8คนใน1ชั่วโมง’โรคหัวใจ’คร่า

แนะวิธีลดเสี่ยง

8คนใน1ชั่วโมง’โรคหัวใจ’คร่า 

          ทุก  1  ชั่วโมง โรคหัวใจคร่าชีวิตผู้ป่วย  8  คน  ระบุแนวโน้มผู้ป่วยโรคหัวใจมีอายุเฉลี่ยน้อยลง  แนะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในที่ทำงาน ปรับการกิน งดของมัน ทอด บุหรี่ ลดความเสี่ยงได้

 

          ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ  โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า  วันที่  27  กันยายนนี้  มีการจัดงานวันหัวใจโลก-world  heart  day  2009  พล.อ.นพ.ประวิชช์  ตันประเสริฐ  ประธานชมรมฟื้นฟูโรคหัวใจ  และกรรมการมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า  ทุกวันอาทิตย์สิ้นเดือนกันยายนของทุกปี   สมาพันธ์โรคหัวใจได้กำหนดให้เป็นวันหัวใจโลก  พร้อมกำหนดคำขวัญในปีนี้ว่า  “เอาใจใส่หัวใจในที่ทำงาน”  เนื่องจากชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่อยู่ในที่ทำงาน  ดังนั้น  จึงควรปฏิบัติตนและมีพฤติกรรมในที่ทำงานที่เหมาะสมเพื่อลดโรคที่อาจเกิดขึ้น  ทั้งการรับประทานอาหารให้เหมาะสม   ปราศจากไขมัน  และออกกำลังกายเคลื่อนไหวร่างกายเล็กน้อย   เพื่อกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้ดียิ่งขึ้น  รู้จักปล่อยวางเพื่อไม่ให้เกิดความเครียด

 

          พล.อ.นพ.ประวิชช์กล่าวว่า จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข  พบสถิติของผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ ทั้งโรคหัวใจขาดเลือด หลอดเลือดหัวใจตีบ เฉลี่ยมีอัตราการเสียชีวิตจำนวน   8  คน ทุกๆ  1  ชั่วโมง ดังนั้น จึงต้องมีการรณรงค์เพื่อให้เกิดการปรับพฤติกรรมลดโรค   เพราะปัจจุบันพบว่าอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคหัวใจมีอายุน้อยลง  ประมาณ  40   ปีขึ้นไป

 

          “สาเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่มีทั้งการสูบบุหรี่  รับประทานอาหารไม่เหมาะสม  โดยเฉพาะของมัน ของทอด  ขาดการใช้กิจกรรมทางกายที่ดี การรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจที่เกิดขึ้น มีทั้งรับประทานยา การผ่าตัดทำบายพาส การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ แต่การป้องกันตั้งแต่เบื้องต้นถือเป็นหนทางที่ดีสุด เพราะนอกจากจะลดความเสี่ยงจากอาการแทรกซ้อนในการผ่าตัดแล้ว  ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้วย”  กรรมการมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยกล่าว

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  กิจกรรมภายในงานวันหัวใจโลกยังมีการบรรยายให้ความรู้ถึงการออกกำลังกายอย่างง่ายในที่ทำงาน  เช่น  การขยับแขนขาเพื่อกระตุ้นหัวใจ  การตรวจสุขภาพ  วัดสมรรถภาพร่างกาย  การตรวจวัดน้ำตาลในเลือด  สาธิตการปั๊มหัวใจช่วยชีวิตผู้ป่วย  การระโดดเชือกช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ  เป็นต้น.

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

 

update: 28-09-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย

Shares:
QR Code :
QR Code