7 ขั้นตอนปฏิบัติ รับบริการฉีดวัคซีนสายพันธุ์ใหม่ H1N1 2009
สำรวจตนเองสักนิดดีกว่า
อันดับแรกสำรวจตนเองว่าอยู่ในกลุ่มเป้าหมาย หรือไม่
วัคซีนเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในการป้องกันโรค แต่เนื่องจากวัคซีนมีจำกัดและเป็นที่ต้องการทั่วโลก ดังนั้นจึงต้องมีการจัดลำดับกลุ่มเป้าหมายเสี่ยงสูงที่เมื่อป่วยจะมีอาการรุนแรงในการให้วัคซีน ดังนี้
1. หญิงมีครรภ์ อายุครรภ์มากกว่า 3 เดือนขึ้นไป
2. บุคคลที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัม/เมตร2
3. ผู้พิการรุนแรงที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้
4. บุคคลอายุ 6 เดือน – 64 ปี ที่มีโรคประจำตัว
2.สำรวจตนเองว่ามีข้อห้ามในการรับวัคซีนหรือไม่
บุคคลที่มีข้อห้ามรับวัคซีน
– บุคคลอายุน้อยกว่า 6 เดือน
– ผู้ที่แพ้ไข่ หรือสารเคมีอื่นที่อยู่ในวัคซีน
– ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วมีอาการแพ้อย่างรุนแรง
– หากมีไข้ หรือมีอาการเจ็บป่วยที่อาการไม่น่าวางใจ ควรเลื่อนการรับวัคซีนไปก่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จนกว่าจะเป็นปกติหรือโรคประจำตัวมีอาการคงที่ควบคุมได้
ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยให้ปรึกษาแพทย์ในโรงพยาบาลก่อนการฉีดวัคซีนทุกครั้ง
3.รับรู้ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ถือว่าเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยสูง ได้มีการให้กับคนทั่วโลกแล้วประมาณร้อยล้านคน แต่ก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่รุนแรง เช่น ปวด, บวม บริเวณฉีดวัคซีน, มีไข้ต่ำๆ, ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงมีโอกาสเกิดน้อยมาก เช่น การแพ้วัคซีน, อาการทางระบบประสาท
4.สมัครใจรับและลงชื่อรับวัคซีน เมื่อได้รับทราบเหตุผลความจำเป็นรวมทั้งภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นแล้วให้ผู้รับบริการตัดสินใจในการรับวัคซีนโดยสมัครใจและลงชื่อยินยอมรับบริการ
5.รับการฉีดวัคซีน วัคซีนชนิดนี้จะฉีดเข้ากล้ามเนื้อถ้าเป็นผู้ใหญ่จะฉีดที่บริเวณต้นแขนในเด็กเล็กฉีดที่หน้าขา ผู้ใหญ่ฉีด 1 ครั้ง เด็กต่ำกว่า 9 ปี ฉีด 2 ครั้ง (ห่างกัน 4 สัปดาห์)
6.สังเกตอาการตนเอง 30 นาที หลังฉีดวัคซีน หลังฉีดวัคซีนแล้วให้นั่งพัก 30 นาที ที่โรงพยาบาล เพื่อสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงมักเกิดภายใน 30 นาทีหลังฉีดวัคซีน อาการที่สังเกตได้แก่ อาการคันที่ผิวหนัง บวมตาบวมปาก หน้า ลำคอ หายใจลำบาก ชีพจรเบา ช็อกวิงเวียน ใจสั่น เป็นลม เหงื่อออก และเมื่อกลับไปบ้านแล้วควรมีผู้ดูแลหลังฉีดวัคซีนต่ออีก 2 วัน
7.ทราบสถานที่และวิธีติดต่อโรงพยาบาลเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ ก่อนกลับบ้านต้องตรวจสอบสถานที่และวิธีติดต่อโรงพยาบาลเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ เพื่อที่จะได้ติดตามและดูแลแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีและปลอดภัย
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
Update: 05-01-53
อัพเดทเนื้อหาโดย:กิตติยา ธนกาลมารวย