8 เยาวชนชวนกระจายกลิ่น ‘ความดี’

นับเป็นการปลุกพลังแห่งความดีที่เริ่มจากต้นกล้าเล็กๆ ได้อย่างตรงเป้ากับโครงการ “ทูตความดีแห่งประเทศไทย ปี 2” ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนอนาคตประเทศไทยด้วยพลังเยาวชน” ด้วยมุ่งเน้นให้เยาวชนขบคิดวิธีการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นทุกเศษเสี้ยวในแบบฉบับของตัวเอง ในที่สุดก็ได้ 8 เยาวชนตัวแทนจากทั่วประเทศที่พร้อมจะเปลี่ยนอนาคตประเทศไทยเข้าสู่ “บ้านความดี” ได้แก่ ธวัลหทัย แสงงิ้ว และ สุคัณญภา โพธิรักษ์ ตัวแทนภาคใต้, ปภังกร มีแก้ว และ วัชราภรณ์ ถมจอหอ ตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ฤทธิพันธุ์ วิจิตรพร และ นภัสวรรณ ลังกาวงษ์ ตัวแทนภาคเหนือ, วิทิกรณ์ รังนกใต้ และ ทศพร ล้อเพชรรุ่งเรือง ตัวแทนจากภาคกลาง


8 เยาวชนชวนกระจายกลิ่น 'ความดี'


ผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ปัญหาคอร์รัปชั่นมีที่มายาวนานมากในประเทศไทย เป็นเรื่องน่าเศร้ามาก มีการสำรวจให้เรตติ้งเรื่องความไม่โปร่งใสของประเทศไทย ได้คะแนนลดลงเรื่อยๆ จากเดิมที่เคยได้คะแนนอยู่ที่ 3.8 กระทั่งเมื่อปี 2553 ประเทศไทยคะแนนเหลืออยู่ที่ 3.5 ปี 2554 ได้คะแนน 3.4 และมีเกณฑ์จะลดลงเรื่อยๆ และทุกครั้งที่มีการทำผลสำรวจเยาวชนอายุ 20-29 ปี 70 เปอร์เซ็นต์มองว่าประเทศไทยโกงบ้างไม่เป็นไร ขอให้มีผลงานพอ ส่วนผู้ใหญ่ 60 เปอร์เซ็นต์ มองว่ารัฐบาลคอร์รัปชั่นได้ไม่เป็นไร ขอให้มีผลงานอยู่ดีกินดีพอ สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้รู้ว่าอนาคตของประเทศกำลังเปลี่ยนไป


“เรื่องแบบนี้เราจะยอมต่อไปไม่ได้ ต้องพยายามทำให้ประเทศของเราดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มจากเด็กและเยาวชน อนาคตของชาติเหล่านี้ต้องมีความเข้มแข็ง ดีใจที่ได้เด็ก 8 คนนี้มาเป็นตัวแทนของเยาวชนทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นเราจะไม่หมดหวัง พวกเขาจะเป็นกระบอกเสียงที่จะประกาศให้รู้ทั่วกันว่าอะไรถูกอะไรผิด เมื่อเป็นเช่นนี้เราคาดหวังได้ว่าคอร์รัปชั่นจะลดลงหรือหายไปในสังคมไทย และผลสุดท้ายที่จะได้รับ คือ การกินดีอยู่ดี ประเทศอยู่ในความสงบสุขอย่างยั่งยืน” ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าว


ส่วนประธานโครงการทูตความดีแห่งประเทศไทย ดนัย จันทร์เจ้าฉาย เผยถึงการคัดเลือกเยาวชนเข้าบ้านความดีว่า ปีนี้ลดโจทย์ให้เหลือเพียง 1 โจทย์ คือ ทำอย่างไรให้คนโกงไม่มีที่ยืนในสังคมไทย ซึ่งปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาที่ฝังรากลึก และกัดกร่อนสังคมไทยมาช้านาน และหากมองดีๆ แล้วการทุจริตไม่ได้จำกัดเฉพาะในแวดวงการเมืองเท่านั้น แต่กลับเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งจะเห็นได้จากการโกงข้อสอบ ดังนั้นการเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ ได้สื่อสารสิ่งเหล่านี้ ถือเป็นการเริ่มต้นให้คนดีที่มีเยอะแต่ขาดความกล้าได้แสดงออกด้วย


ด้าน “ฟาง” นภัสวรรณ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 8 ที่จะเข้าบ้านความดี ซึ่งนำเสนอการปราบคอร์รัปชั่นในแบบของตัวเองว่า จะต้องสร้างเครือข่ายเยาวชนให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการคอร์รัปชั่นให้ลึกซึ้ง ด้วยการสอนและอธิบายลักษณะของการคอร์รัปชั่นในรูปแบบต่างๆ เพื่อจะได้ขยายต่อความเข้าใจเหล่านี้ไปยังคนรอบข้าง


“การคอร์รัปชั่นที่ใกล้ตัวฟางที่สุด คือ การทุจริตการสอบ หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างทอนเงินเกินแล้วไม่คืน บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องดีที่ได้เงินเพิ่มขึ้น แต่จริงๆ แล้วเป็นการกระทำที่ผิด เพราะเงินเหล่านั้นไม่ใช่ของเรา การทุจริตเล็กๆ เหล่านี้จะก่อเกิดเป็นการทุจริตเรื่องใหญ่ในอนาคตได้ ฟางได้รับการปลูกฝังเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก แม้กระทั่งการยืมของเล่นคนอื่นมาเล่น คุณพ่อจะบอกเสมอว่าไม่ใช่แค่เอาไปคืน แต่จะต้องเอาไปวางไว้ที่เดิมที่เอามาด้วย เพราะนั่นหมายถึงการรับผิดชอบต่อตัวเองและสิ่งที่ทำ เราเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ที่ไม่อาจจะแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นใหญ่ๆ ได้ แต่เราสามารถขจัดต้นตอของการคอร์รัปชั่นได้ เรื่องแบบนี้เราไม่ควรเพิกเฉย เวลานี้ประเทศไทยเป็นเสมือนไอศกรีมที่กำลังจะเหลือแต่ไม้ ถ้าเราปล่อยไปเรื่อยๆ แบบนี้ ลูกหลานของเราในอนาคตอาจจะไม่มีประเทศเหลือให้ยืนก็ได้” ว่าที่นางพยาบาลแจกแจง


 


 


 


ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

Shares:
QR Code :
QR Code