไร

Bangkok Car Free Day 2012 ภายใต้แนวคิด “กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์ มหัศจรรย์วันปลอดรถ” จะจัดขึ้นในวันที่ 23 ก.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ณ สวนลุมพินี เปิดโอกาสให้ประชาชนสร้างจิตสำนึกช่วยกันลดการใช้รถยนต์ หันมาใช้จักรยานและระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ เพื่อรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนและมลพิษทางอากาศ

ภายในงานมีกิจกรรมพิเศษโดยการรวมตัวกันของขบวนจักรยานที่มาจากถนน 14 สายทั่วกรุงเทพฯ กว่า 1.1 หมื่นคันร่วมแปรขบวนจักรยานเป็นรูปธงชาติไทยที่ยาวที่สุด บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จากนั้นจะรวมตัวและร่วมกิจกรรมที่สวนลุมพินี

นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมอื่นๆ มากมายอาทิ นิทรรศการ 6 มหานคร สำหรับคนรักจักรยาน ประกอบด้วย เมืองโคเปนเฮเกน มิวนิก ลอนดอน นิวยอร์ก โตเกียว และโบโกตาจัดจำหน่ายอุปกรณ์จักรยานราคาถูกบริการตรวจสุขภาพฟรี

ทั้งนี้ จะมีการจัดจำลองทางจักรยานในฝันโดยจะปิดการจราจรบริเวณถนนราชดำริ ฝั่งสวนลุมพินีและถนนสารสินบางส่วนตั้งแต่เช้ายันบ่าย ให้นักปั่นได้สัมผัสบรรยากาศถนนปลอดรถด้วย

จอดรถอยู่บ้าน กระโดดขึ้นอาน แล้วปั่นจักรยานมาเจอกันที่งานนะจ๊ะ

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ โดย อินทรชัย พาณิชกุล

 

Shares:
QR Code :
QR Code